แม่ยันชดใช้ หลังลูกทุบรถในรพ. วอนอย่าซ้ำเติม ป่วยจิตเวชรักษามา9ปี ไม่ได้ติดยา

Home » แม่ยันชดใช้ หลังลูกทุบรถในรพ. วอนอย่าซ้ำเติม ป่วยจิตเวชรักษามา9ปี ไม่ได้ติดยา



แม่พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย หลังลูกทุบรถ 14 คันในรพ. วอนอย่าซ้ำเติม ลูกป่วยจิตเวชรักษามาตลอด 9 ปี ไม่ได้ติดยา ขอโทษและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

วันที่ 8 ธ.ค.65 น.ส.พรชนิตว์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ชาว อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แม่ของ นายกิตติพศ อายุ 22 ปี มีอาการป่วยทางจิตเวช เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุตนพาลูกชายมารักษาเป็นกรณีฉุกเฉิน เพราะน้องมีอาการหวาดกลัวคนมาทำร้าย เมื่อมาถึงนั่งรอเจ้าหน้าที่หน้าห้องฉุกเฉินก็ยังนิ่งอยู่ แต่ในวันนั้นอากาศร้อนและน้องเริ่มหิวข้าว ทำให้หงุดหงิดตามมา ก่อนจะบ่นว่าทำไมช้า เขาอยากจะหนีกลับแล้วเพราะกลัวมีคนมาทำร้าย แต่ตนเห็นว่าเมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้วก็อยากให้ได้พบกับหมอเพื่อรักษาอาการ

น้องมีอาการสมาธิสั้นร่วมด้วย ซึ่งมาเข้ารับการรักษามาตลอดตั้งแต่ 8-9 ปี ก่อน จึงเป็นสาเหตุทำให้อาละวาดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ชาร์จตัวและนำเข้าห้องฉุกเฉินเลย แต่ตนและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ไปลงประจำวันไว้ อยากฝากขอโทษสังคม น้องมีอาการป่วย มีสารคัดหลั่งมากเกิดไป ควบคุมตัวเองไม่ได้ น้องไม่ได้เสพยาเสพติด

อยากให้สังคมเข้าใจคนป่วยที่มีอาการแบบนี้ด้วย น้องมารับการรักษาแต่ไม่สามารถควบคุมอาการน้องได้ ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนก็ยอมชดใช้ให้กับผู้เสียหายตามกำลังที่มี เนื่องจากตนทำงานคนเดียวเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน ร.ต.อ.ชัยยง อ้วนมะโฮง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อประมาณเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ธ.ค.65 ที่ โรงพยาบาลศรีธัญญา ระหว่างรอพบแพทย์นั้น ได้ไปนั่งรอที่โรงเลี้ยงแผนกชายของ รพ. ชายหนุ่มมีอาการไม่สามารถควบคุมตนได้ วิ่งออกไปข้างนอกบริเวณลานจอดรถข้างอาคาร ก่อนจะใช้ก้อนหินและไม้ทุบรถยนต์ชนิดต่าง ๆ ที่จอดอยู่ เสียหาย 14 คัน

ล่าสุดทางผู้ปกครองของชายหนุ่มที่ก่อเหตุเดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับรถทุกคันแล้ว ซึ่งในตอนเกิดเหตุนั้นทางผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวชไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ประกอบกับทางผู้ปกครองมาเจรจารับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดกับทางประกันของรถทั้ง 14 คันแล้ว

ซึ่งไม่ได้แจ้งจ้อหาดำเนินคดีใดๆกับชายหนุ่มคนนี้ และไม่มีคนถูกแทงด้วยปากกาเข้าที่หรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บใดๆ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงรถยนต์ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายจำนวน 14 คันเท่านั้นและคดีดังกล่าวก็ถือว่าจบไปแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