เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา สัตวแพทย์หญิง พิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปยังเกาะราบ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เกาะราบว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 พบรอยเท้าแม่เต่าครั้งแรก คลายขึ้นมาจากทะเลมาขุดหลุมลักษณะคล้ายจะเป็นการวางไข่บนชายหาดที่เกาะราบ จากนั้นถัดมาก็มีการพบรอยเต่าแม่เต่าขึ้นมาวางไข่อีกจำนวน 3 จุด ด้วยกัน จึงได้แจ้งยังเจ้าหน้าที่เพื่อเดินทางมาตรวจสอบ
โดยทางด้าน สัตวแทพย์หญิง พิมพ์ชนก ประจำค่าย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบรอยเท้าแม่เต่าที่พบล่าสุด เชื่อว่าเป็นแม่เต่าตนุ ซึ่งรอยเท้ามีขนาดความกว้างประมาณ 90 ซ.ม. ซึ่งจากตรวจสอบรอยเท้าเชื่อว่าเป็นรอยเท้าของแม่เต่าตนุตัวเดียวกันที่ขึ้นมาวางไข่บนเกาะราบทั้ง 3 จุด เมื่อทางเจ้าหน้าที่ทำการขุดหลุมที่มีเต่าวางไข่ก็พบไข่เต่าอยู่ในหลุมจำนวน 2 จุดด้วยกัน ส่วนอีกจุดเจ้าหน้าที่ยังขุดไม่พบไข่เต่า ทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงได้ทำรั่วลอมจุดที่แม่เต่าวางไข่ไว้ เพื่อป้องอันตรายที่เกิดจากสัตว์นักล่า เช่นตัวเงินตัวทอง ที่อาศัยอยู่บนเกาะราบ มาขุดไข่เต่าไปกินก่อนที่จะฟักออกมาเป็นลูกเต่า
เกาะราบเป็นเกาะขนาดที่ไม่ใหญ่มากที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะสมุย ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นที่มีชายหาดที่สวยงาม และน้ำทะเลที่ใส ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องดำน้ำดูปะการังและสัมผัสกับความสวยงานทางธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้ เดิมทีเกาะราบเป็นเกาะที่ไม่มีประชากรอาศัยอยู่บนเกาะ ซึ่งระยะหลังชาวบ้านเข้าไปเปิดร้านอาหาร เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวบนเกาะแห่งนี้
ซึ่งการขึ้นมาวางไข่ของแม่เต่าตนุตัวนี้ นับว่าเป็นตัวแรกที่แม่เต่าขึ้นมาวางไข่ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในปีนี้ หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมามีแม่เต่าทั้งเต่าตนุ และเต่ากระขึ้นมาว่างขึ้นมาวางไข่บนชายหาดของ อ.เกาะสมุยเป็นจำนวนมาก การกลับมาวางไข่ของแม่เต่าตนุในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติใต้ท้องทะเล ที่ฟื้นตัวในช่วงโควิด19 ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากนัก การขึ้นมาวางไข่ของแม่เต่าตนุในครั้ง ก็สร้างดีใจให้กับชาวบ้านบนเกาะสมุยที่ต่างตั้งตารอคอยให้แม่เต่ากลับวางไข่อีกครั้งนี้ปีนี้