โจรลักรถกระขับหนี เจ้าของรถแจ้งตำรวจตามล่า สุดท้ายพบไปจอดนอนในป่าหญ้า ถูกรุมประชาทัณฑ์อ่วม สารภาพทำไปเพราะขี้เกียจเดิน

วันที่ 25 เม.ย. 65 พ.ต.ท.ธวัฒชัย แต่งเกลี้ยง สว.เวร สภ.เมืองระยอง รับแจ้งจาก นายกิตติโชติ อายุ 18 ปี ถูกคนร้ายขโมยรถกระบะ สี่ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน ขท-8731 ระยอง ขณะจอดติดเครื่องไว้ ที่ร้านนครชัยค้าของเก่าของมารดา ต.เชิงเนิน อ.เมือง หายไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สกัดจับ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกไล่ล่าทันที

นายกิตติโชติ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถยนต์ มาที่ร้านของมารดา เพื่อมาเอาเงินไปเติมน้ำมันรถ ด้วยความชะล่าใจ จึงติดเครื่องยนต์ไว้ แล้วลงรถไปหามารดา เพียงไม่ถึงอึดใจ พบว่ารถถูกใครไม่รู้ขับออกไป พยายามวิ่งตามและเรียกให้คนช่วยแต่ไม่ทัน โดยคนร้ายขับมุ่งหน้าไปทางบ้านแลง ต.บ้านแลง อ.เมือง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบสัญญาณจากมือถือที่เจ้าของวางไว้ในรถที่หายไป พบว่าสัญญาณแสดงพิกัดว่าอยู่บริเวณ ซอยศาลเจ้า ข้างวัดบ้านแลง ต.บ้านแลง

จึงระดมกำลังไปตามพิกัดมือถือ เมื่อไปถึงพบคนร้ายกำลังขับรถยนต์ที่ขโมยไปออกมาจากป่าริมทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำรถยนต์ปิดกั้นเส้นทางเข้าออกทั้งหมด ก่อนที่คนร้ายจะจอดรถแล้วไม่ยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่จึงเคาะกระจกให้ลงจากรถ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที คนร้ายซึ่งเป็นผู้ชายรูปร่างผอม ผมยาว ใส่เสื้อยืดสีเขียวกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ เปิดประตูรถยนต์ออกมา เป็นจังหวะที่เจ้าของรถและพวกมาถึง จึงกรูเข้ารุมสกรัมทันที

จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายชื่อนายสราวุธ รื่นเริง อายุ 35 ปี ให้การว่า กำลังเดินไปที่ตลาดแม่แดง ในตัวเมืองระยอง พอดีมาพบกับรถยนต์คันดังกล่าวจอดติดเครื่องยนต์ไว้ โดยไม่มีใครอยู่บนรถ ด้วยความร้อนและขี้เกียจเดิน เลยเปิดประตูรถยนต์ แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขับหนีมาแล้วมาจอดแอบนอนอยู่ในป่าริมถนน จนกระทั่งมาถูกจับกุม

ด้าน มารดาของนายกิตติโชติ เจ้าของรถ ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ระดมกำลังมาช่วยตืดตามคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวพร้อมได้รถยนต์คืนมาอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติคนร้ายพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหายาเสพติด และ เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน ก่อนจะควบคุมตัวดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมทั้งฝากเตือนผู้ใช้รถยนต์ หากลงจากรถยนต์ไม่ควรจอดรถยนต์ติดเครื่องยนต์ไว้โดยไม่มีคนอยู่บนรถ อาจจะถูกโจรกรรม และ อาจจะไม่โชคดีเหมือนเจ้าของรถยนต์รายนี้