‘โจ๊ก’ ลุยแม่กลอง ตามคดีมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ทำร้ายเด็ก เร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจบคดีนี้ให้ไว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ
3 พ.ย. 2565 – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจ (ท่าแร้ง) มายังสนามกีฬา อบจ.สมุทรสงคราม ก่อนเดินทางต่อด้วยรถตู้กรมตำรวจต่อมายัง สภ.อัมพวา เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีมีผู้ร้องเรียนเรื่องการทำร้ายเด็กภายในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ต.สวนหลวง อ.อัมพวา โดยมี นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าฯสมุทรสงคราม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มอบหมายงานให้แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ ทั้งการรวบรวมพยานหลักฐาน การรวมรวมกล้องวงจรปิด การสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง และการรวมรวมพยานบุคคล เป็นต้น และยังกำชับเร่งรัดให้รีบทำงานให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเดินทางกลับ
ในส่วนของพนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา นายมนตรี สินทวิชัย หรือ “ครูยุ่น” อดีต สว.สมุทรสงคราม และเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน “บ้านคุ้มครองเด็ก 3” (บ้านริมน้ำ) ใน 2 ข้อหา คือ ข้อหาทำร้ายร่างกายเด็ก และข้อหาใช้แรงงานเด็ก เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี จะนำมาใช้แรงงานไม่ได้ ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ส่วนเด็กที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ถ้าจะใช้แรงงานก็ต้องแจ้งหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาตามเรื่องพยานหลักฐานต่าง ๆ ว่าความผิดเหล่านี้จะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ ในส่วนโรงแรมของหญิงคนสนิท มีความเกี่ยวข้องและมีความผิดหรือไม่ ดังนั้นจึงเป็นเพียงเริ่มต้น ตนจึงลงพื้นที่มาตรวจสอบรายละเอียดในสำนวนสอบสวน ซึ่งจะพยายามเร่งรัดให้คดีจบให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางมาถึง ได้มีผู้ปกครองมาตามหาเด็ก เพื่อจะขอนำกลับไปดูแล แต่หาเด็กไม่เจอ ไม่รู้ว่าหน่วยงานไหนพาเด็กไปและอยู่ที่ไหน จึงมีความกังวล ขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ติดตามเด็กกลับคืนสู่อ้อมอกผู้ปกครองด้วย