โค้ชโจ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือใหญ่ “สวาดแคท” มั่นใจโคราชได้เล่นในบ้าน มีทีเด็ดมากพอปราบบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ศึกรีโว่ ไทยลีก นัดกลางสัปดาห์

โค้ชโจ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น หัวหน้าผู้ฝึกสอน “สวาดแคท”นครราชสีมา เอฟซี มีคิวพาลูกทีมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “เดอะ แรบบิท”บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ศึกรีโว่ ไทยลีก 2021/22 นัดกลางสัปดาห์วันที่ 10 พ.ย.

หัวหน้าผู้ฝึกสอนนครราชสีมา เอฟซี กล่าวว่า “เกมที่แล้ว (ชนะการท่าเรือ เอฟซี 3-1) เป็นเกมที่ดีเกมหนึ่ง ทั้งวิธีการ ความเชื่อมั่น ถือเป็นทิศทางที่ดีของเรา เกมที่จะเจอกับบีจี เราต้องยอมรับว่าพวกเขาเป็นทีมใหญ่ เป็นเต็งแชมป์ เราดูพวกเขาเล่นมาตลอด ทั้งจุดอ่อนจุดแข็ง รวมถึงวิธีการเล่น”

• ช้างศึก ทำใจมีเวลาซ้อมร่วมกันเพียง 2 ครั้งก่อนฟาดแข้งนัดแรกซูซูกิคัพ

“นักเตะต่างชาติที่เป็นกองหลังอย่างอันเดรส ตูเนซ กับวิกเตอร์ คาร์โดโซ ที่กลับมาแล้ว พวกเขาแข็งแกร่งจริงๆ แต่ผมเชื่อว่าเกมในบ้านของเรา เรามีวิธีการเล่นของเราในการจัดการพวกเขา เราเคารพบีจี แต่ผมเชื่อว่าเราสามารถมีเกมที่ดีในวันพุธนี้ได้”

“เรามีการเปลี่ยนนักเตะต่างชาติหลายราย ต้นฤดูกาลพวกเขาอาจยังปรับตัวกันได้ไม่ดีนักจนโดนคำวิจารณ์ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเขา เพราะพวกเขามาลีกไทยเป็นครั้งแรก ต้องปรับตัว บวกกับสถานการณ์โควิดที่ทำให้พวกเขาได้ซ้อมไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย”

“พอลีกเริ่มจริงๆ เหมือนเป็นเกมเรียกความฟิตของพวกเขามากกว่า และด้วยสไตล์การเล่นที่เขายังต้องปรับตัวเข้าหาทีมอีก ตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ เกมล่าสุดพวกเขาทำผลงานได้ดี แต่ผมบอกให้พวกเขารักษาการทำงานหนักไว้ เพราะฤดูกาลนี้ยังอีกไกล”

“เรื่องผลการแข่งขันที่ผ่านมา ส่วนนี้เป็นเรื่องของความเชื่อมั่น ผมต้องบอกเด็กว่าเกมกับท่าเรือจบไปแล้ว เราต้องมาโฟกัสในการเจอบีจี ปีที่แล้วเราเจอบีจีแพ้ไปกลับ แต่หากดูรายละเอียดของเกม เราสู้ได้ดีทั้งสองเกม เพียงแค่มีจุดพลิกผันเยอะ เกมแรกที่สนามเรา เราได้จุดโทษก่อน แต่เลอันโดร อัสซัมป์เซา พลาดไป แล้วเราโดนยิง”

“ส่วนเกมที่บ้านบีจี เราเปิดเกมแลกได้ดี แต่แพ้ไปลูกหนึ่ง ผมว่าเราสู้ได้ ต้องยอมรับว่าช่วงนี้บีจีกำลังมา พวกเขาชนะ 5 เกมรวด พวกเขามั่นใจ และนักเตะหลักๆ เริ่มกลับมา พวกเขาคงได้ลุ้นแชมป์ไปยาวๆ”

“เกมนี้โคราชได้เล่นในบ้าน ด้วยความมั่นใจที่มี และมีแฟนบอลที่ผมว่ามีผลต่อผลการแข่งขันมาก ผมยังเชื่อมั่นว่านี่จะเป็นที่สนุก บีจียังแข็งแกร่ง แต่ทุกทีมมีจุดแข็งและจุดอ่อน และเราต้องหาวิธีมารับมือพวกเขาให้ได้”

“นักเตะที่บาดเจ็บหลังจบเกมกับท่าเรือ มี ณัฐชัย ศรีสุวรรณ ที่บาดเจ็บที่ข้อเท้ากับเอ็น รวมถึงธิติ ทุมพร ที่ศีรษะแตกจนต้องเย็บ 6 เข็ม ต้องรอดูว่าเขาไหวไหม ส่วนมาร์โก ซาฮาเน็ก ที่หายไปหลายเกม เราต้องดูว่าเขาจะกลับมาฟิตทันเกมนี้ไหม แต่นอกจากนี้ไม่มีใครเจ็บหรือติดโทษแบน”

