2 นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย เดินทางไปสมทบกับเพื่อนร่วมทีมอีก 3 คนที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นที่เรียบร้อย ก่อนเตรียมทำศึกใหญ่บีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์โลก

ความเคลื่อนไหวนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย ที่เตรียมลงทำการแข่งขัน ศึกบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์โลก “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ที่ประเทศฝรั่งเศส

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยไปแข่งจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์โลก รายการ “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ระหว่างวันที่ 26-31 กรกฎาคม ที่เมืองน็องต์ ประเทศฝรั่งเศส ประกอบด้วย “เอ้” สิบตรี โกเมธ สุขประเสริฐ, “ฟ้า” สิบตรีหญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร, พลฯ สมคิด ฮาระตะวัน, นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และ นายวิชิตพงษ์ มงคลศิริ รวมทั้งนักปั่นรุ่นจิ๋วของไทยอีก 2 คน ที่ไปแข่งขันในระดับชาลเลนจ์ รุ่นอายุ 11 ปี ได้แก่ “มีญ่า” ด.ญ.อนัญญา จารุเพ็ง จากทีมสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชัยนาท และ “แกรนด์” ด.ช.ติณณ์ วิจิตรพงษา จากทีม Lake Cross

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม “เอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ และ “ฟ้า” ส.ต.หญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร ซึ่งฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้เดินทางโดยรถยนต์ มาสมทบกับบรรดานักปั่นทีมชาติอีก 3 คน ที่เดินทางจากประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ พลฯ สมคิด ฮาระตะวัน, นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และ นายวิชิตพงษ์ มงคลศิริ ซึ่งทั้งหมดจะลงสนามฝึกซ้อมร่วมกัน จากนั้นในวันที่ 29 กรกฎาคม จะมีการประชุมผู้จัดการทีม และจะทำการแข่งขันรอบแรกในวันที่ 30 กรกฎาคม เวลานี้นักปั่นทีมเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยมีความฟิตสมบูรณ์ ไม่มีอาการบาดเจ็บ พร้อมที่จะลงแข่งขันทุกคน

“ตามที่ผมได้เรียนให้แฟนกีฬาจักรยานได้รับทราบว่า นักปั่นไทยชุดนี้ต้องเจอศึกหนัก ลงชิงชัยนักปั่นระดับโลกทั้งจากทวีปยุโรปและอเมริกา โดยนักปั่นชาย 3 คน ได้แก่ โกเมธ, เมธาสิทธิ์ และสมคิด จะลงแข่งขันในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งมีนักกีฬาลงทะเบียนไว้ 60 คน ในจำนวนนี้มีญี่ปุ่น 2 คน และอินโดนีเซีย 2 คน ส่วน วิชิตพงษ์ จะลงแข่งขันรุ่นเยาวชนชายอายุ 17-18 ปี รุ่นนี้มี 61 คน มีนักปั่นเอเชียจากญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย ชาติละ 1 คน ขณะที่ ชุติกาญจน์ จะลงแข่งขันรุ่นประชาชนหญิง มีนักกีฬา 27 คน โดย ชุติกาญจน์ เป็นนักกีฬาจากทวีปเอเชียเพียงคนเดียว ถึงแม้ว่านักปั่นไทยจะเจองานหนักแต่เป็นการวัดศักยภาพของตัวเองกับนักกีฬาระดับโลก รวมไปถึงเปิดโอกาสในการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส อีกด้วย” พลเอกเดชา กล่าว

นอกจากนี้ นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ในส่วนของนักปั่นรุ่นจิ๋ว 2 คน คือ “มีญ่า” ด.ญ.อนัญญา จารุเพ็ง กับ “แกรนด์” ด.ช.ติณณ์ วิจิตรพงษา ก็สร้างผลงานน่าพอใจในการลงแข่งขันจักรยานประเภทชาลเลนจ์ ในรุ่นอายุ 11 ปี เมื่อวันพุธที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยในรอบแรก เป็นการแข่งขันแบบเก็บคะแนน 3 โมโต ผลปรากฏว่า ด.ช.ติณณ์ เริ่มต้นโมโตแรกไม่ดีนัก เข้าเส้นชัยอันดับ 6 แต่ก็มาแก้ตัวในโมโต 2 และโมโต 3 ฝ่าฟันเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 ทั้ง 2 โมโต ทำให้มีคะแนนเพียงพอที่จะเข้ารอบ 2 ซึ่งเป็นการแข่งขันตัดเชือกคัดเอาเพียง 4 คนในแต่ละฮีตเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ผลปรากฏว่า ด.ช.ติณณ์ เข้าเส้นชัยอันดับที่ 5 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

ส่วนผลงานของ “มีญ่า” หลานสาวของ “ปอ” ธนพล จารุเพ็ง อดีตแชมป์ประเทศไทยในประเภทดาวน์ฮิล 7 สมัยผู้ล่วงลับ ก็ไม่ทำให้กองเชียร์ไทยผิดหวัง ผ่านรอบแรกแบบสบาย ๆ ด้วยการเข้าเส้นชัยอันดับ 3 ทั้ง 3 โมโต และในรอบ 2 ผ่านเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ก็น่าเสียดายที่การแข่งขันในรอบก่อนรองชนะเลิศ แม้ว่า “มีญ่า” จะออกตัวจากเกตสตาร์ทได้ดี เกาะเป็นอันดับ 4 ได้ในทางตรง 2 ช่วงแรกแต่ก็มาโดนคู่แข่งจากฝรั่งเศสแซงเฉือนเข้าเส้นชัยในทางตรงสุดท้าย เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 5 พลาดการเข้ารอบรองชนะเลิศไปเพียงนิดเดียว

พลเอกเดชา กล่าวเสริมอีกว่า สำหรับนโยบายของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดกว้างสำหรับนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทุกรุ่นอายุ สามารถดำเนินการขออนุญาตเดินทางไปร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ ทางสมาคมฯ ยินดีที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยในรายการใหญ่รายการถัดไปก็คือการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิง ชิงแชมป์เอเชีย 2022 ที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม นอกเหนือจากทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่จะส่งเข้าร่วมการแข่งขันทั้งในรุ่นประชาชาย-หญิง รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย-หญิง และรุ่นเยาวชนชาย-หญิงแล้ว ก็ยังมีทีมสโมสรหลายทีมจะส่งนักกีฬารุ่นอายุเข้าร่วมการแข่งขันที่ทางมาเลเซียจัดการแข่งขันระดับนานาชาติคู่ขนานไปกับการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียอีกรายการหนึ่งด้วย.