แม่น้ำตาไหล ลูกชายกลับบ้าน หลังได้เป็น “นักศึกษา” ในวัย 35 ปี ผ่านสนามสอบเข้ามหาวิทยาลัย 16 ครั้ง  

เรื่องราวของชายชาวกวางสี ที่เกิดในปี ค.ศ.1988 มีชื่อเสียงในโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน เนื่องจากการเดินทางไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย 16 ครั้ง นานถึง 16 ปี ในตอนที่เพื่อนวัยเดียวกันมีงานและสร้างครอบครัว เขาจึงได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 1

นับตั้งแต่ปี 2009 เขาเริ่มต้นสอบเกาเข่า “gaoka “ เป็นการสอบครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของเด็กนักเรียนจีน ซึ่งโอกาสสอบมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น หลายเสียงถึงกับบอกว่าเป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ถือว่า “ยาก” ที่สุดในโลก ในปีนั้นเขาทำคะแนนได้ 372/750 คะแนน ซึ่งต่ำเกินกว่าจะผ่านมหาวิทยาลัยชิวหวา (Tsinghua University) ที่เขาใฝ่ฝันมาโดยตลอด

ปีต่อๆ มา เขายังคงมุ่งมั่นเข้าสอบอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังได้รับคะแนนไม่เพียงพอ กระทั่งในปี 2016 คะแนนของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 625 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่ดีพอที่จะรับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยบางแห่งในบ้านเกิดของเขา แต่ไม่มากพอที่จะเข้าเรียนวิชาเอกสาขาฟิสิกส์และเคมี มหาวิทยาลัยชิวหวา ตามที่เขาชื่นชอบและวาดฝันไว้ เขาจึงตัดสินใจปฏิเสธโอกาสนี้

เช่นนั้นทำให้เขายังคงเข้าสนามสอบอีกปีแล้วปีเล่า แม้ว่าคะแนนของเขาจะตกต่ำลงก็ตาม กระทั่งในปี 2019 เขาได้คะแนนสูงสุดในรอบ 10 ปี คือ 649/750 ซึ่งเพียงพอที่จะเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ได้มากมาย แม้แต่มหาวิทยาลัยชิวหวาก็ด้วย แต่ยังคงไม่ใช่ 2 สาขาวิชาที่เขาตั้งเป้าไว้ เขาจึงยังคงปฏิเสธอย่างหนักแน่น

เปลี่ยนเป้าหมายที่เป็นไปได้ เป็นนักศึกษาในวัย 35

ท้ายที่สุดภายในปี 2024 ในวัย 35 ปี เขายังคงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการเข้าสู่สาขาฟิสิกส์และเคมี มหาวิทยาลัยชิวหวา  จึงตัดสินใจส่งใบสมัครไปยังวิชาเอกวิศวกรรมสารสนเทศ ที่มหาวิทยาลัยหัวหนาน (South China Normal University)

หลังจากผ่านและลงทะเบียนเรียนเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดในช่วงวันหยุดชาติ เขาก็เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดในกวางสี และรับประทานอาหารเย็นที่แม่เตรียมไว้ให้ เขาและแม่อาศัยอยู่ในบ้านอิฐอายุ 30 ปี เชื่อมต่อกับโลกภายนอกด้วยถนนแคบๆ ซึ่งซ่อนไว้ด้วยอ้อยและวัชพืช บ้านยังตั้งอยู่ที่เดิมกับเมื่อ 16 ปีที่แล้ว แต่แม่อายุมากขึ้น เส้นผมเปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหมด ทำให้เขารู้สึกสะเทือนใจ

ในช่วงเวลาต่อสู้อันยาวนาน แม่มักจะคอยสนับสนุนเขาจากด้านหลังอย่างเงียบๆ และไม่เคยบ่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว มีแต่ความรักและความห่วงใยอันไม่มีที่สิ้นสุดที่เธอมีต่อลูกชาย ใบหน้าที่เหี่ยวย่นแต่เต็มไปด้วยความรักและความโล่งใจ เช่นเดียวกับดวงตาที่อาบไปด้วยน้ำตาแห่งความสุข

ชาวเน็ตหลายคนเมื่อเห็นฉากนี้ก็พากันส่งคำอวยพรจากก้นบึ้งของหัวใจ หวังว่าเขาจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานและมีครอบครัวเล็ก ๆ เป็นของตัวเองในไม่ช้า

เป็นที่รู้กันว่าในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา เพื่อไล่ตามความฝันของ เขาได้ทำงานแปลกๆ มากมายเพื่อเลี้ยงดูตัวเองและแม่ที่แก่ชราปัจจุบันในวัย 35 ปี เขาสารภาพว่า “ผมมักจะอิจฉาเพื่อนวัยเดียวกันที่แต่งงานแล้วมีลูก ตอนนี้ผมแค่อยากมีชีวิตปกติเหมือนพวกเขา บางครั้งก็คิดด้วยว่าถ้ามีการงานที่มั่นคงเมื่อนานมาแล้ว  ครอบครัวของผมคงไม่ยากจนเหมือนตอนนี้ ตอนนี้ผมยังไม่มีอะไรในมือ และสิ่งต่างๆ เริ่มไม่มั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆ

ผมอายุ 35 ปี ถ้าพยายามมั่นคงสอบต่อไป ผมไม่แน่ใจว่าจะสอบได้สักวันหนึ่งหรือไม่ ความกดดันในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพิ่มมากขึ้น ความสามารถของผมมีจำกัด ถึงแม้จะสอบผ่านแต่โอกาสหางานทำหลังเรียนจบคงยากมาก เพราะตอนนั้นผมแก่แล้ว ผมจึงค่อยๆ ตระหนักได้ว่าเป้าหมายของผมไม่สมจริงมากนัก”

ก่อนหน้านี้ประมาณต้นเดือนกันยายน 2024 ที่เขาตัดสินใจเข้ามหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่ซื้อเสื้อผ้าใหม่เท่านั้น แต่เขายังซื้อกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่อีกด้วย เพื่อทำให้การเข้าโรงเรียนของเขาดูเป็นทางการมากขึ้น และเพื่อไม่ให้แม่ที่แก่เฒ่าต้องกังวลที่บ้าน เขาจึงสมัครขอสินเชื่อนักเรียนด้วย เมื่อประกอบกับทุนการศึกษาก่อนหน้านี้ และรายได้จากการไลฟ์สดเชื่อว่าไม่มีปัญหาการเงินกระทั่งสำเร็จการศึกษาง

ในชั้นเรียนแรก เขาแนะนำตัวเองกับทุกคน บอกตรงๆ ว่าเขาแก่แล้ว แต่อย่าเรียกเขาว่า “ลุง” เพราะมันจะทำให้เขินอายมากเขาหวังที่จะเป็นเพื่อนกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน และก้าวหน้าไปด้วยกัน เขาอาศัยอยู่ในหอพักมาตรฐานสำหรับ 4 คน มีเตียง โต๊ะทำงาน และเครื่องปรับอากาศ เขาพอใจกับสภาพแวดล้อมในหอพักมาก และเพื่อนร่วมชั้นก็เจ้สกันได้ดีเช่นกัน

• “เด็กอัจฉริยะ” เรียน ป.โท สถาบันวิทยาศาสตร์ แต่ “แปรงฟันไม่เป็น” สาเหตุมาจากแม่
• เด็กหัวกะทิ 7 ขวบ วาดรูป “เพื่อนสนิท” ครูใจร่วงรีบโทรหาแม่ มองยังไงก็ “ไม่ใช่คน”