โก้ วศิน เล่าเบื้องหลังถูกปลด ขอบคุณไม่ทำโทษ ย้อนวัยเด็กยกพวกตีขึ้นหน้า1

Home » โก้ วศิน เล่าเบื้องหลังถูกปลด ขอบคุณไม่ทำโทษ ย้อนวัยเด็กยกพวกตีขึ้นหน้า1


โก้ วศิน เล่าเบื้องหลังถูกปลด ขอบคุณไม่ทำโทษ ย้อนวัยเด็กยกพวกตีขึ้นหน้า1

ขอบคุณไม่ได้ปรับหรือทำโทษ โก้ วศิน เล่าเบื้องหลังถูกปลดโดนดราม่ายับ ย้อนวีรกรรมสมัยเด็กยกพวกตีกัน ถึงขั้นขึ้นหน้า1 หนังสือพิมพ์

พระเอกหนุ่ม โก้ วศิน ที่วันนี้จะมาเปิดใจถึงสาเหตุการโดนปลดฟ้าผ่าจากช่องมากสี ทั้งที่ไม่หมดสัญญา พร้อมย้อนเล่าวีรกรรมยกพวกตีกันจนขึ้นหน้า1 หนังสือพิมพ์มาแล้วผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เป็นข่าวดังมากๆ ช่องเก่ามีหนังสือจะใช้คำว่าปลดได้ไหม?
โก้ : ใช้อย่างนั้นก็ได้ เพราะทุกคนก็พูดแบบนั้น คือช่วงประมาณปลายปีที่แล้ว มันเป็นช่วงที่เราใกล้หมดสัญญากับทางต้นสังกัดพอดี แล้วก่อนช่วงจะหมดสัญญาประมาณ 3 เดือน ทางต้นสังกัดก็มีเรียกเข้าไปคุยว่าเราจะวางแผนต่อไหมแล้วเราได้บอกกับผู้ใหญ่ไปแล้วว่าครั้งนี้อาจจะขออนุญาตออกไปหาประสบการณ์ข้างนอก แล้วทำงานที่มันอิสระมากขึ้น ด้วยความที่ตัวเราเองมีทำอย่างอื่นด้วย มีวงดนตรีด้วย แล้วการที่เราจะออกซิงเกิลหรือมีงานอะไร เราไม่สามารถไปโปรโมทหรือไปออกที่อื่นได้ ซึ่งทางช่องก็เข้าใจ เขาก็บอกว่าอยากให้อยู่ แต่เขาก็เข้าใจ ก็คุยกันรู้เรื่องในวันนั้นเราก็กลับมาคิดแล้วว่าจะทำยังไงต่อกับชีวิต แล้วช่วงนั้นมีรายการหนึ่งติดต่อมา เขาถามว่ามาถ่ายได้ไหม ผมบอกว่าได้แต่ถ้าออนแอร์จะต้องหลังจากที่ผมหมดสัญญาจริงๆ ตามลายลักษณ์อักษรนะ ก็โอเครับรู้กันทั้งสองฝ่าย ไปอัดรายการไว้ พอหมดสัญญาปุ๊บเทปนั้นค่อยออนแอร์ แล้ววันนั้นช่วงประมาณเดือนตุลาคม วันนั้นผมมาที่ตึกแกรมมี่นี่แหละขึ้นไปสัมภาษณ์วิทยุ ก่อนเข้ารายการวิทยุมีทีมงานส่งรูปของรายการนั้นมา แล้วบอกว่าเดี๋ยวรายการออนเสร็จค่อยโพสต์รูปนะคะ ผมก็งงๆ อีกตั้งเดือนนึงกว่ารายการจะออนทำไมรีบส่งมา ผมก็ไม่อะไรเก็บโทรศัพท์เข้าไปสัมภาษณ์วิทยุ ออกมาปุ๊บคนโทรมาไม่หยุดเลย

คือง่ายๆ ว่ารายการถูกเอามาออกอากาศก่อนที่สัญญาจะหมด?
โก้ : ใช่ ก่อนที่ควรจะเป็น

ตอนนั้นใจแป้วไหม?
โก้ : ตอนนั้นผมยังไม่รู้ ผมคิดว่าเขาแค่ส่งรูปมาให้ก่อน แล้วเดือนหน้ารายการออนผมค่อยลง

แล้วมารู้ตอนไหนว่ามันจะออกแล้ว?
โก้ : หลังจากนั้นประมาณ ครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงนึง ผู้จัดการโทรมา เรื่องใหญ่แล้ว ด้วยความที่ว่ารายการนั้นคนดูค่อนข้างเยอะด้วย รายการออนยังไม่ทันจบเลย ก็มีกระทู้ในโซเชียลเกิดขึ้นเยอะมากมาย ตั้งคำถามขึ้น ว่าทำไมมาออกได้ จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นทางผู้ใหญ่ ทางต้นสังกัดก็เลยต้องไขข้อข้องใจก็เลยต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น คือเขาก็รู้แหละว่าเรายังไง แต่นี่อาจจะเร็วไปหรือเปล่า

