ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ชนิดที่พบครั้งแรกในอินเดีย หรือชนิด B.1.617 หรือ กระจายไปยังประเทศและดินแดนอื่นอีก 19 แห่งแล้ว ส่งผลให่นักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศเหล่านี้ต้องรับมือกับไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ มากขึ้น

ไวรัสชนิดกลายพันธุ์ดังกล่าว ที่รู้จักในชื่อ B.1.617 พบครั้งแรกในเดือน ต.ค. ที่ประเทศอินเดีย ขณะนี้พบว่าแพร่กระจายไปในหลายส่วนของเอเชีย อเมริกาเหนือ ยุโรป และภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่ก็ยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้นอกอินเดียไม่มากนัก

ไวรัสชนิด B.1.617 จึงไม่ได้ถูกจัดให้เป็นชนิดที่น่ากังวลเท่ากับสายพันธุ์อื่นๆ ที่กำลังระบาดในอินเดีย และขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นสาเหตุหลักที่อินเดียพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหรือไม่ ขณะเดียวกันหน่วยงานด้านสาธารณสุขในหลายประเทศก็ยังไม่ได้มองว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลนัก

ด้านกระทรวงสาธารณสุขของอินเดียเผยเมื่อวันอังคาร (27 เม.ย.) ว่าพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่มอีก 320,000 ราย ทำให้ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มมาอยู่ที่ 17.2 ล้านคนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตถึง 2,771 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น

การลุกลามที่เกิดขึ้นในขณะนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคและอนุญาตให้จัดงานรวมตัวทางศาสนาและการเมืองขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส เผยว่า ชนิด B.1.617 นี้กำลังกลายพันธุ์ไปในหลายรูปแบบ ที่มีความรุนแรงคล้ายไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แบบกลายพันธุ์ชนิดอื่นๆ

หนึ่งในการกลายพันธุ์นั้น คือการกลายพันธุ์แบบ E484Q ที่มีความรุนแรงคล้ายกับแบบ E484K ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้และบราซิล ที่พบว่าทำให้การตอบสนองของแอนติบอดีในร่างกายของผู้ที่เคยติดเชื้อหรือได้รับวัคซีนแล้วมีประสิทธิภาพลดลง

การกลายพันธุ์ของชนิด B.1.617 อีกแบบ คือ แบบ L452R ส่งผลให้ไวรัสซ่อนตัวจากระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ได้ดีขึ้น ส่วนแบบ P681R ก็อาจทำให้ไวรัสแบ่งตัวเร็วขึ้นด้วย