โน๊ตลับจากพนักงานร้านกาแฟชื่อดัง ที่พยายามให้การ “ช่วยเหลือ” หญิงสาวที่ถูกผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาทำความรู้จัก กลายเป็นหัวข้อเถียงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตเห็นต่างถกกันวุ่น กังวลเกินไปไหม?
หากคุณเป็นผู้หญิงและกำลังอยู่คนเดียวในเวลากลางคืน การได้รับความสนใจจากคนแปลกหน้าที่ไม่พึงประสงค์อาจเป็นเรื่องที่น่ากลัวได้ และคงถือเป็นโชคดีมากหากพบคนใจดีที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือเมื่อจำเป็น อย่างไรก็ตามในบางกรณีก็ไม่เป็นเช่นนั้น
ดังเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อนักเรียนหญิงวัย 18 ปีกำลังตัวหนังสืออยู่เพียงลำพัง และมีชายแปลกหน้าเข้าหาเธอ บาริสต้าหญิงที่เห็นเหตุการณ์เกิดความกังวล จึงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยนำช็อกโกแลตร้อนหนึ่งแก้วไปให้เด็กสาวโดยอ้างว่า “ลูกค้าสั่งไว้แล้วลืมหยิบ”
แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นกลอุบายทั้งหมด เพราะแท้จริงบาริสต้าแอบเขียนโน๊ตลับส่งให้กับหญิงสาว ข้อความบนแก้วเครื่องดื่มคือ “คุณโอเคไหม? คุณต้องการให้เราเข้าไปแทรกแซงหรือไม่? ถ้าต้องการให้เปิดฝาออกจากแก้ว”
เรื่องทั้งหมดถูกเปิดเผยโดยคุณแม่ของเด็กสาวคนดังกล่าว ที่ตัดสินใจโพสต์รูปภาพของแก้วเครื่องดื่มลงบนเฟซบุ๊ก พร้อมทั้งบอกว่า “ฉันรู้สึกขอบคุณจริงๆ สำหรับคนที่คอยดูแลคนอื่น” เพราะพนักงานสังเกตุเห็นว่าแปลกๆ และชายคนนั้นค่อนข้างพูดเสียงดัง จึงยื่นมาเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ดี คุณแม่บอกเพิ่มเติมด้วยว่า สุดท้ายแล้วลูกสาวของเธอไม่ได้เปิดฝาเครื่องดื่มออก เพราะยังคงรู้สึกปลอดภัยดี แต่ก็รู้ว่าพนักงานทุกคนยังคงคอยมองและดูแลเธออยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงรู้สึกขอบคุณมากๆ และคิดว่าร้านกาแฟแบรนด์นี้มีพนักงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ
เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวที่คุณแม่เล่าออกมานี้ได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างมาก เพราะมันกลายเป็นกระแสไวรัลอีกครั้งหลังจากถูกแชร์บนลงแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิม Twitter) โพสต์ดังกล่าวมียอดเข้าชมมากกว่า 21.6 ล้านครั้ง และยอดไลค์ 240,300 ครั้งในเวลาเพียงสามวัน โดยมีผู้แสดงความเห็นหลายพันคน
ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมพนักงานว่า “ยังมีคนดีๆ อยู่ในโลกนี้!” , “ในฐานะพ่อของลูกสาว ผมดีใจที่ยังมีคนคอยดูแลเด็กผู้หญิง” , “ในสังคมปัจจุบัน ผู้คนควรมีส่วนร่วมในเชิงรุกเช่นนี้มากขึ้น คุณไม่มีทางรู้ว่าสถานการณ์จริงๆ คืออะไร ขอชื่นชมพนักงานของที่ช่วยเหลืออย่าเงียบๆ”
อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่าเด็กสาวคนนี้รู้สึก “ปลอดภัย” เมื่ออยู่กับชายแปลกหน้าที่เข้ามาทำความรู้จัก ดังนั้นพวกเขาจึงแสดงความคิดเห็นว่า การที่พนักงานเข้าไปแทรกแซงเช่นนั้นเป็นการแสดงปฏิกิริยาที่เกินจริงอย่างมาก และนี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าทำไมชายหนุ่มจำนวนมากจึงกลัวเกินกว่าจะเริ่มต้นการสนทนากับผู้หญิง
“ฉันรู้สึกแย่แทนหนุ่มๆ ที่อาจอยากเข้าไปทำความรู้จักสาวที่สนใจ”
“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพนักงานจึงต้อง ‘ช่วยเหลือ’ ในสถานการณ์เช่นนี้”
“มันเป็นสถานที่สาธารณะและมีเหตุผลที่ยอมรับได้หลายประการว่าทำไมชายคนนี้ถึงเขาไปคุยกับเธอ!”
“การส่งเสริมมาตรการป้องกันที่สมเหตุสมผลก็เรื่องหนึ่ง แต่การทำให้เกิดความกลัวและความหวาดระแวงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
“เข้าหาผู้หญิงในร้านกาแฟไม่ได้ (เพราะน่าขนลุก) เข้าหาผู้หญิงในที่ทำงานไม่ได้ (เพราะไม่เป็นมืออาชีพ) เข้าหาผู้หญิงที่โรงยิมไม่ได้ (เพราะกวนใจและน่าขนลุก) เข้าหาผู้หญิงที่โบสถ์ไม่ได้ (เพราะบาป) เข้าหาผู้หญิงในที่สาธารณะยังไม่ได้เลย ผู้ชายควรทำอย่างไร??”