แห่บริจาคหนุ่มป่วยมะเร็ง 3.4 ล้าน ขี้อวดจนโป๊ะ ถูกเปิดโปงไม่ได้ยากจนจริงอย่างที่อ้าง รู้ว่าเอาเงินไปซื้ออะไรยิ่งโกรธ
ชายหนุ่มที่ป่วยเป็นมะเร็งถูกเปิดโปงว่าโกหก หลังจากที่เขาไม่ได้ยากจนอย่างที่กล่าวอ้าง แต่กลับเรียกร้องเงินบริจาค
ชายคนนี้มีนามสกุลว่า หลาน อายุ 29 ปี อาศัยอยู่ในเมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ย เขาได้รับเงินบริจาคถึง 700,000 หยวน (ประมาณ 3.4 ล้านบาท) ภายในเวลาไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน เขาได้โพสต์โชว์อพาร์ตเมนต์ใหม่ของเขา ทำให้ประชาชนเริ่มสงสัย
นายหลานได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin lymphoma) ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบได้น้อย เขาแนะนำตัวเองว่าเป็นบัณฑิตจบใหม่จากมหาวิทยาลัยนานกิงในปี 2020 และเคยทำงานที่บริษัทอินเทอร์เน็ตชื่อดังในเมืองกว่างโจว ก่อนที่จะป่วยเป็นมะเร็ง
นายหลานกล่าวว่าครอบครัวของเขาประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจากต้องชำระค่ารักษาพยาบาลของพ่อก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต ทำให้เป็นหนี้ก้อนใหญ่
จัดแคมเปญขอรับบริจาค
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม นายหลานได้เริ่มแคมเปญระดมทุนผ่านแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิ้ง โดยเพื่อน ๆ ของเขาระบุว่า แคมเปญของนายหลานเป็นที่นิยมมากในกลุ่มศิษย์เก่าและโซเชียลมีเดีย เขายังเล่าเรื่องราวส่วนตัวผ่านวิดีโอ พร้อมแชร์ข้อมูลบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาค
อย่างไรก็ตาม ผู้บริจาคเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใสทางการเงินของนายหลาน เมื่อเขาแชร์รูปอพาร์ตเมนต์ที่เพิ่งซื้อใหม่ในกลุ่มแชต พร้อมข้อความว่า “นี่คือบ้านใหม่ของผม มูลค่ารวม 738,000 หยวน” (ประมาณ 3.5 ล้านบาท)
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ครอบครัวของนายหลานมีทรัพย์สินมากมาย รวมถึงอพาร์ตเมนต์สองแห่งมูลค่าสูงถึง 1 ล้านหยวน (ประมาณ 5 ล้านบาท) และอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์มูลค่ากว่า 3.8 ล้านหยวน (ประมาณ 19 ล้านบาท) ที่สร้างรายได้ค่าเช่าปีละ 145,000 หยวน (ประมาณ 725,000 บาท)
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน แพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิ้งได้ระงับบัญชีของนายหลาน หลังได้รับเงินบริจาค 270,000 หยวน (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) จากผู้บริจาค 4,536 คน
แพลตฟอร์มออกแถลงการณ์ว่า นายหลานปกปิดสถานะทางการเงินที่แท้จริงของครอบครัว เขาถูกขึ้นบัญชีดำและถูกแบนถาวรจากการระดมทุนในอนาคต นอกจากนี้ เงินบริจาคจำนวน 278,204 หยวน (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) ถูกเรียกคืนทั้งหมดและจะคืนให้ผู้บริจาค
นายหลานกล่าวภายหลังว่า เขาได้นำเงินบริจาค 200,000 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท) ไปฝากเข้าบัญชีและปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้เงินบริจาคเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์
ปฏิกิริยาจากสาธารณชน
เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลในสังคมเกี่ยวกับความโปร่งใสของการระดมทุนเพื่อการกุศล โดยชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นว่า
- “การกระทำหลอกลวงนี้อาจทำให้หลายคนลังเลที่จะบริจาคเงินให้คนที่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ”
- “นี่เป็นเหตุผลที่ผมไม่บริจาคผ่านแพลตฟอร์ม คุณไม่มีทางรู้ว่าผู้รับบริจาคต้องการความช่วยเหลือจริงหรือไม่”
- “บางครั้งพวกเขารวยกว่าคุณอีก”