มันก็เลยมีหนังสือออกมา แต่เขาไม่ได้ปรับหรือไม่ได้ทำโทษอะไรใช่ไหม?
โก้ : ไม่ครับ ก็ต้องขอบคุณ

ล่าสุดช่วงปีใหม่ โก้มีการเอากระเช้าไปไหว้ และไปออกรายการของทางช่องด้วย?
โก้ : ใช่ อันนั้นผมดีใจมาก และขอบคุณทางช่องมาก เพราะว่าพอเราเข้าไป แล้วทุกคนให้การต้อนรับเราเหมือนเข้าไปแล้วคิดถึงจังเลย บรรยากาศทุกอย่างมันเหมือนเดิม

แบบนี้แสดงว่าในอนาคตมีสิทธิ์ที่จะไปเล่นกับทางช่องได้เหมือนเดิม?
โก้ : ใช่ ในใจผมหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นมากๆ เลย วันนั้นที่กลับไปก็ได้ยินจากทางผู้ใหญ่เหมือนกัน

แต่ตอนที่เกิดการผิดพลาดออกมา บางคนไม่เข้าใจก็โดนกระแสยับเหมือนกันนะ?
โก้ : คอมเมนต์ในเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็จะมี 2 ทาง ส่วนตัวผมไม่ได้ไล่อ่านคอมเมนต์เยอะขนาดนั้น แต่เคสนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องเป็นราวผมก็เลยลองอ่านในพื้นที่ตัวเอง ไม่ได้ไปอ่านข้างนอก เพราะที่ของเราคนก็จะให้กำลังใจเยอะหน่อย คอมเมนต์ด้านลบก็จะน้อยหน่อย แต่ถามว่ามีไหม ยังมีนะในเชิงแบบว่าก็สมควรแล้วนิ ก็เราทำผิด มีคนมาสมน้ำหน้า

คอมเมนต์ไหนที่รู้สึกเสียใจแล้วก็โกรธ?
โก้ : จริงๆ ไม่มีคอมเมนต์ไหนที่ทำให้ผมเสียใจหรือโกรธเลย ก็รู้สึกว่ามีคนคิดแบบนี้ด้วย ตลกดี

หลังจากที่ออกมา งานตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
โก้ : ดีครับ เพราะวงดนตรีของผมเนี่ยผมทำมานานมาก อยู่กับเพื่อนตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แล้วฟอร์มวงทำเพลงกันแล้วไม่เคยเป็นที่รู้จักเลย รู้จักอย่างมากก็เพราะผมเล่นละคร เขาก็บอกว่าวงดารานิ ทางวงก็ทำเพลงมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าไหร่ จนปี 2020 เราปล่อยเพลงกลายเป็นว่าคนชอบเพลงนี้เยอะ คือเพลง คนเราจะแอบรักใครสักคนได้นานแค่ไหน เราเริ่มรู้สึกว่าเราเริ่มมีแฟนเพลงที่เป็นแฟนเพลงจริงๆ แล้ว ประจวบเหมาะปุ๊บ โควิด ก็เลยไม่ได้มีงานไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนเลย จนกระทั่งปลายปีที่ผ่านมาเรารู้สึกว่าเราเริ่มได้ทำงานของฝั่งศิลปินบ้างสักที

ความฝันของโก้ในวงการบันเทิงคืออยากเป็นนักร้องมากกว่าดารานักแสดง?
โก้ : ถ้าถาม ณ ตอนนี้ฝั่งของดนตรีผมยังพามันไปได้ไม่ไกลเท่าฝั่งของการเป็นนักแสดง ถ้ามีโอกาสผมก็อยากทำให้ตรงนั้นเป็นรูปเป็นร่างมากกว่า

