แม่ปลอมเป็นลูกสาววัย 13 เข้าไปใช้ชีวิตในโรงเรียน ทดสอบรับมือเหตุกราดยิง สุดท้ายผิดหวังมาก ครูจับได้ตอนเลิกเรียนแล้ว

ในช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 “เคซีย์ การ์เซีย” หญิงอายุ 30 ปี แอบอ้างเป็นลูกสาววัย 13 ปี เพื่อใช้ชีวิตในฐานะนักเรียนของโรงเรียน San Elizario Middle School ในเท็กซัส สหรัฐฯ

ตามรายงานระบุด้วยว่า การ์เซียมีส่วนสูง 150 เซนติเมตร และน้ำหนัก 47 กิโลกรัม เธอลงทุนใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้สีผิวคล้ายลูกสาว และขอหมายเลขประจำตัวนักเรียน เพราะสังเกตว่าเจ้าหน้าที่เพียงตรวจสอบหมายเลขก่อนเข้าโรงเรียนเท่านั้น ซึ่งเธอเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนไม่ได้ทำงานหนักพอ จึงไม่สามารถค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอ

ต่อมา เธอได้อัพโหลดคลิปวิดีโอลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก แสดงให้เห็นช่วงเวลาที่เธอใช้ชีวิตในโรงเรียน ทั้งเดินไปรอบๆ และเข้าไปนั่งเรียนในชั้นเรียน โดยตลอดเวลามีการปิดบังตัวตนด้วยหน้ากากอนามัยและแว่นสายตาที่สวมอยู่บนใบหน้าเท่านั้น เพราะในช่วงที่เกิดโรคระบาด ครูอนุญาตให้เรียนออนไลน์จากที่บ้านได้ เธอจึงเป็นนักเรียนคนเดียวที่เข้าเรียนในชั้นเรียนขณะนั้น

การ์เซียบอกว่า “ครูให้ความสำคัญกับนักเรียนที่เรียนออนไลน์มากเกินไป จนไม่สนใจนักเรียนที่อยู่ตรงหน้า” เธอบอกด้วยว่าครูไม่ได้สังเกตเห็นอะไรผิดปกติเลย จนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน จึงตระหนักได้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าไม่ใช่นักเรียนอายุ 13 ปี

หลังจากถูกจับได้แล้ว คุณแม่รายนี้ยังอ้างว่ากำลังดำเนินการ “การทดลองทางสังคม” ทำไปเพื่อพิสูจน์ระบบรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน ว่าเพียงพ่อต่อการป้องกันเหตุกราดยิงในโรงเรียนหรือไม่ และก็ได้ข้อสรุปว่าไม่ได้ใช้มาตรการที่เพียงพอ ทำให้ผู้ใหญ่ยังคงสามารถเข้าออกได้ตามต้องการ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ผู้พิพากษาชาวเท็กซัสตัดสินว่า “เคซีย์ การ์เซีย” ในวัย 33 ปี มีความผิดในข้อหาบุกรุกอย่างผิดกฎหมาย และพิพากษาให้เธอถูกคุมประพฤติเป็นเวลา 6 เดือน ทำงานรับใช้สังคม 100 ชั่วโมง และปรับ 700 ดอลลาร์ (ประมาณ 24,000 บาท)