จากกรณีที่มีคุณแม่รายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ร้องเรียนหลังลูกชายอายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ถูกครูผู้สอนทำโทษโดยการลุกนั่ง 150 ครั้ง เนื่องจากนักเรียนทำสมุดการบ้านหาย เมื่อแพทย์วินิจฉัยพบเป็นกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง จากเหตุการณ์ดังกล่าวเด็กได้นอนอยู่โรงพยาบาลรักษาตัวเป็นเวลา 7 วัน แล้วและทางโรงเรียนยังไม่มีการเข้าเยี่ยม หรือออกมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
โดยผู้โพสต์เล่าว่า “เหตุการณ์วันนี้ทำแม่เลี้ยงเดี่ยวเครียดและลูกก็เครียด คุณครูจะเครียดด้วยไหม??เรื่องมีอยู่ว่าลูกทำสมุดรายวิชาหนึ่งหาย ไม่ได้ส่งการบ้านคุณครูสั่ง ลงโทษให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง ลูกรู้ว่าตัวเองผิดก็ทำตามคำสั่งคุณครู แต่สิ่งที่เกิดขึ้นลูกโทรหาแม่ตอนเที่ยงบอกปวดกล้ามเนื้อขามาก ตอนแรกก็คิดว่าแค่อักเสบพามาหาหมอที่ รพ.อาการ ที่หมอตรวจเจอกล้ามเนื้อสลายอักเสบรุนแรง ค่าผลเลือดผิดปกติสูงมาก ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
หมอบอกความรุ่นแรงอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ จากการลุกนั่ง ทำให้เลือดอาจไปเลี้ยงหัวใจไม่ทัน หรืออาจจะเกิดไตวายเฉียบพลันได้ เกิดมาจากอาการเหนื่อยและเสียเหงื่อ สภาพตอนนี้นอนพักที่เตียงอย่างเดียว ห้ามลุกเดินนอนพักยาว จนกว่าผลเลือดจะดีขึ้น คนเป็นแม่งานก็ต้องทำลูกก็ต้องดูแล ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ต้องมานอนเฝ้าลูกทั้งที่ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ แบบการทำโทษนักเรียนที่ผู้ปกครองมานอนเครียด”
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายวิรัช ชูสิน ผู้อำนวยการโรงเรียนนาทวีวิทยาคม เพื่อสอบถามกรณีที่ครูสั่งทำโทษนักเรียนลุกนั่ง 150 ครั้ง จนกล้ามเนื้ออักเสบถึงขั้นรุนแรง และสั่งไม่ให้แม่เด็กแจ้งความเอาผิดครูผู้สั่ง นายวิรัช เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง และตนจึงได้บอกให้ครูรีบไปเยี่ยมเด็กที่โรงพยาบาลทันที และให้ติดตามอาการเด็กด้วย พร้อมกับพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเด็ก
ส่วนสาเหตุมาจากที่เด็กไม่ได้ส่งการบ้าน ครูผู้สอนจึงได้สั่งทำโทษให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง ซึ่งทางครูก็ยอมรับว่าสั่งทำโทษมากเกินไป หลังสั่งทำโทษวันรุ่งขึ้นเด็กก็มาเรียนตามปกติ แต่วันต่อมาเริ่มมีอาการอักเสบที่ขา ทางผู้ปกครองจึงพาไปหาหมอ
และหมอวินิจฉัยว่า เป็นกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ต่อมาตนได้ไปเยี่ยมเด็กพร้อมกับครูที่สั่งทำโทษเด็ก ซึ่งในวันนั้นครูได้ยกมือไหว้ขอโทษผู้ปกครอง 2 ครั้ง และบอกเหตุผลที่ทำโทษเพื่อต้องการจะเขี้ยวเข็นเรื่องการเรียน
จากนั้นตนได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 10,000 บาท แต่ทางผู้ปกครองไม่รับ และบอกว่าขอให้ลูกหายดีก่อนและค่อยมาคุยกันอีกที ส่วนอาการเด็ก ตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังต้องฟื้นฟูกล้ามเนื้ออีกสักระยะ และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เรื่องที่เกิดขึ้นตนต้องมาถอดบทเรียนให้กับครูที่คิดจะทำโทษเด็กต้องทำด้วยความเหมาะสม และให้เป็นไปตามระเบียบที่วางไว้