วันที่ 24 ก.ค.67 ที่ บก.สส.บช.น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า สืบนครบาลรวบไวท์ตาคลี “ปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ” ไอเดียสุดคลีเอทีฟของ “ไวท์-ตาคลี” มิจออนไลน์ตัวแสบ ตุ๋นแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ที่เคยมาจับกุมตัวเองเลียนแบบภาพยนตร์ Catch me if you can ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งให้นำกำลังเข้าจับกุมเจ้าตัวยังใช้มุขเดิมแต่ไม่เป็นผล และที่เด็ดดวงคือเมื่อตรวจสอบโทรศัพท์พบว่า กำลัง “ปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ” จะหลอกขายเสื้อให้กับเหยื่อ แต่ประชาชนแฟนเพจจ๋อแจ๊ะของแทร่เห็นความผิดปกติในโลกโซเชียลแจ้งเบาะแสให้จับกุมก่อนสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 19.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพสว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. , ร.ต.ท.เลิศวริศเลิศวรปรีชา รอง สว.ฝทว.7 ทว. , ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง , ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รอง สว.ฝอ.2 บก.อก.สทส. สืบสวนติดตามจับกุมนายณรงค์ฤทธิ์ หรือไวท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/3 ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ
1.หมายจับศาลอาญาที่ 3748/2566 ลงวันที่ 1 พ.ย. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
2.หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 1043/2566ลงวันที่ 14 พ.ย. 66 ข้อหา “ร่วมกันพยายามฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด” และพบประวัติเคยถูกดำเนินคดีอาญา 2 คดีดังนี้
- “เครื่องบินเนปาล” ตกขณะขึ้นบิน ลูกเรือ-ผู้โดยสาร เสียชีวิต 18 คน
- บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม ออกงานคู่!? งานพระราชทานเพลิงศพ หรือ หายงอนกันแล้ว
- ดุเดือด! ทนายตั้ม บุก กมธ.ฟอกเงิน จี้สอบ สก.-ตร.-รมต. ส่อเอี่ยวเว็บพนัน
1.สน.ทุ่งสองห้อง คดีอาญาที่ 100/2565 ข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ใช้ตราสัญลักษณ์ปลอมของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นภาพของผู้ใช้โดยผิดกฎหมาย”
2.สภ.เมืองระยอง คดีอาญาที่ 253/2565 ข้อหา “ฉ้อโกง” พฤติการณ์กล่าวคือ ปลอมเป็น “สารวัตรแจ๊ะ” ไอเดียสุดคลีเอทีฟของ “ไวท์-ตาคลี” มิจออนไลน์ตัวแสบ ที่ตระเวนก่อเหตุหลอกลวงในโลกออนไลน์มาเป็นเวลาหลายปี จนมีทักษะแพรวพราวพลิกแพลงการหลอกลวง “ตามเทรนด์” สังคมได้อย่างแนบเนียน จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.1 จับกุมตัวไปเมื่อ 26 ก.พ. 65 โดยได้ถูกจับกุมตัวตามหมายจับ 2 หมายจับ หลังก่อเหตุแอบอ้างปลอมตัวเป็น ฝ่ายไอที ของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แล้วลวงโกงเงินค่าฉีดวัคซีนไปหลายราย ซึ่งหลังเจ้าตัวถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ประกันตัวออกมาและอยู่ระหว่างสู้คดี “ไร้สำนึก” ยังคงเดินสายหลอกลวงต่อมาเรื่อยๆพัฒนารูปแบบจนเรียกได้ว่า “ไร้รูปแบบ” เช่น ปลอมเป็นเภสัชเข้าไปในกลุ่มขายยาหลอกขายฟ้าทะลายโจร , หลอกขายหวยกองสลากพลัส จนในปัจจุบันเข้าตัวได้มีหมายจับเพิ่มมาอีก 2 หมายจับ ซึ่งเจ้าตัวยังก่อวีรกรรมแสบ “ต้มตุ๋นเจ้าหน้าที่” เลียนแบบหนัง Catch me if you can กล่าวคือ เคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนึ่งได้เข้าไปที่บ้านเพื่อจับกุมตัวนายไวท์ แต่ได้มีการโวยวายอ้างว่าถูกจับกุมไปแล้ว สร้างความไขว้เขวกับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะใช้จังหวะทีเผลอหลบหนีออกจากบ้านไป จนล่าสุด วันที่ 23 ก.ค. 67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบนครบาลบุกไปถึงที่พักในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยขณะจับกุมเจ้าตัวยังคงใช้มุขเดิมโดยพยายามตุ๋นเจ้าหน้าที่ว่าตนถูกจับกุมไปแล้ว แต่ชุดสืบนครบาลไม่หลงกล ทำการจับกุมตัวทันที และที่เด็ดดวงคือเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือก็พบว่ามีการ “ปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ” แล้วกำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหยื่อได้อย่างฉิวเฉียด
ในชั้นจับกุม นายณรงค์ฤทธิ์ฯ ให้การว่า “เรื่องการขายโควตาวัคซีนนั้น เป็นรับว่าเป็นผู้สร้างบัญชีเฟสบุคขึ้นมาใหม่และประกาศหาคนที่ต้องการฉีดวัคซีนให้มาลงเป็นกับตน แต่ภายหลังไม่ได้การรับวัคซีน จึงเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไปฟ้องตน ในส่วนนี้ก็ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ต่อมาการหลอกขายสมุนไพรฟ้าทลายโจร ได้สร้างเฟสบุคขึ้นมาใหม่ ในช่วงเวลาเดียวกับเคสวัคซีน และก็ไม่ได้มีการจัดจัดส่งสมุนไพรให้ผู้สั่งซื้อแต่อย่างใด และกรณีล่าสุดตนเองแอบอ้างเป็นสารวัตรแจ๊ะ กำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหล่าแฟนคลับแต่ว่ามาถูกจับได้เสียก่อน” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนกำลังวิตกกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) แต่คนร้ายอาศัยช่วงเวลาดังกล่าว หลอกจองโควตาการฉีดวัคซีน, หลอกจองสมุนไพรฟ้าทลายโจร ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ล่าสุดคนร้ายรายนี้วางแผนเตรียมการ หลอกขายสินค้าให้กับกลุ่มแฟนคลับสารวัตรแจ๊ะ โอกาสนี้จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน โปรดระมัดระวังมิจฉาชีพให้ดีสารวัตรแจ๊ะตัวจริงไม่เล่นโซเชียลมีเดียใดๆทุกแพลตฟอร์ม หากท่านมีเบาะแสสามารถส่งข้อมูลมาได้ที่ เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.”