โควิด : หญิงออสเตรียเล่าชีวิตที่ถูกรัฐจำกัดเสรีภาพเพราะปฏิเสธฉีดวัคซีน

Home » โควิด : หญิงออสเตรียเล่าชีวิตที่ถูกรัฐจำกัดเสรีภาพเพราะปฏิเสธฉีดวัคซีน


โควิด : หญิงออสเตรียเล่าชีวิตที่ถูกรัฐจำกัดเสรีภาพเพราะปฏิเสธฉีดวัคซีน

คารีนา เป็นครูสอนโยคะในกรุงเวียนนา เธอยังไม่ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 และต้องการจะเป็นแบบนี้ต่อไป

นี่ทำให้เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกราว 2 ล้านคนที่ต้องอยู่ภายใต้มาตราการล็อกดาวน์ของทางการออสเตรีย

โดยหลังจากมาตรการนี้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 พ.ย. คารีนาก็ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านได้เฉพาะกรณีที่มีเหตุจำเป็นเท่านั้น เช่น การไปทำงาน หรือการออกไปซื้ออาหาร แต่เธอจะไม่สามารถเข้าใช้บริการคาเฟ่และร้านอาหารได้ บีบีซีจึงนัดพบกับคารีนาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนา ซึ่งเธอได้รับอนุญาตให้เข้าไปออกกำลังกายได้

A police car is seen as pedestrians walk along a shopping street after the Austrian government placed roughly two million people who are not fully vaccinated against the coronavirus disease (COVID-19) in lockdown

Reuters
ออสเตรียมีประชากรที่ได้รับวัคซีนต้านโควิดครบถ้วนราว 65% ซึ่งถือเป็นอัตราต่ำที่สุดประเทศหนึ่งในกลุ่มชาติยุโรปตะวันตก
  • ยุโรปวิกฤตเจอโควิดระลอก 4 เยอรมนีหวั่นมีผู้เสียชีวิตนับแสน
  • เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก 5 แห่ง หลังการระบาดใหญ่
  • มีกว่า 50 ประเทศที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ตามเป้าขององค์การอนามัยโลก

ครูสอนโยคะผู้นี้บอกว่า เธอไม่เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังมาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้ และมันทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจ

คารีนา เล่าว่า “ฉันเดินผ่านค่าเฟ่หลายแห่งเมื่อเช้านี้…มันเป็นความรู้สึกประหลาดมากที่มองเข้าไปในร้าน โดยที่รู้ว่าฉันไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ มันทำให้ฉันเกิดความรู้สึกถูกกีดกันและถูกตัดขาดจากสังคม”

“ฉันเป็นหนึ่งในผู้คน [ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน] เหล่านี้ ที่ถูกทำให้กลายเป็นศัตรู…และนี่เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก” เธอกล่าว

โควิด : หญิงออสเตรียเล่าชีวิตที่ถูกรัฐจำกัดเสรีภาพเพราะปฏิเสธฉีดวัคซีน

BBC
คารีนาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ไม่ได้ฉีดวัคซีนราว 2 ล้านคน ที่ต้องอยู่ภายใต้มาตราการล็อกดาวน์ของทางการออสเตรีย

“ฉันไม่อยากให้ผู้คนล้มป่วย ฉันระมัดระวังตัว ฉันตรวจหาเชื้อ ฉันไม่ได้มีความเสี่ยงสูง [จากโควิด-19] และฉันรู้สึกว่านี่เป็นการตัดสินใจส่วนบุคคลของฉัน ฉันเข้าใจคนที่รับการฉีดวัคซีน รวมทั้งคนที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีนด้วย”

หลังมีการประกาศแผนล็อกดาวน์นี้กับผู้ปฏิเสธวัคซีน ก็มีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วออสเตรีย

ตำรวจระบุว่า จะเข้าสุ่มตรวจตามพื้นที่สาธารณะ และจะปรับคนที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือการหายป่วยจากโควิด

ออสเตรียมีผู้ได้รับวัคซีนต้านโควิดครบถ้วนเพียง 65% ของจำนวนประชากรราว 8.9 ล้านคน ซึ่งถือเป็นอัตราต่ำที่สุดประเทศหนึ่งในกลุ่มชาติยุโรปตะวันตก

ปัจจุบันออสเตรียกำลังเผชิญอัตราผู้ติดโควิดรายวันสูงที่สุดนับแต่โรคนี้เริ่มแพร่ระบาดในประเทศ

นายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ ชาลเลนแบร์ก ของออสเตรีย ระบุว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการนี้ เพราะอัตราการติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น

เขาระบุว่า อัตราการฉีดวัคซีนในประเทศ “ต่ำอย่างน่าอาย” และจะทำให้ประเทศติดอยู่ในวงจรอันเลวร้าย จากการล็อกดาวน์ครั้งแล้วครั้งเล่า

นับแต่รัฐบาลใช้มาตรการที่เข้มงวด ก็ทำให้คนออสเตรียเข้ารับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนในกรุงเวียนนามีประชาชนต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอรับวัคซีน บางคนมารับวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ขณะที่บางคนเพิ่งจะมารับวัคซีนเข็มแรก

People wait in front of a vaccination point

Reuters
ในเบื้องต้นทางการออสเตรียจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 10 วัน

นพ.โธมัส แซคเคเรส หัวหน้าแพทยสภาออสเตรีย แสดงความหวังว่าอัตราการฉีดวัคซีนของคนในประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 80% หรือสูงกว่านั้น

“เรารู้ว่าการฉีดวัคซีนเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อ เราทราบเรื่องนี้จากประเทศอื่น เราหวังว่าการล็อกดาวน์ชาวออสเตรียที่ไม่ฉีดวัคซีนจะเพียงพอแล้วที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังไม่มั่นใจในเรื่องนี้ บางทีเราอาจต้องใช้มาตรการเพิ่มเติม เพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดจำนวนดังกล่าวลง”

ชาวออสเตรียหลายคนแสดงความยินดีกับจำนวนผู้ฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น แต่บางคนกังวลว่าการล็อกดาวน์ผู้ไม่ฉีดวัคซีนจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

คาร์ล เวลเลอร์ นักธุรกิจในกรุงเวียนนา บอกกับบีบีซีว่า เขาสนับสนุนการฉีดวัคซีนต้านโควิด “มันเป็นเรื่องจำเป็นต่อสุขภาพและเศรษฐกิจของเรา” เขากล่าว

“แต่ผมคิดว่า มันคือหายนะที่จะแบ่งแยกคนฉีดวัคซีนแล้วกับคนที่ยังไม่ฉีด ผู้คนเริ่มโกรธแค้นมากขึ้นเรื่อย ๆ และพวกเขาก็รู้สึกกลัว”

Karl

BBC
คาร์ล เป็นหนึ่งในผู้มีความกังวลกับมาตรการล็อกดาวน์นี้ แม้จะเห็นด้วยกับการฉีดวัคซีนก็ตาม

ตอนนี้การซื้อเสื้อผ้าและของใช้ที่ไม่จำเป็นอื่น ๆ เป็นเรื่องที่ทำได้เฉพาะคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว

ดอริส ซึ่งออกมาทำธุระในย่านใจกลางกรุงเวียนนาบอกว่า เธอหมดความอดทนกับพวกที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

“ทางแก้ปัญหาเดียวคือเราทุกคนจะต้องฉีดวัคซีน มันคือทางออกเดียว ไม่อย่างนั้น เราจะต้องเผชิญปัญหานี้ต่อไปอีกนาน และเราอยากจะให้มันหมดไปจริง ๆ”

…………

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