แม่ซึ้งคำพิพากษา – เอพี รายงานเปิดใจ นางแวนดา คูเปอร์-โจนส์ แม่ชาวอเมริกันผู้สูญเสียลูกชาย ชื่อ อาร์มูด อาร์เบอรี วัย 25 ปีที่ออกไปวิ่งออกกำลังกายแล้วไม่ได้กลับบ้านอีกเลย เพราะถูกชายผิวขาวยิงสังหาร กระทั่งคณะลูกขุนตัดสินให้จำเลยผิวขาวทั้งสามมีความผิด จนเหมือนได้ความยุติธรรมครั้งสำคัญ
“นี่เป็นวันขอบคุณพระเจ้าครั้งที่สองที่เราไม่มีอาห์มูดอยู่ด้วย แต่ขณะเดียวกันฉันก็ซาบซึ้งใจ เพราะนี่เป็นวันขอบคุณพระเจ้าที่เราพูดถึงความยุติธรรมสำหรับอาห์มูดที่เราได้รับ” นางแวนดา คูเปอร์-โจนส์กล่าว
แม่ผู้สูญเสียกล่าวด้วยว่า หลังจากได้ยินคำพิพากษาเมื่อวันพุธที่ 23 พ.ย. แล้ว เธอก็คิดถึงกลุ่มผู้สนับสนุนลูกชายขึ้นมาทันที คนเหล่านี้ไปตะโกนที่หน้าศาล ว่า “ขอความยุติธรรมให้อาห์มูด” อยู่ทุกวัน
“ในที่สุดฉันก็ได้ออกจากห้องพิจารณาคดีแล้วพูดว่า เราทำได้ เราทั้งหมดทำได้ด้วยกัน”
เหตุการณ์ของคดีนี้เกิดเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2563 ที่เมืองบรุนสวิก รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา นายอาร์เบอรีออกไปวิ่งออกกำลังกาย จู่ๆ ก็ถูกชายผิวขาว 3 คนขับรถไล่ตาม เพราะสงสัยว่าชายหนุ่มเกี่ยวข้องกับคดีย่องเบาในชุมชนแถวนั้น หลังเห็นนายอาร์เบอรีในภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
คลิปวิดีโอที่บันทึกห้วงลมหายใจสุดท้ายของนายอาร์เบอรี เผยให้เห็นว่าทราวิส แมคไมเคิล ลงมาจากรถและยิงอาร์เบอรีจนทรุดลง ขณะที่เกรกอรี แมคไมเคิล พ่อของนายทราวิส และเป็นอดีตตำรวจฝ่ายสืบสวนยืนดูอยู่ที่กระบะท้ายรถ
ขณะเวลานั้น อัยการไม่ได้สั่งให้ตำรวจเขตกลินน์ รัฐจอร์เจียจับผู้ใด แต่หลังจากผ่านไป 2 เดือน คลิปวิดีโอที่ชายคนที่สามในเหตุการณ์ ชื่อ วิลเลียม ไบรอัน จูเนียร์ เพื่อนบ้าน บันทึกไว้ปรากฏสู่สายตาสาธารณชนจุดประกายเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตผิวดำ
ต่อมา พ่อลูกแมคไมเคิลถูกจับกุม วันที่ 7 พ.ค. 2563 ส่วนไบรอันถูกควบคุมตัวหลังจากนั้น 2 สัปดาห์แม้พ่อลูกแมคไมเคิลอ้างว่าอาร์เบอรีเป็นผู้ย่องเบาลักทรัพย์ แต่ตำรวจยืนยันว่าฟังไม่ขึ้น เพราะไม่มีคดีลักทรัพย์เพียงครั้งเดียวซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่อาร์เบอรีจะถูกยิงถึง 2 เดือน
สำหรับการไต่สวนของศาลในคดีนี้ต้องใช้เวลา 2 วัน รวมเวลา 11 ชั่วโมง เนื่องจากมีพยานให้ปากคำถึง 23 คน ส่วนคณะลูกขุนเป็นชาวผิวขาว 11 คนและมีชาวผิวดำเพียงคนเดียว
คำตัดสินระบุให้ นายทราวิส แมคไมเคิล มีความผิดฐานฆาตกรรมด้วยความอาฆาตพยาบาท ความผิดอาญาอุกฉกรรจ์อีก 4 ข้อหา ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย 2 ข้อหา ความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว และพยายามก่ออาชญากรรม มีโทษถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
ส่วน เกรกอรี แมคไมเคิล พ่อของทราวิส ไม่มีความผิดการฆาตกรรมด้วยความอาฆาตพยาบาท แต่มีความผิดข้อหาอื่นๆ 8 ข้อหา
ด้านนายวิลเลียม ไบรอัน จูเนียร์ ผู้บันทึกคลิปวิดีโอขณะที่พ่อลูกแมคไมเคิลไล่ล่าอาร์เบอรี มีความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ 3 ข้อหา ได้แก่ ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยและพยายามก่ออาชญากรรมที่มีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
หลังฟังคำตัดสิน พ่อแม่ของอาร์เบอรีกล่าวขอบคุณทุกฝ่าย ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานความยุติธรรม รวมทั้ง ผู้ประท้วงขอความเป็นธรรมแก่ลูกชายของตน
ส่วนจำเลยทั้ง 3 คนเตรียมยื่นอุทธรณ์คดี
จำเลยทั้งสามยังถูกรัฐบาลกลางตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังซึ่งจะมีกำหนดขึ้นศาลในเดือน ก.พ. ในข้อหาแทรกแซงสิทธิและพยายามลักพาตัว ส่วนพ่อและลูกแม็คไมเคิลจะต้องถูกตั้งข้อหาเพิ่มเกี่ยวกับการพกพาและใช้อาวุธ
ระยะเวลาเกิดเหตุ ยังใกล้เคียงกับคดีชายผิวชาวสังหารชายผิวดำหลายกรณี เช่น คดี บรีออนนา เทย์เลอร์ เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินที่ถูกตำรวจผิวขาวยิงที่รัฐเคนทักกี คดีนายจอร์จ ฟลอยด์ถูกตำรวจใช้เข่ากดคอจนขาดอากาศหายใจที่รัฐมินนิโซตา
และคดีเรย์ชาร์ด บรูกส์ ถูกตำรวจยิงที่รัฐแอตแลนตา ทำให้เกิดการประท้วงใหญ่และเรียกร้องความยุติธรรมแก่ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
……….
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
คำพิพากษาปลุกไฟแค้น หนุ่มมะกัน18 พ้นผิด ยิงคนดับ2กลางถนน