แม่เด็กวัย 15 ปีถูกยิงหน้า สน.ดินแดง ร่ำไห้ไม่คิดจะเกิดกับลูกตัวเอง เผยลูกขอออกไปร่วมชุมนุมเป็นครั้งแรก ด้าน “เพื่อไทย” ประณามความรุุนแรง พร้อมให้ กมธ.ตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริง เตรียมแจ้งความดำเนินคดีผู้กระทำผิด
เวลา 17.00 น. วันที่ 17 ส.ค. 2564 ที่โรงพยาบาลราชวิถี นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย เข้าติดตามอาการของเยาวชนอายุ 15 ปีที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมเมื่อคืนวันที่ 16 ส.ค. 2564 ที่หน้า สน.ดินแดง พร้อมให้กำลังใจกับ นิภาพร สมน้อย มารดาของเยาวชน อายุ 15 ปีที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บหน้า สน.ดินแดง
โดย มารดาของเยาวชนวัย 15 ปี ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า เยาวชนวัย 15 ปีที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนวานนี้เป็นบุตรชายของตนเอง ไม่ได้อายุ 20 ปีตามที่เป็นข่าว ซึ่งลูกชายยังอายุ 15 ปีและกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 ไม่คิดว่าคนที่ถูกยิงจะเป็นลูกของตนเอง ทั้งนี้ช่วงประมาณตี 5 ครึ่งของวันนี้ ตนได้ลงไปดูว่าลูกชายได้กลับมาหรือยัง เพราะโทรไปก่อนหน้านี้ลูกชายก็ไม่รับสาย
“ไม่คิดจะเป็นลูกแม่ เพื่อนส่งแชร์คลิปมาไม่คิดจะเป็นลูกแม่ เห็นข่าวจากที่อื่น เห็นเพื่อนส่งแชร์คลิปมาที่แม่จึงรู้ว่าเป็นลูกชาย หมอบอกรอดูอาการ ประมาณ 72 ชั่วโมง แต่ว่าเขายังไม่รู้สึกตัว ในข่าวบอก 20 ปีไม่ใช่น้องอายุแค่ 15 ปีมาเจออะไรแบบนี้ แล้วแม่จะอยู่ยังไง น้องเป็นอะไร แม่จะอยู่ยังไง”
แม่เด็กยังระบุว่า ก่อนที่ลูกชายจะออกไปนั้น ลูกชายได้บอกกับตนว่าออกเอาเสื้อผ้าไปให้เพื่อน และไม่คิดว่าลูกชายจะออกไปชุมนุม เพราะได้ห้ามไว้แล้ว
“เขาบอกขอแม่ไปชุมนุม แม่เลยบอกว่าอย่าไป มันไม่ใช่หน้าที่ของเด็ก หนูอย่าไป แต่แม่ไม่รู้ว่าเขาออกไปกับเพื่อน พอแม่โทรตามแล้วเขาไม่รับสาย เขาออกไปครั้งแรก เขาไม่เคยไปชุมนุม”
มารดาของเยาวชนวัย 15 ปีบอกด้วยว่า “แม่กลัวโรคระบาด ไม่อยากให้เขาไปชุมนุม นี่ครั้งแรกของเขา ไม่คิดว่าสุดท้ายคุยกับเขาอย่าไปนะลูก ไม่ใช่หน้าที่ของเรา เราเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ”
ขณะที่ นพ.ทศพร ให้สัมภาษณ์ว่า น้องถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บเข้าที่คอ อายุ 15 ปีตอนนี้อาการยังไม่รู้สึกตัว แต่มีปฏิกิริยาตอบสนอง หมอได้ดูแลอย่างเต็มที่ จะรอดูอาการภายในน 72 ชั่วโมงจะเป็นอย่างไร ตนมาให้กำลังใจแม่เด็กและน้องว่าจะไม่ทอดทิ้ง หากมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนี้พวกเราจะเข้าไปช่วยดูแล เพราะในฝ่ายประชาชนในฝ่ายประชาธิปไตยไม่ว่าใครเจ็บเราก็จะดูแลอยู่แล้ว
นพ.ทศพร กล่าวต่อว่าเมื่อวานนี้มีการใช้กระสุนจริง ซึ่งเราไม่เห็นด้วยและปฏิเสธความรุนแรง จึงขอให้ทุกคนเคารพการชุมนุมสงบสันติ ซึ่งเมื่อเกิดความรุนแรงขึ้นไม่ว่าจากฝ่ายไหนก็จะถูกรัฐนำไปเป็นข้อกล่าวหาใส่ร้ายผู้ชุมนุม ซึ่งเราก็ต้องประณามความรุนแรงด้วย
