วันนี้ (25 มี.ค.64) นายคำเบ้า อายุ 60 ปี ชาวบ้านวังน้ำใส ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ประยูร ฤทธิ์ตา สารวัตร (สอบสวน) สภ.แคนดง ให้เอาผิดกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุประมาณ 30 ปี ผู้ปกคองนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน หลังจากที่ น.ส.เอ ได้บุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย ด.ช.โตโต้ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ หลานชายของตัวเองซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.1 โรงเรียนเดียวกัน ด้วยการใช้มือบีบลำคออย่างแรง และเหวี่ยงล้มกระแทกพื้น ขณะที่หลานยืนเล่นกับเพื่อนอยู่หน้าอาคารเรียน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.64) กระทั่งเด็กที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งไปบอกครูในโรงเรียน ก่อนที่ครูจะพาน้องโตโต้ ที่ถูกผู้ปกครองทำร้ายส่งโรงพยาบาลสตึก เนื่องจากเด็กมีรอยแผลจากเล็บข่วนที่คอ และหัวปูดโน

จากการสอบถามนายคำเบ้า ตาของน้องโตโต้ เล่าว่า ตนเองมีอาชีพรับซื้อของเก่า และขายไก่ย่างอยู่หน้าโรงเรียน เวลาประมาณ 07.00 น. เมื่อวานนี้ 24 มี.ค. ได้มีเด็กนักเรียนวิ่งมาบอกว่าน้องถูกผู้ปกครองทำร้าย ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งไปดู ก็พบว่าคุณครูกำลังจะพาหลานส่งโรงพยาบาลสตึก จึงได้ขับรถตามไปดูที่โรงพยาบาล ซึ่งจากการสอบถามหลานก็เล่าให้ฟังว่า วันที่ 23 มี.ค. ก่อนวันเกิดเหตุ หลานได้แกล้งรุ่นพี่ซึ่งเป็นลูกชายของ น.ส.เอ ซึ่งเรียนอยู่ ป.2 โรงเรียนเดียวกัน ด้วยการเอายาแก้โรคกระเพาะที่ผู้ปกครองเอามาให้กินที่โรงเรียนไปทิ้งถังขยะ แต่หลานบอกว่า หลังจากเอาไปทิ้ง ก็เก็บไปล้างน้ำแล้วเอามาคืนให้แล้ว และเมื่อครูที่โรงเรียนทราบเรื่องก็ได้ตักเตือนและทำโทษน้องไปแล้ว

แต่พอตกตอนเย็นเลิกเรียนรุ่นพี่ ป.2 ไปฟ้องแม่ ทำให้ น.ส.เอ แม่ของรุ่นพี่ ป.2 โกรธ พอตอนเช้าวันที่ 24 มี.ค. ก็บุกไปทำร้ายหลานที่โรงเรียนด้วยการบีบคอและเหวี่ยงล้ม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกโกรธเพราะทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่ก็ยอมรับว่าต้นเหตุอาจจะเกิดจากที่หลานไปแกล้งรุ่นพี่ก่อน ก็น่าจะแค่ตักเตือนหรือถ้าจะทำโทษก็แค่ตีมือหรือขาก็พอ ไม่น่าจะถึงขั้นไปบีบคอหรือทำร้ายจนหัวปูดโนขนาดนี้ แต่ก็ยังโชคดีที่หลานไม่เป็นอะไรมาก เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ 25 มี.ค. หมอก็อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 

ด้าน น.ส.กัญญาณัฐ คุณครูธุรการที่เป็นคนพาน้องส่งโรงพยาบาล เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุไม่ได้เห็นเหตุการณ์ มีแต่นักเรียนด้วยกันที่เห็นเหตุการณ์ ก็มาเห็นตอนที่น้องนั่งร้องไห้อยู่แล้ว พอสอบถามจึงทราบว่าถูกผู้ปกครองทำร้าย จึงทำให้นักเรียนวิ่งไปบอกตากับยาย ที่ขายของที่หน้าโรงเรียน จากนั้นตนก็รีบพาน้องส่งโรงพยาบาลเพราะไม่รู้ว่าบาดเจ็บตรงไหนบ้าง แล้วพอมาสอบถามเรื่องราวถึงทราบต้นสายปลายเหตุเกิดจากที่น้องโตโต้ นักเรียนชั้น ป.1 ที่ถูกทำร้ายไปแกล้งรุ่นพี่ด้วยการเอายาโรคกระเพาะไปทิ้งถังขยะ แต่ครูก็ได้เรียกมาตักเตือนและทำโทษ และสอนไปแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ ก็เข้าใจว่าเรื่องจบแล้ว กระทั่งรุ่นเช้าอีกวันผู้ปกครองก็บุกมาทำร้ายน้องโตโต้ ในโรงเรียนครูเองก็ตกใจและได้พาน้องส่ง รพ.ทันที แต่โชคดีไม่ได้เป็นอะไรแค่มีรอยข่วนที่คอ และหัวปูดโนเท่านั้น แต่น้องไม่ได้สลบตามที่เป็นข่าว 

ขณะที่นายวิทยา แพงวงษ์ ผอ.โรงเรียน บอกว่า เบื้องต้นก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ส่วนทางโรงเรียนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองของน้องเองด้วย ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ขณะที่ทางพนักงานสอบสวน ก็จะได้สอบปากคำเด็กผู้เสียหายตามขั้นตอน ก่อนจะเรียกผู้ปกครองที่ถูกกล่าวหามาสอบสวนตามกระบวนการต่อไป