เรื่องราวที่โพสต์บนฟอรัม Toutiao (โซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน) นางฮา หญิงชาวจีนอายุ 57 ปี ดึงดูดความสนใจของสาธารณะชนได้เป็นอย่างมาก เมื่อวันหนึ่งเธอเป็นไข้และตัดสินใจโทรหาลูกสาว แต่กลับได้คำพูดที่ฟังแล้วใจสลายมาว่า “น่ารำคาญมาก” ทำให้น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ และตัดสินใจล้มเลิกความคิดที่จะมอบมรดกทั้งหมด เปลี่ยนมาเป็นเก็บเงินเหล่านั้นไว้ดูแลตัวเอง
นางฮาเล่าว่า ในวันนั้นเธอเป็นไข้ และเนื่องจากสามีอยู่ระหว่างเดินทางไปทำธุรกิจ เธอจึงต้องโทรหาลูกสาวเพียงคนเดียว แต่หลังจากโทรหา 3 ครั้ง ก็ยังไม่มีคนรับสาย แม้จะรอให้ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงผ่าน ก็ยังไม่มีสายโทรกลับ และไม่มีข้อความตอบกลับมา เธอทำได้เพียงโทรหาลูกอีกครั้ง และในที่สุดก็มีคนรับโทรศัพท์ จึงรีบพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งถึงจุดประสงค์ที่ติดต่อมาทันที ว่าอยากให้ลูกสาวกลับบ้านมาช่วยดูแลสักหน่อย หรือไม่ก็ช่วยพาเธอไปส่งโรงพยาบาล เนื่องจากเธอรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว
แต่ลูกสาวตอบกลับมาอย่างไม่อดทนว่า “แม่ แม่นี่น่ารำคาญจริงๆ ถ้าพ่อไม่อยู่บ้าน บางอย่างจะเกิดขึ้นกับแม่ ไม่สบายตรงนั้น ไม่สบายตรงนี้ หนูมีงานเลี้ยงสำคัญ ช่วยรอหน่อย”
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาวก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหล แต่ยังปลอบตัวเองโดยบอกว่าลูกสาวทำงานยุ่งเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ดี เธอก็ยังรู้สึกว่าลูกสาวควต้องจัดลำดับความสำคัญด้วย เพราะถ้าไม่ได้ป่วยจริงๆ เธอจะไม่โทรหาลูกสาวโดยไม่มีเหตุผล สุดท้ายหลังจากผ่านมา 3 ชั่วโมง ลูกสาวจึงกลับมาที่บ้านโดยนำน้ำเย็นหนึ่งแก้ว และขนมปังแห้งๆ 2 แผ่น มาวางข้างเตียง บอกให้กินเอง เพราะเธอเหนื่อยมากและต้องไปนอน
สุดท้ายเธอต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเรียกรถพยาบาล ซึ่งลูกสาวก็ตามไปที่โรงพยาบาลด้วย หมอบอกว่า “ถ้ามาช้าอีกหน่อยอาจมีไข้จนชักได้” เธอจึงใช้สามารถแสดงความไม่พอใจมองลูกสาวตรงๆ แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าแม่จงใจทำสิ่งนี้เพื่อให้เธออับอาย และปล่อยให้คนอื่นมองว่าเธอไม่กตัญญู
หลังจากแอดมิตให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเป็นเวลา 3 วัน โดยที่ลูกสาวไม่แม้แต่มานอนเฝ้าไข้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกจากโรงพยาบาล เธอก็โทรหาลูกสาวให้มารับกลับบ้าน ซึ่งลูกก็มาอย่างไม่เต็มใจเช่นเคย อีกทั้งยังโกรธและบ่นเรื่องเดิมๆ ซึ่งทำให้เธอผิดหวังในตัวลูกสาวมาก
มีคนเคยบอกว่าลูกสาวคือเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายตัวของพ่อแม่ เป็นความอบอุ่นอ่อนโยนในใจพ่อแม่ในวันที่ลมแรง แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เสื้อแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายตัวน้อยอายุ 28 ปีของเธอ กลับทำให้เธอรู้สึกได้รับลมอันหนาวเย็นมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เพราะทัศนคติของลูกสาวกลับทำให้เธอเสียใจมาก
แม่เปลี่ยนใจเรื่องมรดก
นางฮา อายุ 57 ปี เงินบำนาญต่อเดือนอยู่ที่ 4,600 หยวน (ประมาณ 23,200 บาท) ส่วนสามีจะเกษียณในอีก 3 ปี มีลูกสาวคนเดียวอายุ 28 ปี ยังไม่ได้แต่งงาน เรียนจบปริญญาโท ทำงานในเมืองเดียวกันนี้มา 2 ปีแล้ว แต่อาศัยแยกอยู่ในบ้านหลังอื่น ซึ่งเป็นทรัพย์สินของครอบครัวจึงไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ไม่เช่นนั้นเงินเดือนของเธอคงไม่เพียงพอที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้
ในตอนแรกเธอและสามีคิดจะยกบ้านหลังดังกล่าวให้ลูกสาว และวางแผนที่จะจัดงานแต่งงานของลูกสาว พร้อมมอบเงินเก็บให้เป็นของขวัญจำนวน 300,000 หยวน (มากกว่า 1.5 ล้านบาท) เพราะกลัวว่าอนาคตลูกจะลำบาก
แต่หลังจากออกจากโรงพยาบาลในครั้งนี้ ความเฉยเมยของลูกสาวทำให้เธอกลัวที่จะจินตนาการว่าในอนาคตเมื่อแก่ตัวลง เธอและสามีจะยังสามารถพึ่งพาลูกสาวได้หรือไม่? เธอตระหนักได้ว่าเมื่อแก่ตัวลง เราต้องเรียนรู้ที่จะรักตัวเองมากขึ้น
ตอนนี้จึงเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ว่าลูกสาวจะแต่งงานหรือไม่ บ้านก็ต้องเป็นชื่อของเธอและสามีตามเดิม ส่วนเงิน 300,000 หยวน ก็ควรเก็บไว้เพื่อใช้ในปีต่อๆ ไป แม้ว่าลูกสาวของจะไม่สนใจ แต่เธอและสามีก็ยังสามารถใช้เงินเพื่อจ้างคนมาดูแลได้ “ฉันอายุแค่ 57 ปี ฉันต้องวางแผนชีวิตให้ดี”
เธอจะไม่มุ่งความสนใจไปที่ลูกสาวอีกต่อไป ถ้าลูกสาวอยากกลับบ้านเธอก็จะเลี้ยงดูอย่างอบอุ่น แต่ถ้าลูกไม่อยากกลับบ้าน ก็จะไม่โทรไปเรียกหาอีกเด็ดขาด และก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องส่งซองเงินต่างๆ ให้ลูกสาวเป็นครั้งคราว เพื่อพยายามทำให้ลูกพอใจและใกล้ชิดกับกันมากขึ้นอีกแล้วเช่นกัน เพราะความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ดำรงไว้ด้วยเงิน จะจบลงในสถานการณ์ที่เลวร้ายลงเมื่อไม่มีเงิน
- ลูกเดือดแทน พ่อป่วยมะเร็ง น้องชายเอา “ผ้าห่มเก่าๆ” มาเยี่ยม แต่เห็นข้างในร้องไห้โฮ
- ยายคนจริง! ก่อนตายทำเรื่องยกมรดก 100 ล้านให้ “แมว” เผยเหตุผลที่เมินลูก 3 คน