เรียกได้ว่าทุกวันนี้ การหาคู่หาแฟนนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะสังคมโลกโซเชียลได้เกิด แอปพลิชั่นหาคู่ มากมายที่เข้ามาสร้างความสะดวก สำหรับบางคนที่ไม่มีเวลาไปใช้ชีวิต และไม่ค่อยได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ก็สามารถเจอคนที่คลิ๊ก คนที่ไลฟ์สไตล์ตรงกันผ่าน แอปฯหาคู่ เหล่านี้ได้ แต่ในบางครั้ง ก็มีหลายคนที่อาจจะไม่สมหวัง เมื่อคุยกันผ่านแอปฯแล้วอาจจะเข้ากันได้ แต่พอไปเจอตัวจริงกลับไม่ตรงปกซะงั้น นอกจากนี้ มิจฉาชีพ อาจจะมาในคราบของคนโสดผ่าน แอปฯหาคู่ ก็มี เช่นเดียวกับกรณีนี้ ที่เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้ออกมาแชร์เรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่เจอสาวหลอกเงินหลักแสนผ่าน แอปฯหาคู่ โดยหนุ่มคนนั้นเล่าว่า
เจอสาวจากแอปฯหาคู่โกงเงินหลักแสน
ฝากแชร์เรื่องนี้ด้วยคับพี่สวัสดีครับ ผมต้องการร้องเรียนเรื่องที่ผมโดนฉ้อโกงโดยคนชื่อแอม เป็นจำนวนเงิน 375,000 บาทครับ วันที่ 12 สิงหาคม 2566 คุยกันใน …. ผมได้แมทซ์กับผู้หญิงคนนึง #แอม ซึ่งแอมได้บอกว่า “ต้องการหาคนที่พร้อมและจริงใจ ต้องสะดวกเจอก่อนถึงจะค่อยเริ่มคุยกัน ถ้าเจอแล้วโอเคก็ค่อยพัฒนากันไปต่อ”
ผมนัดเจอในวันรุ่งขึ้นที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน วันที่ 13 สิงหาคม 2566 ผมและแอมนัดกันที่ Amazon ชั้น 6 ของเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ผมและแอมก็คุยกันเรื่องทั่วๆไป เช่น เรียนจบที่ไหนมา ทำงานอะไรอยู่ แอมยังได้ถาม “เงินเดือนผม” ด้วย ซึ่งผมก็บอกไปตามปกติเพราะไม่อยากโกหก ระหว่างบทสนทนาต่างๆ แอมถามตลอดว่าวันนี้ที่ผมและแอมเจอกันมัน “โอเคมั้ย” ซึ่งผมก็บอกตลอดว่า “ก็โอเคนะครับ” วันรุ่งขึ้นผมและแอมเลยนัดเจอกันอีก
วันที่ 14 สิงหาคม 2566 เวลา 12:30 ชั้น 5 ของเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ผมและแอมได้ไปกินร้าน shabushi ซึ่งแอมเป็นคนออกอาหารมื้อนั้น หลังจากนั้นประมาณ 14:00 ผมและแอมก็ไปกิน swensen’s กันต่อ ผมยังจำได้ที่แอม บอกประมาณว่า “ถ้าเรื่องงานทุ่มสุดตัวเรื่องความรักทุ่มสุดใจ”
สักพักแอมก็ทำท่าทางเครียดๆ แอมเล่าว่า “ซื้อกองทุน SCG ไป 2,000,000 บาท และได้กำไรมา 190% เป็นเงิน 3,800,000 บาท” แอมสามารถรับได้แค่ 100% คือ 2,000,000 บาท เพราะฉะนั้นอีก 1,800,000 บาท แอมต้องให้คนอื่นที่ไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขมาเป็นคนรับผลประโยชน์แทน
แอมบอกว่า เพื่อนที่กำลังกลับจากจันทบุรี น่าจะมาไม่ทันแน่ๆ ส่วนเพื่อนอีกคนก็ไม่น่าไว้ใจ เพราะเคยให้ยืมเงิน และไม่คืน.แอมเลยจะให้ผมเป็นคนรับแทนผลประโยชน์แทน แอมบอกว่าจะแบ่งกัน 50-50 (คนละ 9 แสนบาท จากทั้งหมด 1,800,000 บาท)
แต่ให้ผมจ่ายค่าภาษีให้สรรพากรก่อน รับเงิน 1,800,000 บาท เป็นเงิน 540,000 บาท ผมตอบตกลง ด้วยความ “โลภ”
ผมและแอมจึงมุ่งหน้าไปที่ธนาคารซึ่งอยู่ชั้นเดียวกันคือชั้น 5 ประมาณ 15:40 – 16.02 ที่ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 5ผมได้ทำการกดเงินสดจากตู้ ATM ทั้งหมด 12 ครั้ง รวมเป็นเงิน 250,000 บาท
จากธนาคารกรุงเทพ
- ณ เวลา 15:40 เป็นจำนวน 25,000 บาท
- ณ เวลา 15:42 เป็นจำนวน 25,000 บาท
- ณ เวลา 15:43 เป็นจำนวน 25,000 บาท
- ณ เวลา 15:45 เป็นจำนวน 25,000 บาท
จากธนาคารกรุงไทย
- ณ เวลา 15:50 เป็นจำนวน 20,000 บาท
- ณ เวลา 15:51 เป็นจำนวน 20,000 บาท
