แม่เศร้า! รับศพลูกถูกฆ่าโหดทิ้งน้ำโขง ตร.ส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายแล้ว คาดอาจเป็นการลงมือของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ
กรณี นายกิ่งไผ่ ขัตติยนนท์ อายุ 35 ปี ถูกฆ่ามัดมือมัดเท้าทิ้งศพลงแม่น้ำโขง บริเวณพื้นที่บ้านโคกไก่เซา หมู่ 6 ต.ท่าค้อ ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครพนม ส่งศพให้แพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ตรวจพิสูจน์ศพ ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น อ่านข่าว ฆ่าโหดหนุ่มลายสัก! พันธนาการทั้งตัว ผ้าอุดปาก มัดมือเท้า สักชื่อที่แขน โยนทิ้งน้ำโขง
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 พ.ค.65 ที่แผนกนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นางบุญหลาย วงศ์อามาตย์ อายุ 65 ปี แม่บุญธรรมของนายกิ่งไผ่ พร้อมญาติพี่น้องเดินทาง มารับศพผู้ตายกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ที่ จ.ร้อยเอ็ด
นางบุญหลาย กล่าวว่า ตนเลี้ยงนายกิ่งไผ่มาตั้งแต่แรกเกิด จึงรับเป็นบุตรบุญธรรม กระทั่งโตเป็นหนุ่มก็ไปมีภรรยาที่บ้านหนองบัวงาม อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ แล้วก็ไม่เคยกลับบ้านที่ร้อยเอ็ดอีกเลย มีเพียงลูกชายโทรศัพท์ไปบอกเมื่อหลายปีก่อนว่า ถูกจับในคดียาบ้า แม่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะลูกสบายดี
“ลูกชายหายไปไม่ติดต่อแม่บุญธรรมกับครอบครัวทาง จ.ร้อยเอ็ดมา 7 ปี แม่ทราบข่าวคราวอีกที เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ลูกสะใภ้โทรไปบอกว่า ให้มารับศพลูกชาย เพราะลูกชายถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ที่ประเทศลาว จำนวน 1.5 ล้านบาท แต่สะใภ้ไม่มีเงินให้ เขาจึงจะฆ่าลูกชายทิ้งน้ำโขง ให้แม่มารับศพลูกชายได้เลย
เมื่อรับสายจากลูกสะใภ้แล้ว จึงตอบกลับไปว่า อย่ารับปาก แม่จะไปหา ค่อยคุยกัน จากนั้นวันที่ 18 พ.ค.จึงเดินทางไปบ้านลูกสะใภ้ ทราบรายละเอียดว่าลูกชายทำธุรกิจกับชาวลาว และไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกัน จู่ๆลูกชายก็ถูกคนจับตัวไปที่ฝั่งลาว แล้วก็มีโทรมาหาภรรยาว่าต้องการเงิน 1.5 ล้านบาท จึงจะปล่อยตัว แต่ครอบครัวไม่มีเงินจ่ายให้” นางบุญหลาย กล่าว
นางบุญหลาย กล่าวต่อว่า ในวันที่แม่กับพ่ออยู่ที่บ้านลูกสะใภ้ ก็มีโทรศัพท์จากคนที่จับตัวลูกชายไปเรียกค่าไถ่ โทรมาหาลูกสะใภ้ บอกว่า ถ้าไม่มีเงิน 1.5 ล้านบาท ก็จะลดให้เหลือ 800,000 บาท ลูกสะใภ้จึงบอกไปว่า แม่มาแล้วให้คุยกับแม่เอง ซึ่งชายรายดังกล่าวก็บอกแม่เพียงว่า อยากได้เงิน ถ้าไม่จ่ายแม่ก็ไปแจ้งความลูกชายหายได้เลย ด้วยความกลัวว่าลูกจะถูกฆ่าและเป็นอันตราย จึงถามลูกสะใภ้ว่า คนที่โทรมาเรียกค่าไถ่เป็นใคร ลูกสะใภ้บอกว่า เป็นคนที่ทำธุรกิจและเป็นเพื่อนกับลูกชาย แต่ไม่ได้ถามว่า เป็นคนไทยหรือคนลาว
“ส่วนตัวแม่และครอบครัวที่จังหวัดร้อยเอ็ด ไม่ทราบรายละเอียดอะไรๆ เกี่ยวกับลูกชายเลยว่า อยู่กับภรรยาทำมาหากินอะไร เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครหรือไม่ แต่เมื่อลูกชายตายแล้ว และตายในสภาพที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณเช่นนี้ ก็ต้องฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามสืบสวนจับกุม คนที่ลงมือกระทำ หรือมีส่วนรู้เห็นมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย” แม่บุญธรรม กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ .4 กล่าวว่า ขณะนี้ทีมสืบสวนจาก บก.สส.ภ.4 ลงพื้นที่ไปยังจังหวัดบึงกาฬเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการหาเบาะแสกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับคนตายว่า ก่อนหายตัวไปหรือถูกจับตัวไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านนั้น คนตายติดต่อกับใคร
และนอกจากภรรยาแล้ว คนตายมีสัมพันธ์กับคนอื่นๆ อีกหรือไม่ เป็นหนี้ใครหรือไม่ เกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่ ทั้งหมดนี้ต้องสืบสวน สอบสวนให้ละเอียด และต้องพิสูจน์ทราบว่าการตายในครั้งนี้ ถูกลงมือฆ่าที่ประเทศไทยหรือต่างประเทศ แล้วจึงโยนศพทิ้งน้ำโขง
“จากการสืบสวนเชิงลึกในเบื้องต้นนั้น จำนวนเงินที่บอกว่าเรียกค่าไถ่นั้น ทราบว่าจริงๆ แล้ว ขบวนการค้ายาเสพติดทวงถามเอาเงินที่คนตายติดหนี้ค่ายาบ้า ที่คนตายนำยาบ้ามาขายแล้วไม่จ่ายเงิน ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าการตายในครั้งนี้ เป็นการลงมือของขบวนการการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เชือดไก่ให้ลิงดู ใครโกงตายสถานเดียว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนในทุกกรณี” พล.ต.ต.ณัฐนนท์ กล่าว