แม่ชอบทำโทรศัพท์หาย พีกสุด 2 เครื่องใน 3 เดือน ลูกสาวแก้ปัญหาด้วยวิธีง่าย ๆ แถมได้ลูกเขยมาฝากแม่ด้วย
เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า หญิงสาวชาวไต้หวันคนหนึ่ง เล่าว่า แม่ของเธอเป็นคนค่อนข้างขี้หลงขี้ลืม มักทำของหายเป็นประจำ โดยในระยะเวลาเพียง 3 เดือน แม่เธอทำโทรศัพท์หายไปถึง 2 เครื่อง ดังนั้นเธอจึงใช้วิธีแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเรื่องนี้นำไปสู่การพบรักกับสามีของเธอ เรื่องดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตหลายคนถึงกับตกตะลึง
ชาวเน็ตหญิงคนนี้ ได้โพสต์ใน Dcard เล่าว่า แม่ของเธอเป็นคนที่ค่อนข้างขี้หลงขี้ลืม มักทำของหล่นหายอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์หรือกุญแจ ตอนเธอยังเด็ก ๆ แม่เคยลืมเธอไว้ที่ตลาดด้วย
โดยเมื่อ 4 ปีก่อน แม่ของเธอทำโทรศัพท์หายถึง 2 เครื่อง ภายใน 3 เดือน เธอจึงตัดสินใจเข้ามาช่วย ด้วยวิธีง่าย ๆ โดยใส่ข้อมูลการติดต่อของเธอไว้ในเคสโทรศัพท์ของแม่
กระทั่งแม่ของเธอก็ทำโทรศัพท์หายอีกครั้ง แต่ด้วยความที่มีข้อมูลการติดต่อของเธออยู่ในโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดต่อเธอได้อย่างรวดเร็วเพื่อแจ้งให้แม่ไปรับโทรศัพท์ที่สถานีตำรวจ ความบังเอิญคือ วันนั้นตำรวจที่เข้าเวร “ดันเป็นคนที่ตรงสเปกของเธอ” เธอจึงเดินหน้ารุกอย่างเต็มที่ สุดท้ายไม่เพียงแต่จะได้แลกไลน์กับเขา ทั้งคู่ยังได้คบหาดูใจกันจริงจัง
ปัจจุบันผู้โพสต์และแฟนหนุ่มกำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ เพื่อระลึกถึงความบังเอิญที่เกิดจากแม่ทำโทรศัพท์หายจนทำให้พวกเขาได้พบกัน ทั้งคู่จึงสั่งทำเคสโทรศัพท์คู่กันโดยใช้ภาพจากการ์ดเชิญงานแต่งงาน พร้อมพิมพ์ QR Code ของอินสตาแกรมของกันและกันลงบนเคสด้วย
เธอกล่าวอย่างมีความสุขว่า “โชคดีที่ฉันเป็นคนกล้า ไม่อย่างนั้นคงพลาดโอกาสนี้ไปแน่!” และยังแบ่งปันความยินดีนี้ พร้อมอวยพรให้คนโสดได้เจอคู่ และคนที่คบกันอยู่แล้วได้แต่งงานกัน
ทันทีที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตกว่า 7,000 คน เข้ามากดไลก์ หลายคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า “เป็นเรื่องราวที่น่ารักมาก พรหมลิขิตช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ ” บ้างก็แซวว่า “ฉันพร้อมแล้ว แนะนำหน่อยว่าจะไปทำโทรศัพท์หายที่ไหนดี?” หรือ “ยินดีด้วย! เรื่องราวน่ารักมาก ขอให้ชีวิตแต่งงานมีความสุขนะ”
และยังมีคนแสดงความคิดเห็นว่า “เรื่องราวหวานมาก ฉันเคยเจอตำรวจที่ถูกใจแต่ไม่กล้าขอไลน์ส่วนตัว ฉันควรจะกล้าแบบเจ้าของโพสต์บ้าง” อีกคนยังถามด้วยว่า “ถามสามีคุณหน่อย มีรุ่นน้องตำรวจน่ารัก ๆ เข้าเวรเมื่อไหร่ ฉันจะรอทำโทรศัพท์หาย!”