รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า จากกรณีเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว ที่สุพรรณบุรี มีเหตุการณ์เจ้าบ่าวหมาด ๆ วัย 32 ปี ยิงตัวตาย หลังเพิ่งเข้าพิธีผูกข้อไม้ข้อมือกับเจ้าสาว ตอนนั้นทางญาติเจ้าบ่าว ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ต่อมาพี่ชายเจ้าบ่าวซุ่มสืบหาความจริงจนมั่นใจ เหตุมาจากเจ้าสาวของน้องชาย #ท้องทิพย์
ย้อนไปเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 เมษายน เกิดเหตุชายวัย 32 ปี ยิงตัวตายในบ้านพัก ที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อตำรวจ สภ.อู่ทอง เข้าไปตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตชื่อ ยิ้ว เป็นเจ้าบ่าวหมาดๆ เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานผูกข้อมือกับเจ้าสาว ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ท่ามกลางความมึนงงของญาติและเพื่อนผู้ตาย เพราะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
- เจ้าสาวใจสลาย เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานตอนเช้า ตกบ่ายพบศพเจ้าบ่าวยิงตัวตายปริศนา
ส่วน กิ๊ฟ เจ้าสาวป้ายแดง มีอาการเสียใจอย่างหนัก ร่ำไห้ตลอดเวลา ที่สามีของเธอคิดสั้น ทิ้งเธอและลูกน้อยในท้องไป ซึ่งคดีในตอนนั้น ทางญาติ ไม่ติดใจอะไร ได้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีพิธีฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา
ล่าสุด เรื่องนี้กลายเป็นประเด็กขึ้นมากอีก เนื่องจาก นายเอกชัย หรือ หนุ่ม พี่ชายคนโตของผู้ตาย ส่งหลักฐานข้อเท็จจริงบางอย่างในทีมข่าวดู มีคลิปวิดีโอการจับพิรุธ น.ส.กิ๊ฟ น้องสะใภ้ พร้อมเผยว่า ใจจริงครอบครัวไม่อยากพูดอะไร เพราะเพิ่งสูญเสียน้องชายไป แต่น้องชายกลับถูกสังคมกล่าวหาว่า คิดสั้นทอดทิ้งลูกเมีย แถมยังเกิดประเด็นว่า อดีตน้องสะใภ้ตนอาจจะไม่ท้องจริง
น.ส.กิ๊ฟ คบหากับน้องชายตนเองจริง เมื่อปี 2563 ก่อนแต่งงานน้องชายได้บอกเลิกกิ๊ฟ ไปในวันที่ 17 เมษายน ผ่านไป 2-3 วัน กิ๊ฟมาบอกว่าตั้งท้อง ตอนนั้นครอบครัวไม่อยากเชื่อ ฝ่ายหญิงขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย จึงต้องจัดงานแต่งงาน หลังจบงานศพน้องชาย ครอบครัวตั้งใจดูแลหลานที่อยู่ในท้องของกิ๊ฟ ที่ผ่านมาไม่เคยระแคะระคาย ว่าเขาจะไม่ท้อง ซึ่งกิ๊ฟ ก็โพสต์เฟซบุ๊กตลอดว่า ท้องอยู่
กระทั่งเมื่อ 3 พฤษภาคม กิ๊ฟ ส่งรูปอัลตราซาวด์มาให้แฟนของตนเองดูทางแชทเฟซบุ๊ก แต่ตอนนั้นพวกตนดูแลรู้สึกแปลก เพราะภาพอาจคัดลอกมา จึงไปหาดูในกูเกิล เจอภาพเดียวกันอยู่จริง พบว่าภาพนี้ถูกโพสต์ไว้ในกระทู้ของพันทิป เป็นภาพอัลตราซาวด์ของสาวท้อง 5 สัปดาห์ โพสต์ไว้เมื่อปี 2557
จึงตัดสินใจเดินทางไปเจรจากับ น.ส.กิ๊ฟ สุดท้าย น.ส.กิ๊ฟ ยอมรับสารภาพว่า ไปคัดลอกมา แต่ยังยืนยันว่าตัวเองท้อง ทำให้ครอบครัวไม่อยากจะเชื่อเรื่องท้องแล้ว กระทั่งวันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม สาวท้องที่เอาปัสสาวะไปให้ น.ส.กิ๊ฟ มายอมรับกับตนว่า เป็นคนเอาปัสสาวะไปให้กิ๊ฟ เพื่อไปตรวจ จน น.ส.กิ๊ฟ มีตรวจว่าท้อง
ตนจึงนัดญาติไปเจรจากับ น.ส.กิ๊ฟ อีกครั้ง แค่ต้องการให้กิ๊ฟยอมรับความจริง แต่กิ๊ฟไม่รับผิด ยืนโวยวาย พยายามชี้แจงเรื่องฉี่ว่าไม่ได้ไปเอาของคนอื่นมา และที่แขนซ้ายมีรอยเจาะเลือด อ้างว่าเพิ่งไปตรวจเอาหนังสือฝากครรภ์มา ยอมรับแค่เรื่องภาพอัลตราซาวด์ เพราะมีปัญหากับคนๆ หนึ่ง จึงอยากเอาชนะเท่านั้น จากนั้นท้าให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล
ครอบครัวจึงนัดกันไปตรวจที่โรงพยาบาล ในวันที่ 9 พฤษภาคม เมื่อไปถึงกิ๊ฟบอกว่า ผลตรวจปัสสาวะออกแล้วว่าท้อง แต่ตนเองไม่ยอมรับ จึงร้องขอให้ตรวจเลือด หรือตรวจภายใน สุดท้ายก็ยอมตรวจแต่ผลต้องรอ 7 วัน
ระหว่างรอผล กิ๊ฟ แชทมาบอกว่าเด็กในครรภ์ไม่แข็งแรงและแท้ง ทำนองว่ารู้ผลแล้ว ต่อมาแพทย์เรียกตน และ น.ส.กิ๊ฟ มาฟังผลตรวจเลือด พบว่าไม่ท้อง แต่ผลตรวจปัสสาวะบอกท้อง ตอนแรกหมอก็ยังรู้สึกขัดแย้ง แต่เมื่อตนเล่าอธิบายเหตุการณ์ให้ฟัง แพทย์จึงให้ยึดผลเลือดเป็นหลัก ตอนนั้นกิ๊ฟ อ้างว่ากินยาขับเลือด ไปเมื่อวันที่ 28 เมษายน อาจจะขับเลือดไปแล้ว
ก่อนงานแต่ง น้องชายเคยมาปรึกษาว่า อยากไปตรวจฝ่ายหญิงว่าท้องจริงไหม แต่เจ้าสาวไม่ยอมไปตรวจ เรื่องนี้ไม่โทษใครทำให้น้องตาย เพราะน้องก็มีปัญหาหลายอย่าง
น.ส.เอ (นามสมมติ) หญิงตั้งครรภ์เจ้าของปัสสาวะ เผยว่า ยอมรับว่านำปัสสาวะไปให้กิ๊ฟทั้งหมด 3 ครั้ง เริ่มต้นคือน้องสาวของกิ๊ฟโทรมาขอความช่วยเหลือ ทำนองมาขอปัสสาวะตน เนื่องจาก น.ส.กิ๊ฟ มีปัญหากับแฟนเลิกรากัน และไปบอกฝ่ายชายว่าท้อง แต่ตัวเองไม่มั่นใจว่าท้อง จึงมาขอปัสสาวะไปตรวจ ตอนแรกไม่คิดอะไร ก็ให้ไป ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะบานปลาย
จนกระทั่งวันที่ทั้งคู่ผูกข้อมือกัน และมาเกิดเรื่องเจ้าบ่าวยิงตัวตาย ตนเองก็ไปงาน ตนยังจำสีหน้าเจ้าบ่าวได้ เหมือนคนไม่อยากแต่งงาน ตอนนั้นก็รู้สึกผิดแล้ว ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล เพราะไม่อยากมีตราบาป เหมือนตนเองช่วยให้กิ๊ฟ ฆ่าคนๆ หนึ่งไป
ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของกิ๊ฟ พบว่าบ้านปิดเงียบ เจอเพียงพ่อของกิ๊ฟ แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล ขณะที่ น.ส.กิ๊ฟ ยังยืนยันว่า เคยตั้งท้องจริง และปัจจุบันได้ยุติการตั้งครรภ์ไปแล้ว ส่วนเรื่องขอฉี่คนอื่นมา ตนเองไม่ขอพูดถึง