หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุด ยู-23 ชี้การเจอ เวียดนามในศึกชิงแชมป์เอเชีย จะแตกต่างจากซีเกมส์ พร้อมหวังจะคว้าชัยชนะและเก็บสามแต้มประเดิมการแข่งขัน
ความเคลื่อนไหวทีมฟุตบอลช้างศึก ทีมชาติไทย ชุด ยู-23 ที่เตรียมลงทำการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย กลุ่มซี โดยล่าสุดสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) จัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขัน
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ทีมชาติไทย ยู-23 ส่ง วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมด้วย กฤษดา กาแมน กัปตันทีม เข้าร่วมการแถลงข่าว โดย วรวุธ ศรีมะฆะ กล่าวว่า “จริงๆ เรากับเวียดนาม ถือเป็นทีมที่มีความสามารถพอกัน เกมแรกเป็นเกมที่ยาก ที่สำคัญคือเวียดนามเป็นทีมที่ดี ทัวร์นาเมนต์นี้พวกเขาเคยเป็นรองแชมป์มาแล้ว เราคิดว่าต้องมีวิธีที่ทำให้เรามีคะแนนหรือเก็บสามแต้มให้ได้”
“ก่อนอื่นเราต้องยินดีกับเวียดนามด้วย ที่ได้แชมป์ซีเกมส์ แต่ว่าทัวร์นาเมนต์นี้มันแตกต่างตรงที่ว่าเราเตรียมผู้เล่นในทัวร์นาเมนต์นี้อีกแบบ เป็นผู้เล่นคนละชุดหรือ 70 เปอร์เซ็นต์ การเจอกับเวียดนามครั้งนี้จะแตกต่างจากซีเกมส์”
“จริงๆแล้วทีมร่วมกลุ่ม หรือมาเล่นในรอบสุดท้ายเป็นทีมที่ แข็งแกร่งกว่ารอบคัดเลือกแน่นอน การเตรียมตัว และวิธีการเล่นการเจอกับแต่ละทีมมันแตกต่างกัน ทั้ง 16 ทีมมีความแตกต่างกัน”
“ทีมชาติเวียดนามไม่ว่าจะเป็นโค้ชเกาหลีหรือโค้ชเวียดนาม เขาก็ยังเป็นทีมที่น่ากลัวเสมอสำหรับทุกๆทีมในอาเซียน เรามีวิธีการเล่นที่ต่างกัน ผมว่าโค้ชเวียดนามหรือเกาหลี สุดท้ายนักเตะก็คือเวียดนาม ผมว่าสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดคือตัวนักเตะ”
“ส่วนทีมชุดนี้ๆ เป็นชุดที่รวมกันระหว่างนักเตะที่เล่นในประเทศ และนักเตะจากต่างประเทศซึ่งถือเป็นครั้งแรก ของชุด ยู-23 ที่มีนักเตะเข้ามารวมกลุ่ม กันเยอะมาก ถือว่าเป็นอนาคตของทีมชาติไทย เพราะว่าหลายคนที่เล่นต่างประเทศ ก็เป็นตัวหลักของสโมสร และอยู่ในลีกที่มี มาตรฐาน สิ่งที่เราภูมิใจมากที่สุดคือนักเตะทุกคน เป็นคนไทย เราไม่ได้โอนสัญชาติมา ตั้งแต่ผู้จัดการทีมเข้ามา การพัฒนาและสนับสนุนไม่ว่าชุดใหญ่ หรือว่าชุดอื่นๆมันมีความชัดเจน”
“ผมอยากย้อนไปเมื่อสี่ปีก่อน ผมคุมไทยชนะเวียดนามไป 3-0 และทำให้เวียดนามตกรอบแรกซีเกมส์ แต่หลังจากนั้นสามเดือนเขาได้รองแชมป์ ยู-23 ฉะนั้น สี่ปีผ่านมา เราก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ในการเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ”
ด้านกฤษดา กาแมน กัปตันทีมชาติไทย กล่าวว่า “ตอนนี้เราก็ค่อนข้างที่จะพร้อม เราเตรียมความพร้อมใกล้จะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แมตช์แรกเป็นเกมที่สำคัญมากอีกเกม เราจะพยายามเก็บชัยชนะให้ได้”
“อยากจะทำผลงานให้ดีที่สุด เอาประสบการณ์จากทีมชุดใหญ่ มาช่วยยกระดับทีม และช่วยเพื่อนๆและน้องๆ ทุกคนในทีม”
“เราไม่ได้เอาเรื่องผลการแข่งขันที่ผ่านมาจากซีเกมส์ มากดดัน เรามาเจอเขาในรอบสุดท้าย เราก็อยากทำผลงานให้ดี”
สำหรับ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะทำการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี นัดแรก พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่ บุนยอดกอร์ สเตเดียม ในวันที่ 2 มิถุนายน 2565 เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทาง Eleven Sports