- ณ เวลา 15:51 เป็นจำนวน 20,000 บาท
- ณ เวลา 15:52 เป็นจำนวน 20,000 บาท
- ณ เวลา 15:53 เป็นจำนวน 20,000 บาท
จากธนาคารออมสิน
- ณ เวลา 15:59 เป็นจำนวน 20,000 บาท
- ณ เวลา 16:01 เป็นจำนวน 20,000 บาท
- ณ เวลา 16:02 เป็นจำนวน 10,000 บาท
ประมาณ 16:02-16:13 ชั้น 5 ธนาคารออมสิน แอมเอาเงิน 250,000 บาท ไปจากมือผม และ นั่งนับเงินที่ธนาคารออมสิน แอมบอกว่ามันไม่พอ เลยให้ผมไปกดเงินเพิ่มอีก 40,000 บาท จากธนาคารกรุงศรีณ เวลา 16:12:54 เป็นจำนวน 30,000 บาทณ เวลา 16:13:49 เป็นจำนวน 10,000 บาท
ในระหว่างที่ผมไปกดเงินนั้น แอมได้เดินหายไป ผมโทรหาแอม ซึ่งแอมบอกว่า ไปจ่ายค่าธรรมเนียมอะไรสักอย่างที่ธนาคารกรุงไทย แอมเดินกลับมาที่ธนาคารออมสิน ผมได้เอาเงิน 40,000 บาทให้แอม (รวมเป็น 290,000 บาท)
แอมก็เดินไปตู้ ATM แถวนั้น แอมได้ส่งสลิปว่าจ่ายภาษี กรมสรรพากร ไปเป็นจำนวน 540,000 บาท ซึ่งจ่าย ณ เวลา 16:18:53 ซึ่งแปลว่า แอมช่วยออก 250,000 บาท (ภาษี 540,000 ผมให้เงินไป 290,000)
ต่อมาแอมก็ยื่นตัวสำเนาใบรับฝากเงิน/โอนเงิน มาให้ผมดูพร้อมหมายเลขเช็ค ว่าได้โอนเข้าบัญชีออมสินผมแล้ว 1,800,000 บาท
แอมนัดผมให้ไปเดอะมอลล์งามวงศ์วานอีกในวันรุ่งขึ้น ตอน 12:00 วันที่ 15 สิงหาคม 2566 ผมเห็นยอดเงินเข้าบัญชีผม 1,800,000 บาท ในเวลา 02:37 แต่ผมไม่สามารถโอนหรือถอนยอดนี้ได้ แอมให้เหตุผลว่าธนาคารโทรมาหาแอมตอนเช้าว่า นอกจากยอด 1,800,000 บาทแล้ว ยังมีดอกเบี้ยที่จะได้รับอีก 900,000 บาท ฉะนั้นผมและแอมต้องจ่ายภาษีส่วนดอกเบี้ย 900,000 บาทนี้ก่อน แต่แอม ไม่ได้บอกว่าต้องจ่าย ภาษีทั้งหมดเท่าไหร่และแอมถามผมว่ามีเงินทั้งหมดเท่าไหร่ตอนนี้
ผมบอกว่า ผมมีแค่ 85,000 บาท แอมบอก มันขาดอีก 150,000 บาท แอมจะแอบถอนเงินจำนวน 150,000 บาทนี้มาจากบริษัทของแอมมาจ่ายภาษีก่อน เวลาประมาณ 12:30 ผมไปถึงเดอะมอลล์งามวงศ์วาน แอมบอกว่า แอมยังรอลูกค้าอยู่ เลยยังมาไม่ได้
เวลาประมาณ 13:30 แอมบอกให้ผมเดินไปขอซองใส่เงินจากพนักงานธนาคารกรุงศรี
เวลา 13:58-14:01 ATM ธนาคารกรุงศรี เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 5 ผมได้ทำการกดเงิน
- ณ เวลา 13:58:52 เป็นจำนวน 30,000 บาท
- ณ เวลา 13:59:55 เป็นจำนวน 30,000 บาท
- ณ เวลา 14:01:04 เป็นจำนวน 25,000 บาท
ผมเอาเงินจำนวน 85,000 บาท ใส่ซอง แม็กให้เรียบร้อยพร้อมใส่ถุงและส่งรูปให้แอมดู เวลา 14:15-14:45 เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ตรงบันได้ด้านหน้าห้าง แอมนัด LINEMAN มารับซองที่ใส่เงินของผมไป และบอกว่ามาไม่ได้แล้ว
วันที่ 16 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 10:00.แอมเร่งให้ผมหาเงินจำนวน 150,000 บาท ไปให้แอมภายในตอนเช้า.เพื่อที่จะไปจ่ายคืนโรงงาน ที่แอมแอบเอาออกมาจ่ายภาษี ส่วนเงินดอกเบี้ย 900,000 บาท แอมบอกว่าจะเข้าตอนบ่าย 2 ของวันนี้.ผมหาเงินจำนวน 150,000 บาท ไม่ทัน ผมเลยไปยืมเพื่อน จน เพื่อนได้เตือนสติผม
เวลาประมาณ 10:45 ผมเริ่มโทรเช็คกับธนาคารหลายแห่งใบเสร็จที่แอมจ่ายภาษีจำนวน 540,000 บาท ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2566 เวลา 16:18:53 เป็น“ของปลอม” เพราะเลขอ้างอิงไม่มีในระบบ
เวลาประมาณ 14:00 ผมก็ไปดำเนินแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรีพร้อมหลักฐานแชทในไลน์กับ….และรูปสลิป
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY