เรื่องราวสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ ด.ญ.วัย 9 ขวบ จู่ๆ บอกแม่ว่าอยากผ่าตัดแปลงเพศ แล้วแต่งตัวเป็นเด็กผู้ชาย พร้อมขอร้องให้เปลี่ยนชื่อให้เหมือนเด็กผู้ชาย หลังตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ

สื่อท้องถิ่นรายงานว่าเหตุกรณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองมากัสซาร์ ทางตอนกลางของอินโดนีเซีย เหยื่ออายุ 9 ขวบอาศัยอยู่กับมารดาผู้ให้กำเนิด แต่ภายหลังเพื่อความสะดวกในการศึกษา เธอถูกพาไปอาศัยอยู่กับตายายใกล้กับโรงเรียน

โดยไม่คาดคิดว่าในช่วงเวลานี้ เด็กหญิงวัย 9 ขวบถูกชายสูงอายุที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงสังเกตเห็น และใช้โอกาสที่เด็กกำลังเดินกลับจากโรงเรียนล่วงละเมิดทางเพศเธอถึง 5 ครั้ง ทำให้เหยื่อเจ็บปวดและหวาดกลัวอย่างมากแต่ไม่กล้าบอกใคร

ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยยังพยายามลวนลามเด็กหญิงอีกเป็นครั้งที่ 6 โดยลากเธอไปที่โกดัง แต่สุดท้ายก็ต้องหยุดเพราะมีคนพบพฤติกรรมน่าสงสัย

หลังจากถูกล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง 2 เดือนต่อมาเด็กหญิงตัวน้อยก็รวบรวมความกล้าเล่าประสบการณ์สุดสยองของเธอให้เพื่อนสนิทวัย 12 ปีฟัง เพื่อนคนนี้จึงนำเรื่องราวไปบอกพ่อแม่ของตัวเอง จากนั้นพวกเขาก็เล่าความจริงให้แม่ของเหยื่อฟัง

แม่ของเด็กหญิงวัย 9 ขวบเมื่อรู้ก็ทั้งเสียใจและโกรธแค้น กล่าวว่า เธอสังเกตเห็นการแสดงออกที่ผิดปกติของลูกสาวมานานแล้ว เดิมทีลูกสาวของเธอเป็นผู้หญิง แต่วันหนึ่งจู่ๆ ก็เปลี่ยนทรงผม ตัดผมสั้น และแต่งตัวเหมือนเด็กผู้ชาย ถึงกับบอกแม่ว่าอยากผ่าตัดแปลงเพศให้มีอวัยวะเพศเป็นผู้ชาย และในขณะเดียวกันก็อยากจะเปลี่ยนชื่อเป็นผู้ชายด้วย

ในตอนแรกผู้เป็นแม่คิดว่าลูกของเธอมีรสนิยมทางเพศเปลี่ยนไป แต่ความจริงกลับทำให้เธอหวาดกลัว ปรากฎว่าลูกสาวของเธอถูกชายเพื่อนบ้านล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง ทำให้เกิดความกลัวและหมกมุ่นอยากเป็นผู้ชาย เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องถูกทารุณกรรมอีกต่อไป เพราะคิดว่าเพียงแค่ทำเช่นนี้เธอจะไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป

แม่บอกว่าเด็กหญิงยังบอกด้วยว่า ลูกสาวของเธอถูกทำร้ายอย่างหนักทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งเปลี่ยนชีวิตของเธอไปอย่างสิ้นเชิง เธอจึงตัดสินใจฟ้องฝ่ายชายเพื่อทวงความยุติธรรมให้ลูกสาว ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องสงสัยถูกตำรวจท้องที่ควบคุมตัวไปสอบสวน ตามข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

ทั้งนี้ ตามบทบัญญัติของประมวลกฎหมายอาญาอินโดนีเซีย ผู้ที่กระทำการรุนแรงหรือขู่ว่าจะใช้ความรุนแรงเพื่อล่วงละเมิดทางเพศเด็ก อาจถูกตัดสินจำคุกระหว่าง 3-6 ปี และปรับสูงสุด 100 ล้านรูเปีย
ห์ อินโดนีเซีย (ประมาณ 233,00 บาท)