ไร้เงาผู้ปกครองเด็ก 14 ร่วมงานศพหญิงเมียนมา เพื่อนร่วมงานวอนสถานทูตรับแม่มาร่วมงานศพ ให้ได้ดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย
จากกรณีเด็กชายอายุ 14 ปี ก่อเหตุยิงในห้างพารากอน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.จ้าว จินหนาน อายุ 34 ปี ชาวจีน และ น.ส. Moe Myjnt หรือ ตะวัน ชาวเมียนมา
ล่าสุด นายจ้างและญาติของชาวเมียนมาเดินทางไปรับศพผู้เสียชีวิตมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดผาสุกมณีจักร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ เป็นเวลา 5 คืน ตั้งแต่วันที่ 4 – 8 ต.ค. และฌาปนกิจศพในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 17.00 น.
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดผาสุกมณีจักร โดยพบว่ามีเพื่อนร่วมงานในบริษัทที่ น.ส.ตะวัน ทำงานอยู่ ได้เดินทางมาร่วมฟังพระสวดพระอภิธรรมเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งเพื่อนร่วมงานบางคนถึงกับหลั่งน้ำตากอดคอแสดงความเสียใจกันออกมาต่อหน้ารูปถ่ายตั้งหน้าโลงศพ โดยหลายคนยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
ด้าน นางดา เจ้าของบริษัท เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้น ๆ ว่า หลังจบเรื่องงานศพของ น.ส.ตะวัน แล้ว ตนจะมอบหมายให้ทางทนายความของบริษัทดำเนินการฟ้องร้องติดตามค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางครอบครัวผู้ก่อเหตุต่อไป
แต่ในส่วนของตนเองขอยืนยันอีกครั้งตรงนี้ว่า ตนจะจ่ายเงินเดือนละ 1 หมื่นบาทให้กับทางครอบครัวของ น.ส.ตะวัน ตลอดไป เนื่องจากเห็นใจทางครอบครัวของ น.ส.ตะวัน ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียว ที่เข้ามาทำงานเพื่อส่งเงินกลับไปให้แม่ที่กำลังป่วย เป็นโรครุมเร้าหลายโรคเพียงลำพัง ตนเห็นใจที่ทางครอบครัวที่ต้องมาสูญเสียเสาหลักอย่าง น.ส.ตะวัน ไป
ทางด้าน น.ส.ใหม่ เพื่อนสนิทสาว กล่าวว่า ในวันนี้ส่วนใหญ่ที่เดินทางมาร่วมงานศพเป็นเพื่อนร่วมงานในบริษัทเดียวกับ น.ส.ตะวัน ซึ่งทุกคนยังรู้สึกเศร้าเพราะมันกระทันเกินไป ยังไม่มีใครตั้งตัวกันทัน และตนยังไม่เห็นครอบครัวของคนก่อเหตุเดินทางมาร่วมงานศพหรือขอโทษ แสดงความเสียใจอะไรออกมา
ตนอยากให้ทางผู้ปกครองของเด็กรายนี้มาขอขมาศพมาแสดงความเสียใจบ้างก็ยังดี ตอนนี้แม่ของผู้เสียชีวิตทราบเรื่องลูกสาวเขาถูกยิงตายแล้วก็ช็อกเป็นลมหมดสติไป ซึ่งทางแม่เขาเองแม้เจ็บป่วยอยู่ก็อยากเดินทางมาร่วมงานศพลูกเป็นครั้งสุดท้าย อย่างน้อยมาทันวันเผาศพลูก เพื่อมาดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี
ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือทางสถานทูตเร่งให้ความช่วยเหลือพาแม่ของ น.ส.ตะวัน เดินทางมาให้เร็วที่สุด โดยช่วยอำนวยความสะดวกให้ ตนเชื่อว่าก็จะสามารถพาแม่ น.ส.ตะวัน มาร่วมงานศพได้ทันก่อนถึงวันเผา
น.ส.จูน (นามสมมุติ) เพื่อนร่วมงานคนไทย กล่าวว่า พี่ตะวันเป็นคนน่ารักชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร พี่เขาทำหน้าที่เป็นคนดูแลที่หน้าร้านคอยดูแลลูกค้า เพราะพี่เขาพูดได้หลายภาษา จีน อังกฤษ ไทย และเมียนมา สื่อสารได้ดี จึงได้รับหน้าที่ให้มาดูแลลูกค้าที่ห้างพารากอนที่มีลูกค้าชาวต่างชาติเยอะ
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าบริษัทสูญเสียบุคลากรที่ดีไป ซึ่งตอนนี้พนักงานในบริษัทหลายคนยังคงเสียขวัญและเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทุกคนรู้สึกหดหู่ใจมาก ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับคนใกล้ตัว ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นในสถานที่มี่มีผู้คนพลุกพล่าน ซึ่งน่าจะมีการรักษาความปลอดภัยที่ดีและมีมาตรฐานกว่านี้
ส่วนในตอนนี้ตนก็เป็นห่วงเรื่องที่อยากให้ทางแม่ของเขาเดินทางมาร่วมงานลูกสาวเขาเป็นครั้งสุดท้าย อยากให้ทางสถานทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือพาแม่ของพี่เขามาร่วมงานครั้งสุดท้ายให้ทันวันเผาศพก็ยังดี
ส่วนทางครอบครัวผู้ก่อเหตุตนก็ยังไม่เห็นมาร่วมงานหรือแสดงความเสียใจใดๆ ออกมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอย่างน้อยก็น่าจะเดินทางแสดงความเสียใจหรือขอโทษกับเหตุที่เกิดขึ้นก็ยังดี แต่ก็ไร้วี่แว่ว