ย้อนอดีตหน่อย เข้าวงการมาได้ยังไง?
โก้ : ผมเริ่มมาจากการเป็นพิธีกร เป็นวีเจช่องเพลง แล้วมีผู้ใหญ่ที่ผมรู้จัก เขาสนิทกับทางพี่นิด อรพรรณ เขาก็เลยแนะนำ ไปเจอ ไปคุยสิ ก็เลยได้เข้ามาอยู่กับทางโพลีพลัสก่อน แล้วถ้าเรื่องละคร เรื่องการแสดง สิ่งแรกคือผมไปเป็นสแตนด์อินเขาก่อน คือไม่ใช่ว่ารับงานเป็นสแตนด์อินนะครับ เราเซ็นเข้าไปอยู่แล้ว ตอนนั้นถ่ายละครเรื่องอะไรแล้วจำไม่ได้แล้วบังเอิญพี่บอล อัศนัย เขาเล่นเรื่องนั้นด้วย แล้วเขาเหมือนป่วย ผ่าตัดเข้าโรงพยาบาล แล้วเขาต้องถ่ายซีนรวม เขาก็เลยต้องหาไซต์ใกล้ๆ กันไปยืนให้เขาผ่านไหล่ ผ่านหลังให้หน่อย เขาเลยโทรมาบอกว่าช่วยหน่อยได้ไหม แต่ตอนนั้นเขาก็ลงละครที่จะให้ผมเล่นแล้วนะ ซึ่งผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ไม่เคยไปกองถ่ายละคร พอไปถึงก็งงเลย ทำอะไรบ้าง เจอดาราหลายคนเลย ตื่นเต้น

หลังจากนี้จะได้เห็นโก้ตามช่องอื่นๆ ไหม หมายถึงงานละคร?
โก้ : มีครับ ที่ช่องวัน

ตอนเด็กโก้เกเรมาก ตีกันจนต้องขึ้นโรงพัก?
โก้ : ไม่ขนาดนั้น เรื่องราวมันอาจจะมีเยอะ มีใหญ่โต แต่จริงๆ เราแค่บังเอิญไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่เกเร ชกต่อย แต่เราไม่ได้เป็นหัวโจกหรือตัวต้นเรื่องอะไร เราแค่ถ้าเขามีเรื่อง เราก็แค่ไปด้วย ถ้าคนเยอะกว่าเราก็เข้า ถ้าน้อยกว่าเราก็วิ่งแค่น้้นเอง คือถ้าถามตำแหน่งในแก๊งผมอยู่แถวสอง เราไม่ใช่คนชอบต่อยตี มีเรื่อง ชอบความรุนแรง ไม่ใช่ แต่เราอยู่ในกลุ่มเพื่อน แล้วด้วยความที่มันเป็นวัยรุ่น เพื่อนเข้า ถ้าเราไม่เข้า เดี๋ยวเพื่อนจะมองว่าไม่ใจ เราเลยต้องเข้าบ้างให้พอยังอยู่ในแก๊งได้

เราได้ไปต่อยกับเขาไหม?
โก้ : มีอยู่ๆ

ขึ้นหน้า1?
โก้ : ชื่อผมไม่ได้ขึ้น แต่เรื่องที่ลงหนังสือพิมพ์ด้วยความที่ว่าผมอยู่เตรียมอุดม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่คนภายนอกมองเข้ามาโอ้โห เด็กเรียน แต่ทุกๆ รุ่นมันก็จะมีกลุ่มที่เกเรบ้าง ซึ่งมันมีเรื่องชกต่อยกันในโรงเรียน แล้วพ่อของคนที่ถูกกระทำเขาไปแจ้งความแล้วเรียกนักข่าวมา ข่าวมันก็เลยออกไป เพราะโรงเรียนดูเหมือนไม่มีอะไร

ยังไม่ได้เข้าวงการบันเทิงเลย?
โก้ : ยังเลยครับ

คุณพ่อ คุณแม่ว่ายังไงบ้าง?
โก้ : เขาก็เป็นห่วงด้วย ว่าด้วย เตือนด้วย พยายามสอน แต่ว่าลึกๆ แล้วทางคุณพ่อ คุณแม่เขาเชื่อใจผมประมาณหนึ่งว่าผมไม่ถึงขั้นเสียคนจนกู่ไม่กลับ มันเป็นแค่ความคะนองในวัยรุ่น

แล้วอะไรที่ทำให้โก้คิดได้?
โก้ : พอมันโตขึ้น เราจะเริ่มรู้จักโลกมากขึ้น เราจะเห็นอะไรมากขึ้น เราจะรู้จักตัวเองมากขี้น จะได้เรียนรู้อะไรมากขี้นเราจะรู้สึกเสียดายสิ่งที่เรารู้ เราเรียนมา เราสร้างมา จนเราไม่อยากเอาสิ่งเหล่านั้นไปแลกกับอะไรเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นพอเวลาผ่านไปตัวเราก็จะเล็กลง แล้วมันจะทำให้เรารู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องหรือหาเรื่องใคร เราก็จะอยู่แบบสันติได้มากขึ้น สุดท้ายแล้วอยู่แบบสันติมันดีที่สุดอยู่แล้วครับ

