แม่ดุไม่ออก ลูกชาย 5 ขวบ โยนมือถือทิ้งขยะ ก่อนร้องไห้ถามสั้นๆ ฟังแล้วสะท้อนใจ

Home » แม่ดุไม่ออก ลูกชาย 5 ขวบ โยนมือถือทิ้งขยะ ก่อนร้องไห้ถามสั้นๆ ฟังแล้วสะท้อนใจ

 พ่อแม่หลายคนมักพูดเสมอว่าลูกๆ เป็นทรัพย์สินอันล้ำค่า พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อลูก อย่างไรก็ตาม บางทีพวกเขาอาจไม่เคยใช้ชีวิตให้ “ช้าลง” เพื่อพิจารณาว่าจริงๆ แล้วตนเองใช้เวลากับลูกมากแค่ไหนในแต่ละวัน และสิ่งที่ลูกต้องการจากพ่อแม่แท้จริงแล้วคืออะไร

เรื่องราวที่แชร์บนฟอรัมโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน ได้ “ปลุก” ผู้ปกครองหลายคนในประเทศนี้อย่างแท้จริง

เรื่องราวเกิดในครอบครัวของหญิงสาวแซ่หลิว เย็นวันหนึ่งหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ทุกคนก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยกัน สามีดูฟุตบอล ตัวเธอเองนั่งเล่นโทรศัพท์ ส่วนลูกชายวัย 5 ขวบก็เล่นตามลำพังกับของเล่นมากมาย

แต่แล้วในตอนที่คุณหลิวลุกไปเข้าห้องน้ำไม่ถึง 2 นาที เมื่อกลับมาก็พบว่าโทรศัพท์มือถือหายไปจากจุดที่วางไว้ หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ถามสามีก็ตอบว่าไม่รู้ เพราะเขากำลังสนใจดูฟุตบอลอยู่

สุดท้ายเธอจึงหยิบโทรศัพท์ของสามีเพื่อลองต่อสายเข้าเครื่องตัวเอง ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจาก “ถังขยะ” ในห้องนั่งเล่น เมื่อเดินไปดูก็ต้องประหลาดใจ เพราะโทรศัพท์อยู่ข้างในนั้นจริงๆ

คุณหลิวเดาได้ทันทีว่าคนที่โยนโทรศัพท์มือถือลงถังขยะคือลูกชายของเธอ แต่ก่อนที่จะได้กล่าวดุออกไป เด็กอายุ 5 ขวบก็น้ำตาไหลเสียก่อน ทำให้เธอต้องสงบสติอารมณ์ และถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ ว่า

“ลูกรัก บอกแม่ทีว่าทำไมถึงทิ้งโทรศัพท์ของแม่ลงถังขยะ?”

“แม่เกลียดหนูไหม? แม่แค่ชอบเล่นโทรศัพท์ แต่ไม่อยากคุยหรือเล่นกับลูกเหรอ?”

ทันทีที่ประโยคของลูกชายสิ้นสุดลง คุณหลิวก็หลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ และเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที ปรากฏว่าเธอเอาแต่ถือโทรศัพท์ไว้ในมือทั้งวัน แม้แต่ตอนที่คุยกับลูก เธอก็ไม่ได้มองลูก แต่ก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ ทำให้เกิดบาดแผลในใจเด็กอย่างสุดซึ้ง

คุณหลิวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโทษตัวเองอย่างมาก จึงรีบวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ แล้วตรงเข้ากอดลูกชายไว้แน่นๆ แล้วพูดว่า “แม่รักลูกมากที่สุด แม่จะไม่เล่นโทรศัพท์และทิ้งหนูไว้ตามลำพังอีกแล้ว” เพียงเท่านั้นรอยยิ้มที่มีความสุขก็ปรากฏบนใบหน้าของลูกชายทันที

ว่ากันว่ามิตรภาพของพ่อแม่คือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับลูกๆ อย่างไรก็ตาม ในสายตาของเด็ก ๆ หลายคน โทรศัพท์มือถือถือเป็น “ปีศาจ” ที่ได้พรากพ่อแม่ของพวกเขาไป

จากการสำรวจพบว่า เด็กเกือบ 60% คิดว่าเพื่อนสนิทของพ่อแม่คือโทรศัพท์มือถือ และเด็ก 30% คิดว่าพ่อแม่ไม่มีเวลาใส่ใจพวกเขา ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขารบกวนและส่งเสียงดัง ผู้ปกครองจะให้โทรศัพท์มือถือเพื่อให้พวกเขาความบันเทิงกับตัวเอง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