“เรื่องนักเตะในทีมที่ถูกเรียกไปทีมชาติ ผมอยู่กับลูกทีมผมทุกวัน ผมคิดว่าน่าจะมีนักเตะติดทีมชาติมากกว่านี้ แน่นอนว่า อาแว (อับดุลฮาฟิส บือราเฮง) ควรติดทีมชาติ เพราะผลงานดี และมีฟอร์มสม่ำเสมอในปีนี้”

“ด้านเฉลิมพงศ์ เกิดแก้ว เขาอาจอายุเยอะ แต่เขาจะมีประโยชน์หากเรียกไปช่วยทีมชาติ หากเอาแค่ผลงานมาว่ากัน ผมมองว่าเขามีผลงานที่ดีในปีนี้ รวมถึงปีที่แล้ว และมีฟอร์มสม่ำเสมอ”

“ท้ายที่สุดแล้วการเป็นโค้ชทีมชาติ ผมว่าควรดูว่าใครฟอร์มดีต่อเนื่องในลีก บางคนไม่ค่อยได้เล่นในลีก แต่กลับมีชื่อติดทีมไป อาจเป็นเพราะชื่อเสียงเก่าๆ ผมว่าโค้ชทีมชาติควรมองจากฟอร์มปัจจุบัน”

“ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เราต้องการแชมป์ ใครที่ดีที่สุดควรจะได้ติดทีมไป แต่ผมเคารพการตัดสินใจของมาโน โพลกิง เขาอาจมีตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากถามผล เฉลิมพงษ์ หรือ ณัฐพงษ์ สายริยา ควรมีชื่อติดไปในรอบแรกสักหน่อย”

“ส่วนเรื่องโปรแกรมทีมชาติ ผมมองว่าหากเราจะตามสากลจริงๆ เราอาจจะมีเวลาน้อย แต่พวกชาติในยุโรปไม่ได้เรียกนักเตะเข้าแคมป์ เพราะนักเตะมีความฟิตจากเกมลีกอยู่แล้ว แล้วโค้ชจะเลือกผู้เล่นที่เข้าระบบไป เพราะมีทั้งความฟิต และความสม่ำเสมอในการเล่น แล้วอาจมีการลงรายละเอียดในเรื่องแท็กติกนิดหน่อย สำหรับผมการเก็บตัว 10-20 วันมันไม่จำเป็นแล้ว”

“ช่วง 4 เกมหลังที่เราชนะมา มาร์โก ซาฮาเน็ก ไม่ได้เล่นเพราะบาดเจ็บ แต่ผมมีการหมุนเวียนทั้งผู้เล่น และแท็กติกในเกมนั้นๆ ต้องยอมรับว่านักเตะที่ลงไปทำได้ ซึ่งผมมองจากการที่เราชนะ 4 เกมรวดทั้งในลีก และเอฟเอ คัพ ผมไม่ได้กังวลนักหากซาฮาเน็ก ยังกลับมาไม่ได้”

“ส่วนการเจอบีจี ผมคงไม่โฟกัสกับใครคนใดคนหนึ่ง เพราะนักเตะพวกเขาทุกคนมีคุณภาพ สามารถตัดสินเกมได้ ทั้งจากโอเพ่นเพลย์ และเซ็ตพีซของพวกเขาที่มีความอันตราย เรื่องของเกมรับต้องไม่โฟกัสแค่กองหลัง หรือผู้รักษาประตู เราต้องเล่นเกมรับเป็นทีม และเกมรุกเป็นทีม”

“ผมคงต้องบอกถึงแผนการรับมือพวกเขา แต่เกมในบ้าน เรื่องของเสียงเชียร์และความเชื่อมั่นจะทำให้เกมสนุก แต่หากเราเตรียมทีมมาไม่ดีพอ เราอาจโดนพวกเขาลงโทษได้ เราต้องปิดจุดแข็งพวกเขา และโจมตีจุดอ่อนให้ได้”

“อยากให้แฟนบอลเข้ามาเชียร์เยอะๆ ด้วยเงื่อนไขการเข้าดู แม้จะให้เข้า 25 เปอร์เซ็นต์ แต่แฟนบอลยังมาน้อยไปสักหน่อยสำหรับผม แต่ในเกมกับท่าเรือ แฟนบอลเข้ามาเกือบ 2,000 คน ถือว่าเยอะที่สุดตั้งแต่มีโควิด แต่ในเกมนี้ผมอยากให้มาเยอะกว่านั้น เพราะจะช่วยผลักดันนักเตะให้สู้จนนาทีสุดท้าย รวมถึงแชร์ความสุขร่วมกันได้ ผมเชื่อนี่จะเป็นเกมในบ้านที่ดีอีกเกมของเรา”