เกเร แต่จบบัญชี อินเตอร์จุฬาฯ?
โก้ : คือผมตั้งใจเรียน คุณพ่อเป็นหมอ เป็นสายวิชาการ จับให้เรียนล่วงหน้ามาตั้งแต่ผมอยู่ ม.ต้นแล้ว ก็เลยจะได้เปรียบเรื่องวิชาการนิดนึง เพราะพอเข้า ม.ปลาย ผมเกเรแทบจะไม่เรียนเนื้อหาเลย แต่ยังโชคดีเหมือนโดนคุณพ่อ อัดมาเยอะตอน ม.ต้น เวลามีสอบก็เลยทำได้

ตอนอยู่มหาวิทยาลัย สาวๆ กรี๊ดสนั่นเลย?
โก้ : ไม่แน่ใจเหมือนกัน

เคยเจอแฟนคลับแปลกๆ ด้วย?
โก้ : จริงๆ มีครับ เป็นแฟนคลับตอนที่เป็นวง และเป็นเรื่องที่ผมจำขึ้นใจเหมือนกันนะ ปกติเวลาเราไปเล่นคอนเสิร์ตลงจากเวทีมาก็เป็นเรื่องปกติที่มีแฟนๆ มาออๆ กัน แล้วก็ขอถ่ายรูปบ้าง เซ็นนู้น เซ็นนี่บ้าง ซึ่ง ณ ตอนนั้นวงยังไม่ได้เป็นที่รู้จักขนาดนั้น มีแฟนคลับเป็นขาประจำอยู่กลุ่มเล็กๆ เป็นช่วงก่อนโควิด ช่วงประมาณ 2017-2018 แต่วันนั้นผมลงจากเวทีคอนเสิร์ตมาปุ๊บก็มีแฟนคลับมาออกัน แล้วจะมีน้องคนหนึ่งใส่แมสก์ ใส่แว่นดำ แล้วก็ใส่ฮู้ดแบบลึกลับมากๆ เดินฝ่าวงของแฟนคลับคนอื่นเข้ามา พี่โก้ เสร็จไม่พูดอะไรแล้วยื่นซองจดหมายให้ ยื่นให้เสร็จปุ๊บ ผมก็งงๆ ขอบคุณครับแล้วพยายามชวนเขาคุย เขาก็ไม่ตอบอะไร กลับบ้านไปวันนั้นเปิดซองจดหมายดู เขียนประมาณว่าทำแบบนี้กับฉันทำไม ทำไมถึงเข้ามาทำให้ชีวิตฉันมันปั่นป่วน ผมก็เริ่มงง ครั้งต่อไปเขามาอีก เพราะเขาแต่งตัวเหมือนเดิม แล้วก็ยื่นซองให้อีก ผมก็ถามว่าเป็นอะไรไหม ก็ไม่ยอมพูดกับผมเหมือนเดิม พูดซ้ำอยู่ประโยคเดิมว่าเอาหนูออกไปจากเกมนี้ทีแล้วผมก็แบบเกมอะไร งงมากเลย

ซองรอบสองเขียนอะไร?
โก้ : เนื้อหาคล้ายๆ เดิม แต่ว่าพรรณนาได้มากขึ้น ผมก็แบบโอ้โห เราไปทำอะไรให้เขาหรือเปล่า เหมือนเขารู้สึกว่าเขาติดอยู่ในเกมที่ผมเป็นคนบัญชา เป็นคนคุมเกม ทำให้เขาออกไปไม่ได้

ในข้อความเหมือนเขาหลงรักเราด้วยไหม?
โก้ : ด้วย

หลงรักเรา แล้วเราทำให้เขาคลั่งอย่างนี้เหรอ?
โก้ : ใช่

แล้วสุดท้ายเคลียร์ปัญหาตรงนี้ให้ออกไปจากชีวิตยังไง?
โก้ : เหมือนเขาหายไปเอง

สถานะหัวใจตอนนี้โสดหรือว่าไม่โสด?
โก้ : ขึ้นไตเติ้ลรายการขนาดนั้นไม่โสดก็ได้ คือเราไม่ได้ปิด และไม่ได้เปิด คือไม่ได้เป็นคนอวดแฟน

คบกันนานแค่ไหนแล้ว?
โก้ : หลายปีแล้ว

คบกันมาหลายปีได้คุยเรื่องอนาคตไหม แต่งเมื่อไหร่ มีลูกไหม?
โก้ : ผมว่าเป็นเรื่องปกตินะที่คนเป็นแฟนกันมีคิดบ้าง ต่างฝ่ายต่างคิด หรือว่าคุยกันเลย แต่สุดท้ายมันยังไม่ถึงขั้นแบบว่าแน่นอน เคาะฟันธง ตอนนี้อยู่แบบนี้มันก็แฮปปี้ดีอยู่ ยังไม่ต้องไปเร่งมัน อยากจะขอโฟกัสกับงานก่อน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