.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
เครียดจัด! แม่หมอดูดัง ยืนกลางถนนหน้าศาลากลาง ร่ำไห้ขอความเป็นธรรมผู้ว่าฯ หลังโรงรับจำนำไม่ให้ไถ่ของคืน
จากกรณี นางธิบดิ์ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นแม่ของอาจารย์มุ่ย หูทิพย์ หมอดูชื่อดัง ฉายา “สื่อผ่านร่าง เดินทางผ่านจิต ลิขิตมหัศจรรย์” ได้ร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน หลังนำ ครุฑทองคำ แหวนทองคำฝังเพชร (ซึ่งได้รับมาจากเจ้าคุณวรา) และสร้อยคอทองคำหนัก 6 บาท ไปจำนำที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่งใน ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ต่อมาเมื่อต้องการไถ่คืนกลับถูกปฏิเสธ เนื่องจากเลยกำหนดเวลามา 6 วัน
วันที่ 10 มี.ค. 68 เวลา 13.30 น. นางธิบดิ์ ได้ถือใบรับจำนำ 1 ใบ พร้อมพวงมาลัย 2 พวง ไปยืนกลางถนนรัตนาธิเบศร์ หน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี เพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี โดยยืนตากแดดนานกว่า 1 ชั่วโมง ท่ามกลางประชาชนที่สัญจรไปมาบนถนนเส้นคู่ขนานเลนขวา ส่งผลให้การจราจรติดขัด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าเจรจาและเกลี้ยกล่อมให้นางธิบดิ์ยอมเข้าไปพูดคุยภายในศูนย์ดำรงธรรม อย่างไรก็ตาม ระหว่างนั้นได้ร้องไห้และนอนลงกับพื้น พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า “หากไม่มีใครรับเรื่อง ก็จะนอนกองอยู่ตรงนี้”
ก่อนที่ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ และผู้สื่อข่าวจะช่วยกันพูดคุย และพาเธอขึ้นไปยังศูนย์ดำรงธรรมชั้น 2 เพื่อเข้าพบนายจักรพันธ์ ระงับ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ให้เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน โดยการเจรจาใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง และสามารถหาข้อยุติที่เป็นที่พอใจของนางธิบดิ์ได้
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางไปยื่นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุข และขณะเดินทางกลับได้พบหญิงสูงวัยยืนถือกระดาษ 1 แผ่น และพวงมาลัยอยู่กลางถนนหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี จึงลงไปตรวจสอบ และเข้าพูดคุยร่วมกับเจ้าหน้าที่ในศาลากลางจังหวัด นางธิบดิ์ยอมเปิดใจพูดคุย และเจ้าหน้าที่ได้นำน้ำเย็นและยาดมมาให้ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้นางธิบดิ์มีอาการมือสั่น ตัวสั่น
ระหว่างเดินเข้าไปยังศูนย์ดำรงธรรม นางธิบดิ์เล่าว่า เธอเครียดมากจนคิดสั้น และมีความคิดจะไปกรีดคอตัวเองหน้าร้านรับจำนำ อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกฎหมาย กรณีนี้ถือเป็นเรื่องของสัญญาระหว่างผู้จำนำกับโรงรับจำนำ ซึ่งเมื่อสินค้าถูกจำนำไว้ ผู้จำนำต้องมาไถ่คืนตามระยะเวลาที่กำหนด หากพ้นกำหนดแล้วและโรงรับจำนำไม่ต่อสัญญาให้ ก็ถือว่าขาดจำนำ ตามหลักกฎหมาย อย่างไรก็ตาม โรงรับจำนำอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย กรณีนี้จึงต้องอาศัยการเจรจาระหว่างนางธิบดิ์กับโรงรับจำนำ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีเป็นตัวกลาง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยให้ แม่หมอไปโกงโรงรับจำนำ เพียงแต่ต้องการให้หาทางออกที่เหมาะสมกับทั้งสองฝ่าย
สำหรับกรณีที่มีการต่อตั๋วจำนำอีก 1 ใบ ซึ่งขาดกำหนดไปแล้ว 7 วัน โรงรับจำนำแต่ละแห่งไม่ว่าจะเป็นของเอกชนหรือรัฐบาล จะมีนโยบายกำกับจากภาครัฐ บางกรณีอาจมีการต่ออายุตั๋วรับจำนำได้ แต่ต้องพิจารณาเป็นรายกรณี ตอนนี้ตนจึงแนะนำให้นางธิบดิ์ “อย่าเพิ่งคิดสั้น ใจเย็น ๆ ก่อน” หากจังหวัดไม่สามารถดำเนินการช่วยเหลือได้ อาจต้องนำเรื่องไปยัง กระทรวงมหาดไทย แต่เงื่อนไขคือ นางธิบดิ์ต้องสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายตัวเองเด็ดขาด
ด้านนางธิบดิ์ เปิดเผยว่าหลังการพูดคุยกับ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม ทางศูนย์ให้ความช่วยเหลืออย่างดี ทำให้ตนรู้สึกพอใจ โดยศูนย์ดำรงธรรมจะช่วยไกล่เกลี่ยให้ตนกับโรงรับจำนำ ซึ่งเธอยืนยันว่าไม่ได้ต้องการมีเรื่องกับใคร เพียงแต่อยากได้ของคืน หากทรัพย์สินอยู่ที่ไหนก็พร้อมจะซื้อคืน เธอขอแค่ “แหวนทองคำฝังเพชร” ที่ได้รับจากเจ้าคุณวรา ส่วน “ครุฑทองคำ” ตนยินดีมอบให้ไปเลย
ด้านนางธิบดิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนเครียดมาก และลังเลว่าการกระทำของตนจะเป็นการสร้างความวุ่นวายหรือไม่ แต่หากตนนิ่งเฉย ก็คงไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใคร ตนยืนยันว่าที่มาวันนี้ไม่ได้ต้องการสร้างความเดือดร้อน แต่เพียงต้องการขอความช่วยเหลือ และเชื่อว่าอาจจะมีประชาชนอีกหลายคนที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน
ส่วนทางด้านนายจักรพันธ์ กล่าวว่า วันนี้ทางศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องร้องเรียน และได้สอบถามความต้องการของนางธิบดิ์ว่าอยากให้ช่วยเหลือในเรื่องใด ซึ่งพบว่าสิ่งที่นางธิบดิ์ต้องการคือให้ช่วยเจรจากับโรงรับจำนำเพื่อไถ่ถอนทรัพย์สิน แม้ว่าทรัพย์สินดังกล่าวจะขาดกำหนดไถ่ถอนแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนนทบุรี และฝ่ายปกครองจะเข้าดำเนินการ ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย ให้ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป โดยขณะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้มอบหมายให้ทนายความเข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้แล้ว