แอนนา ประกาศลาออกจากวงการ รับคำวิจารณ์ไม่ไหว ไม่คุยกับบังแจ็ค-อัจฉริยะ
แอนนา ประกาศลาออกจากวงการ / รับคำวิจารณ์ไม่ไหวแล้ว สำหรับพิธีกรชื่อดัง แอนนา วรินทร วัตรสังข์ ล่าสุดประกาศออกจากวงการบันเทิง ยุติบทบาทพิธีกรจากทุกรายการตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังได้ชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ว่า
“สาเหตุที่วันนี้ออกมาแถลงข่าว เพราะหลังกลับจากต่างประเทศ ก็มีประเด็นรวบคาสนามบิน จากนั้นก็ไม่เคยพูดอะไรอีก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีประเด็นพาดพิงมาหลายเรื่อง ประกาศวันนี้ด้วยว่าจะขอออกจากวงการบันเทิง เพราะว่าไม่อยากอยู่ตรงนี้ อยากออกไปใช้ชีวิตส่วนตัว อยากทำธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ต้องมาให้คนวิจารณ์ ได้ทบทวนดีแล้ว ใจเราไม่ไหวในการรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ
ก่อนหน้านี้ได้คุยกับผู้ใหญ่ทางช่อง 8 ว่าเราอยากยุติบทบาทการเป็นพิธีกร ตอนแรกคุยกันไว้ว่าจะเป็นเดือน ก.ย. ผู้ใหญ่ได้ลงมติแล้วว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่แอนนาจัดรายการของรายการทั้งหมด”
ออกเองใช่ไหม หรือว่าผู้ใหญ่ให้ออกตามที่มีข่าว? “แอนนาต้องขอบคุณผู้ใหญ่ช่อง 8 มากๆ เพราะว่าเรายังมั่นใจว่าเราคงโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกที่เป็นข่าวด้วยซ้ำ เพราะว่ามันเป็นคดีอาญา แต่ผู้ใหญ่เข้าใจ เราแสดงหลักฐาน ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ทางผู้ใหญ่ก็มองว่าไม่เป็นไร ในส่วนตัวเอง ที่ตัดสินใจออกจากวงการ
เพราะว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเพื่อน (แตงโม ภัทรธิดา) เรารู้สึกดาวน์ ในหลายๆ วันที่เปิดข่าวขึ้นมาอ่าน รู้สึกว่ากำลังใจไม่ได้ แล้วแตงโมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า แอนนาเธอจัดรายการแบบนี้เธอไม่ดังหรอก เพราะว่าเธอไม่กล้าขยี้ จัดไปก็ไม่มีอนาคต เราก็เลยคิดว่ามันเป็นจริงอย่างที่เขาว่า เราก็ไปทำในสิ่งที่เราถนัด หรือว่าอย่างอื่นที่เราทำได้”
ไปทำธุรกิจใช่ไหม? “แอนนาเป็นแม่ค้าขายของจะเป็นปีแล้ว เรามีความสุข คือชีวิตไม่ได้เหลืออีกยาวนาน อีก10-20 ปีเราก็แก่มากแล้ว แล้วเราอยากไปใช้ชีวิตในสิ่งที่เราอยากเป็น”
หลักๆ เป็นเพราะโดนบูลลี่เลยตัดสินใจออกจากวงการ? “แอนนาโดนหนักมาก ตอนช่วงกระแสข่าวของเพื่อน (แตงโม) พอทำเยอะ คนก็บอกเกาะกระแส พอหยุด ก็บอกว่านี่ไงสุดท้ายก็ทิ้งเพื่อน คือไม่รู้ว่าตรงไหน คือตรงกลาง แต่สิ่งที่ทำอยู่วันนี้คือดูแลแมวให้ดีที่สุด เราให้ความสำคัญกับโมตลอดเวลา เรายังทำเหมือนโมมีชีวิตอยู่
กับแม่คนจะว่าแม่อะไรก็ไม่รู้ แต่สุดท้ายถ้าแม่รู้สึกว่าแม่เครียด แม่จะโทรหาแอนนาได้เสมอ เรารับสายแม่ตลอด แม่ก็ยังมีส่งข้อความมาหาเสมอ เราคิดว่าอย่างน้อยเราก็ทำหน้าที่ลูกแทนเพื่อน”
มีประเด็นว่าเราไปเกี่ยวโยงกับบังแจ็ค? “เรื่องของบังแจ็ค ตอนที่แอนนาบินไปอเมริกา เขาโทรมา แล้วตอนนี้มันมีเรื่องของโทรศัพท์มือถือ แอนนาคุยกับแม่ แล้วแม่บอกว่าไว้ใจบังแจ็ค แม่บอกว่าบังแจ็คเขาเป็นคนดี เราก็ไม่กล้าค้านเยอะ
เพราะว่าเราไม่ได้รู้จักบังแจ็คดีพอ เราเลยแค่รับฟัง ถามว่าแอนนารู้ก่อนไหมว่ามือถืออยู่กับบังแจ็ค แอนนาไม่รู้ แต่เดาได้ไม่อยาก เพราะว่าตอนนั้นแม่พูดว่าคนที่แม่ไว้ใจที่สุดคือบังแจ็ค เราก็คิดว่าโอเค”