“เมื่อเกิดความรุนแรงขึ้นจากการสลายการชุมนุม เราจะเห็นรัฐแก้ตัวอยู่เสมอ จนกว่าจะมีหลักฐานชัดเจนที่ปฏิเสธไม่ได้รัฐถึงจะยอมรับ ดังนั้นเราทุกคนต้องปฏิเสธและประณามการใช้ความรุนแรงนี้ให้ถึงที่สุด” นพ.ทศพร กล่าว
ด้าน จิราพร สินธุไพร กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บเป็นลูกชายคนเดียวและยังเป็นเยาวชน แต่ถูกกระทำด้วยความรุนแรงเกินกว่าจะรับได้และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนไหนติดต่อสอบถามหาความจริงในเรื่องนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทย โดยครูมานิตย์ สังข์พุ่ง ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยจะนำเรื่องนี้เข้าคณะกรรมาธิการตำรวจเพื่อเรียกผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้มาสอบถามสืบสวนข้อเท็จจริง อีกทั้งจะให้ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยช่วยเหลือพามารดาของเยาวชนคนดังกล่าว ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ดินแดง ในลำดับต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลราชวิถี ออกประกาศกรณีเหตุการณ์ที่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุชุมนุม บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงถูกนำส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลราชวิถี โดยรถพยาบาลอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2564 โดระบุว่า เวลาประมาณ 21.00 น. พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย อายุประมาณ 20 ปี ไม่ทราบชื่อ-สกุล ไม่มีเอกสารประจำตัว แรกรับ หมดสติ ไม่หายใจ ไม่มีชีพจร ตรวจพบบาดแผลจากกระสุนที่ลำคอด้านซ้าย
ทีมแพทย์ฉุกเฉินได้ทำการใส่ท่อช่วยหายใจและปั๊มหัวใจ ประมาณ 6 นาที ผู้บาดเจ็บกลับมามีสัญญาณชีพ จากการตรวจเพิ่มเติมโดยการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองพบกระสุนปืนค้างอยู่บริเวณก้านสมอง 1 นัด และพบกระดูกต้นคอซี่ที่ 1 และ 2 แตก ขณะนี้ผู้บาดเจ็บได้เข้ารับการรักษาตัวในหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ศัลยกรรม
โดยอาการในขณะนี้ (17 ส.ค. 64 เวลา 09.40 น.) ผู้บาดเจ็บยังไม่รู้สึกตัวอยู่ในอาการโคม่า ใส่ท่อช่วยหายใจ สัญญาณชีพทั่วไปคงที่ อยู่ระหว่างรอการประเมินอาการบาดเจ็บทางสมองต่อเนื่องในการดูแลของทีมแพทย์ศัลยกรรมอุบัติเหตุและศัลยกรรมประสาทและสมอง โดยจะมีการแถลงรายละเอียดอาการและความคืบหน้าต่อไป
ด้าน พรรคเพื่อไทย ระบุผ่านเฟซบุ๊กเรียกร้องถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน และนำตัวผู้ลงมือกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด และยืนยันว่าการใช้อำนาจสั่งการใช้อาวุธร้ายแรงเพื่อตอบโต้ประชาชนที่ออกมาแสดงความไม่พอใจในความล้มเหลวของรัฐบาล เป็นอาชญากรรมโดยเจ้าหน้าที่รัฐนั้นไม่อาจยอมรับได้