แอมะซอนจ่อ “เลิกจ้างงาน” 1.8 หมื่นตำแหน่ง ลดค่าใช้จ่าย-หลังจ้างเพิ่มช่วงโควิด

Home » แอมะซอนจ่อ “เลิกจ้างงาน” 1.8 หมื่นตำแหน่ง ลดค่าใช้จ่าย-หลังจ้างเพิ่มช่วงโควิด


แอมะซอนจ่อ “เลิกจ้างงาน” 1.8 หมื่นตำแหน่ง ลดค่าใช้จ่าย-หลังจ้างเพิ่มช่วงโควิด

แอมะซอนจ่อ “เลิกจ้างงาน” 1.8 หมื่นตำแหน่ง ลดค่าใช้จ่าย-หลังจ้างเพิ่มช่วงโควิด

บีบีซี รายงานว่า นายแอนดี แจสซี ประธานบริหารบริษัท แอมะซอน (Amazon) เว็บไซด์จำหน่ายสินค้าปลีกทางออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า จะลดพนักงานกว่า 18,000 ตำแหน่ง เนื่องจากเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ภายหลังยอดขายชะลอตัวภายหลังธุรกิจเฟื่องฟูอย่างมากในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและธุรกิจออนไลน์มีรายได้แบบพุ่งกระฉูด ก่อนปรับตัวลดลงเพราะวิกฤตเศรษฐกิจและการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติหลังจากสถานการณ์โรคระบาดในหลายประเทศเริ่มทุเลาลง

บริษัทระบุว่า แอมะซอนมีพนักงานมากกว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่าประเทศใดบ้างที่จะถูกเลิกจ้าง แต่พนักงานที่จะโดนปลดส่วนใหญ่มาจากธุรกิจค้าปลีกสำหรับผู้บริโภคและแผนกทรัพยากรบุคคล โดยพนักงานที่ถูกปลดจะได้รับแจ้งภายในวันที่ 18 ม.ค.ที่จะถึงนี้

Amazon says it will cut more than 18,000 jobs – about 6% of its corporate workforce – amid an ‘uncertain’ US economy. Photograph: Karla Coté/Sopa Images/Rex/Shutterstock

นอกจากนี้แอมะซอนยังระบุอีกว่า บริษัทกำลังปรับลดโครงการต่างๆ ที่ไม่ได้รับผลตอบแทนตามเป้า เช่น “แอมะซอน อเล็กซา” หรือระบบซอฟแวร์ควบคุมด้วยเสียง การใช้งานหลักๆ ในช่วงเริ่มต้นคือการใช้ร่วมกับฮาร์ตแวร์ของแอมะซอน ชื่อแอมะซอน เอคโค และหุ่นยนต์ส่งพัสดุที่ได้ยกเลิกการทดสอบไปเมื่อเดือนตุลาคม 2565 รวมถึงยกเลิกแพลตฟอร์มเกมบนคลาวด์อย่าง ลูนา และแลป 126 ซึ่งทำหน้าที่เป็นฮาร์ดแวร์ให้ออกมาเป็นรูปร่าง อย่างเช่น คินเดิล อี-รีดเดอร์

ด้านนายนีล ซอนเดอร์ นักวิเคราะห์การค้าปลีกของโกลบอลดาตา รีเทล ทวีตข้อความว่า การปลดพนักงานจำนวนมากของแอมะซอนนั้น เนื่องจากในปี 2562 บริษัทรับพนักงานเพิ่มขึ้นประมาณ 743,000 คน เพราะผู้คนส่วนใหญ่ซื้อของออนไลน์ในช่วงเกิดโรคระบาด แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังชะลอตัว ทำให้ทางบริษัทมีแนวโน้มว่าจะมีการลดจำนวนพนักงานลงอีกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัท แอมะซอน เริ่มเลิกจ้างพนักงานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อื่นๆ อย่างบริษัท เมตา เจ้าของเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และวอทซ์แอพ รวมทั้งบริษัทซอฟต์แวร์ธุรกิจบนคลาวด์อย่าง เซลล์ฟอร์ซ์ แพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (ซีอาร์เอ็ม) อันดับ 1 ของโลก ก็ประกาศปรับลดพนักงานครั้งใหญ่เช่นกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