ส่วนทาง ออเรลิโอ วิดมาร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด กล่าวว่า “ช่วงนี้ฟอร์มของทีมเราดีทีเดียว นักกีฬาทำได้ตามหน้าที่และแท็กติก ซึ่งสำคัญมาก การชนะมาเรื่อยๆ ทำให้เราได้ความมั่นใจ และเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้”

“หากพูดถึงตูเญซ กับคาร์โดโซ เราไม่มีกองหลัง 2 ตัวหลักมาถึง 5 สัปดาห์ แต่เราทำได้ดีตอนที่ไม่มีพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนมีความสำคัญ พวกเขามีประสบการณ์ มีความเป็นผู้นำ ผมดีใจที่ทั้งคู่กลับมา และเชื่อว่าเกมรับของทีมจะดีขึ้น แต่เรื่องของเกมรับไม่ใช่แค่กองหลัง มันเป็นเรื่องของทุกคน เพราะทุกคนมีหน้าตัวของตัวเอง ที่ต้องช่วยกันในทีม”

“ตอนนี้เราอยู่ในฟอร์มที่ดี แต่เกมนี้ยากแน่ เราได้ดูพวกเขาเล่นเมื่อคืน พวกเขามีสปิริตที่ดี มีรูปแบบการเล่นที่ดีมาก และเกมต่างๆ ในไทยลีกไม่เคยง่ายอยู่แล้ว คิดว่านี่จะเป็นเกมที่ดี ส่วนดิโอโก หลุยส์ ซานโต ผมคิดว่าเขาไม่น่ากลับมาช่วยทีมได้ทันในเลก 1 และเราหวังว่าเขาจะกลับมาได้ในเดือนม.ค.”

“การติดทีมชาติถือเป็นเกียรติของนักกีฬา ผมอยากให้พวกเขาไป และผมยินดีกับพวกเขา โดยเฉพาะที่ติดทีมชาติเป็นครั้งแรก ทั้งจักพัน ไพรสุวรรณ, เชาว์วัตน์ วีระชาติ และฉัตรมงคล ทองคีรี”

“นักเตะต่างชาติของโคราชเป็นผู้เล่นที่ดี กล้าเลี้ยงกล้าลุย เป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับทีมเราแน่ เราได้ดูที่พวกเขาเจอท่าเรือมา เราเตรียมพร้อมรับมือเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องของการโรเตชั่นในเกมที่เหลือของเลกแรก เราคงต้องดูเกมต่อเกม เราไม่รู้อนาคตว่าจะมีผู้เล่นบาดเจ็บหรือไม่อย่างไร”

“ขณะที่เป้าหมายเลกแรก ตอนนี้เราตั้งเป้าจะเก็บชัยชนะให้มากที่สุด เดือนที่ผ่านมามีโปรแกรมหนัก เดือนนี้ก็ด้วย มันยากและท้าทาย เราเตะมาถี่ตลอด 8 สัปดาห์ กุญแจสำคัญคือเราต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุดในแต่ละเกม รวมถึงการฟื้นฟูนักเตะด้วย หากชนะจะพาเราไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีในตารางคะแนน”

“แฟนบอลคือที่หนึ่งของเรา เราคิดถึงแฟนบอลมากๆ 2 เกมที่ผ่านมามีแฟนบอลเข้าสนามมา 25 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งเกมหลังจากนี้ โดยเฉพาะวันเสาร์ คิดว่าแฟนบอลจะเข้ามา 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ขอเชิญแฟนบอลเข้ามาดูเกมในสนามเยอะๆ”

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันรีโว่ ไทยลีก 2021/22 สัปดาห์ที่ 12 มีดังนี้

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564

18.00 น. ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ทรู สเตเดียม

ถ่ายทอดสดทาง ททบ. 5 และ AIS PLAY

19.00 น. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ช้าง อารีน่า

ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน 2564

18.00 น. พีที ประจวบ เอฟซี พบ ชลบุรี เอฟซี ที่สามอ่าว สเตเดียม

ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY

18.00 น. นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

ถ่ายทอดสดทาง ททบ. 5 และ AIS PLAY

18.30 น. สุพรรณบุรี เอฟซี พบ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี

ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY

19.00 น. สมุทรปราการ ซิตี้ พบ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สมุทรปราการ สเตเดียม

ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2564

18.00 น. เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี

ถ่ายทอดสดทาง ททบ. 5 และ AIS PLAY

19.00 น. การท่าเรือ เอฟซี พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่แพท สเตเดียม

ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY