แสงชัย แก้วเจริญ แม้ว่าจะฟอร์มหลุดในช่วงแรกของวันสุดท้าย แต่ยังฮึดเก็บแต้มแซงชนะ ฉ่างไท้ สุดโสม ผงาดคว้าแชมป์กอล์ฟสิงห์ เอสเอที ไปครองได้สำเร็จ
แสงชัย แก้วเจริญ ยอมรับตื่นเต้นหลังจบรอบสุดท้ายตีเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ 74 รวมสามวัน 10 อันเดอร์พาร์ 206 เฉือนชนะ ฉ่างไท้ สุดโสม หนึ่งสโตรก คว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการแรกในชีวิตพร้อมผงาดนักกอล์ฟทำเงินสูงสุดซีซั่น ในแมตช์ปิดฤดูกาลรายการสิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ที่สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ ระยะ 7,550 หลา พาร์ 72 จ.ขอนแก่น เมื่อ 26 ธ.ค.
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จัดแข่งขันเก็บคะแนนสะสม ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต เป็นรายการที่ 8 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของซีซั่น ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท แชมป์รับ 3.6 แสนบาท ระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม 2564 ที่สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ ระยะ 7,550 หลา พาร์ 72 ภายใต้มาตรการป้องโควิด-19 ผู้เล่นทุกคนต้องแสดงหลักฐานการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-CPR หรือ Antigen Test (ATK) มาแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง
รอบสุดท้ายของการแข่งขันเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมาเกือบต้องจบการแข่งขันแบบมีดราม่าเมื่อแสงชัย แก้วเจริญ ซึ่งออกสตาร์ตด้วยการนำการแข่งขันถึง 5 สโตรกออกอาการประหม่าเสีย 5 โบกี้ในช่วงเก้าหลุมแรกจนตกเป็นฝ่ายตามหลัง ก่อนมาตั้งสติในช่วงเก้าหลุมหลัง โดยเฉพาะเบอร์ดี้ที่หลุม 17 ที่ทำให้จบรอบสุดท้ายเข้ามา 2 โอเวอร์พาร์ 74 รวมสามวัน 10 อันเดอร์พาร์ 206 เฉือนชนะ ฉ่างไท้ สุดโสม นักกอล์ฟจากชลบุรีที่มาแรงในรอบสุดท้ายด้วยการหวดเข้ามาอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 เพียงสโตรกเดียวคว้าแชมป์แรกในชีวิตไปครอสำเร็จ
โปรหนุ่มที่คว้าเงินรางวัลไปครองอีก 360,000 บาททำให้จบฤดูกาลด้วยการเป็นนักกอล์ฟทำเงินสูงสุดของไทยแลนด์ พีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาลนี้ ด้วยเงินรางวัลสะสม 537,866.67 บาท กล่าวว่า “วันนี้คือรู้เลยว่า เหมือนมันกดดันตัวเอง ออกไปเรานำเยอะจริง แต่ยังรู้สึกว่ากดดันอยู่ เพราะว่ายังไม่เคยเกิดขึ้นกับผม นี่เหมือนการปลดล็อกตัวเอง รู้สึกดีใจและอยากขอบคุณพ่อแม่ และคนที่สนับสนุนผมมาตลอดเลยคือครอบครัวเป็นหลัก ให้กำลังใจผมมาตลอด ผมดีใจที่ผมทำได้ เหมือนพิสูจน์ตัวเองให้ได้มีกำลังใจสู้ต่อไป”
“จริงๆ ออกไปสตาร์ตเบอร์ดี้ด้วยซ้ำ แต่พอหลุม 2 ลมค่อนข้างแรงมาก กะจะเล่นไปข้างหน้าธงกลับไปเลยหลังเสียโบกี้ ทีนี้เราเหมือนเล่นตามเกมเลย พยายามไม่เสีย แต่เอาจริงไปเสียโบกี้ติดที่หลุม 7 8 และ 9 จริงๆ แล้วช็อตไม่ยากแต่ว่าผมตีพลาดเลยตกทราย จากนั้นหลุม 8 ออนไม่ไกลออกสามพัตต์ ที่หลุม 9 พัตต์เก็บใกล้ๆ ไม่ลง ตกมาเป็นฝ่ายตาม เราคิดว่าถ้าเป็นของเรามันจะเป็นของเรา เราเล่นตามเกมไป จนกระทั่งมาเบอร์ดี้หลุม 17 ที่ทำให้คิดว่าเรายังทำได้อยู่”
อันดับสองเป็น ฉ่างไท้ สุดโสม นักกอล์ฟวัย 27 ปีจากชลบุรี ซึ่งในรอบสุดท้ายออกสตาร์ทด้วยการตาม 5 แต้มแต่พลิกสถานการณ์เป็นผู้นำ กระทั่งมาสวิงสองสโตรกที่หลุม 17 ที่เขาออกโบกี้ขณะที่ แสงชัย ทำเบอร์ดี้ ทำให้จบทัวร์นาเมนต์ด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 207 รับเงินรางวัลปลอบใจ 198,000 บาท ขณะที่ วิชยานนท์ โชติหิรัญรุ่งเรือง หวด 7 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสามวันขยับขึ้นมาจบอันดับสามร่วมกับ นพรัฐ พานิชผล ที่หวดเข้ามา 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสามวันมีคนละ 7 อันเดอร์พาร์ 209 รับเงินรางวัลคนละ 114,075 บาท