แม่ร้องหมอปลาช่วย ลูกสาวตายแล้วฟื้น คล้ายผีเข้า ชอบกินใบไม้ ร่างทรงบอกบ้านที่อยู่เป็นป่าช้าเก่า จะมีคนตายไปเรื่อยๆ บ้านใกล้เคียงก็เสียชีวิตลงหมด

เมื่อวันที่ 16 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากชาวบ้านรายหนึ่งในจ.อุทัยธานี ที่ขอความช่วยเหลือว่า มีสาวคนหนึ่งอาการคล้ายผีเข้าผีออก ชอบแลบลิ้นปลิ้นตา กินใบไม้ หลังจากนั้นผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่งใน ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พบกับเจ้าของบ้านชื่อ นางธัญวรัณฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี เป็นแม่ของหญิงสาวที่มีอาการคล้ายผีเข้าผีออก ชื่อน.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 44 ปี

นางธัญวรัณฐ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า บางครั้งลูกสาวก็มีอาการคล้ายผีเข้า สร้างความทุกข์ใจให้กับตนมาโดยตลอด โดยลูกสาวตนจบ ปวช.จากการศึกษาแห่งหนึ่ง แต่ต้องมาจบชีวิตด้วยอาการแปลกๆ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีโรคประจำตัว โดยเริ่มจากลูกสาวไม่สบายแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกตั้งแต่อายุ 18 ปี แล้วรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัยธานีประมาณ 3 เดือนแต่อาการไม่ดีขึ้น ก่อนจะเสียชีวิตลง

ระหว่างที่ทางบ้านเตรียมโลงศพเตรียมจัดงาน จังหวะนั้นลูกสาวฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้นมาก็กลับเข้ามาอยู่ที่บ้านก็เริ่มมีอาการแปลกๆ คล้ายผีเข้า บางครั้งตนเองยังกลัวเลย อีกทั้งยังมาเก็บใบไม้กินด้วยอาการแปลกๆ บอกว่าหิว

นางธัญวรัณฐ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาตนก็ไปหาร่างทรงคนหนึ่ง ร่างทรงบอกว่าลูกสาวของตนมีสัมภเวสีตามติดตัวมา จนทำให้ลูกสาวเป็นแบบนี้ เนื่องจากที่ดินที่ตนอยู่นั้นหมอทรงบอกว่า เป็นที่ดินป่าช้าเก่า จะทำให้มีคนตายไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นมาก็เริ่มมีคนตายเกิดขึ้นที่บ้านคือ สามีของตนก็มาผูกคอเสียชีวิต ต่อมาลูกสะใภ้ก็มาเสียชีวิตลง

ล่าสุดก็มาถึงรุ่นลูกสาวคนดังกล่าวที่มีอาการแปลกๆ คล้ายผีเข้า บางครั้งก็ดูปกติ บางครั้งก็ดูแปลกๆ ตนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ทุกวันนี้ลูกสาวก็ชอบแอบไปนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียวที่หลังบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนางธัญวรัณฐ์พร้อมลูกสาว ก็พาผู้สื่อข่าวเดินดูบริเวณรอบบ้านและหลังบ้าน เห็นจอมปลวกค่อนข้างใหญ่โต พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับตนเวลานี้ก็เสียชีวิตลงหมดแล้ว

มีเพียงบ้านของตนที่ยังอยู่แบบหวาดกลัว ต้องตื่นมาใส่บาตรทุกวัน จึงอยากจะฝากถึงหมอปลาให้ช่วยลงมาดูลูกสาวตนเองหน่อย พร้อมกับดูพื้นที่อยู่อาศัยว่า ทำไมถึงมีคนเสียชีวิตอยู่เรื่อยๆ

ที่มา อมรินทร์ทีวี