บังแจ็คโทรหาเราทำไม? “เขาชวนกินข้าว แต่เราไม่อยากมีประเด็นอะไรเพิ่มออกมาอีกแล้ว แล้วกับบังแจ็คเคยคุยกับเขาที่อเมริกา หลังจากนั้นก็ไม่เคยคุยกับเขาอีกเลย กับพี่อัจ ก็ไม่เคยคุย เราไม่เคยมองสิ่งที่พี่อัจทำไม่ดี เรารู้สึกขอบคุณเขาด้วยซ้ำไป คือเรารู้สึกว่าเขาสู้จริงๆ
เราก็ได้ประกาศตัวเองว่าขอหยุดทุกอย่าง อย่างที่บอกทำก็หิวแสง ไม่ทำก็บอกว่าไม่ช่วยเพื่อน ตอนนี้เราก็ทำในสิ่งที่เราทำได้คุยกับคุณแม่ให้คุณแม่หายเครียด หรือตัวกระติกเอง แอนนาให้พี่เฮเลนโทรหากระติก บอกว่าถ้าลูกของกระติกต้องการความช่วยเหลืออะไรทักมาหาเราได้นะ เราไม่ได้เกลียดกระติก แต่ลูกของกระติก คือเด็กคนนึงที่แตงโมรักมาก ถ้าอะไรก็ตามที่เราช่วยเหลือได้เราก็จะทำ”
ในแก๊งเพื่อนๆ มีความคิดเห็นเรื่องคดีเป็นอย่างไร? “เราติดตามคดีตลอดว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร แต่ว่าตอนหลังมันมีหลายประเด็นมาก พอเราออกมาพูดก็ว่าเราหาแสงให้ตัวเอง วันนี้ที่มาพูดเราหยุดมา 3 เดือน เพื่อดูว่าคดีออกมาเป็นอย่างไร ถ้ามันออกมาไม่ยุติธรรมเราก็จะออกมาเรียกร้องความยุติธรรม แต่ถ้ามันออกมาสมเหตุสมผล”
หลังจากออกจากวงการแล้วเราวางแผนชีวิตไว้อย่างไร? “ออกจากวงการคือเฉพาะในสื่อโทรทัศน์ กลับไปอยู่โลกโซเชียล ทำแล้วเรามีความสุข พอเราเป็นบุคคลสาธารณะ เราไม่ได้มีสื่อ ในมือทั้งหมด เรื่องไหนที่ไม่จริงเราไม่สามารถออกมาแก้ข่าวนั้นได้ เลยคิดว่าถ้าเราอยู่ในโลกโซเชียล เป็นประเด็นเราก็แก้ในโลกโซเชียลได้ แต่พอเราเป็นบุคคลสาธารณะ เราแก้อะไรไม่ได้”
“ตอนนี้วางแผนไปใช้ชีวิตที่อเมริกา กำลังดำเนินการอยู่ คือเราจะเป็นบริษัทขายของนำเข้าจากต่างประเทศ ไลฟ์ขายของจากต่างประเทศ ของในประเทศเราก็ยังขายเหมือนเดิม ช่วงแรกคิดว่าคงไปๆมา แต่พออยู่ตัวคงจะไปอยู่ที่โน่นเลย เพราะว่าจะพาลูกไปเรียนที่โน่นด้วย”
“ต้องเล่าอีกอย่างคือตอนที่ไปอเมริกา ได้มีโอกาสเจอกับเอเจนซี่ที่โน่น เขาก็แนะนำว่าทำไมไม่ลองเป็นนางแบบ เพราะว่าส่วนสูงเธอได้ ซึ่งแอนนาก็ได้ขึ้นนิตยสารต่างประเทศ 2 เล่ม คืออีกอย่างแอนนาก็อยากที่จะไปเป็นนางแบบที่ต่างประเทศด้วย”
“ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปปารีสเพื่อแคสต์งาน เป็นเวลา 7 วัน และก็ได้ไปเอาหน้าอกออก เพราะว่าตอนที่เราวัดไซซ์ส่งไปให้ทางปารีส เขาบอกว่าไซซ์ไม่ได้มาตรฐาน หน้าอกใหญ่ไป ก็ไปเอาออกเลย เดี๋ยวคนจะถามว่าหนีคดีหรือเปล่า แอนนาไม่หนีนะคะ วันที่ 8 นี้ก็จะกลับมาเคลียร์เรื่องคดีให้จบ”
ถามเรื่องคดีล็อตเตอรี่ ไปถึงไหนแล้ว? “ด้วยหลักฐานมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับแอนนาและพี่ต๊ะ บอยสเก๊าท์ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรค่ะ ต้องบอกก่อนว่าแอนนาโดน 2 คดี คดีแรก คือคดีล็อดเตอรี่ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่อีกคดีเป็นคดีที่แอนนาเคยพูดถึงข่าวดาราหญิงท่านหนึ่ง ที่เป็นประเด็นเดี่ยวกับความรัก
แอนนาให้ทนายไปขอเคลียร์ แต่เขาไม่เคลียร์ บอกให้ไปเจอกันในชั้นศาล ตอนนี้คดีหมิ่นประมาทดูจะรุนแรงกว่า ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมา มันคงถึงเวลาที่เราต้องเดินตามฝัน ไปถ่ายแบบ เดินแบบที่ต่างประเทศ มันเป็นงานสั้นๆ ไม่ต้องมาโดนวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้อีกแล้ว”