สาวฉีดโบท็อกซ์ คลินิกพิมรี่พาย แจ้งความหมอหลังฉีดฟีลเลอร์แล้วหนังตาตก เผยลูกสาวห่วงตาบอด พ้ออาชีพไลฟ์ขายของ ตาตกแบบนี้จะทำยังไง ถ้าพิมรี่พายเป็นบ้างจะรู้สึก

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 ธ.ค.ที่ สน.ห้วยขวาง ทนายรัชพล ศิริสาคร พา น.ส.พลอย (นามสมมติ) อาชีพแม่ค้าออนไลน์ มาแจ้งความกับ ร.ต.อ.รุ่งศักดิ์ นันตะเวช รอง สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง ให้ดำเนินคดีกับแพทย์ผู้ฉีดโบท็อกซ์และอิสคิวท์ คลินิก ของพิมรี่พาย ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง หลัง น.ส.พลอย ไปใช้บริการที่คลินิกสาขาห้วยขวาง ก่อนมีอาการหนังตาข้างขวาตก โดยแพทย์จาก รพ.ศิริราช ระบุสาเหตุเกิดจากการฉีดโบท็อกซ์

น.ส.พลอย กล่าวว่า ตนฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์และฉีดแฟต ที่หน้าผากและแก้ม ซึ่งหมอใช้น้ำแข็งประคบก่อนฉีดโดยไม่มียาชา พอเสร็จแล้วก็มีอาการแสบร้อนบนใบหน้า ผ่านไป 2-3 วันก็เริ่มตาปรือ กระทั่งวันที่ 16 ธ.ค.หนังตาเริ่มตกจนมองเห็นไม่ชัด มองแสงไม่ได้ ทำให้ตาอีกข้างปวด และใบหน้าผิดรูปเวลาพูดคุย โดยหมอที่คลินิกให้เพียงยาหยอดตา และบอกว่าประคบน้ำอุ่นเอาเดี๋ยวก็หาย แต่ตนไม่มั่นใจจึงไปหาหมอที่ รพ.ศิริราช เอง ทราบว่าปกติแล้ว สารที่ฉีดไปสามารถหายได้เองประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี แต่กรณีตนไปกระทบกับกล้ามเนื้อตามัดเล็ก ซึ่งหมอแนะนำให้กระตุ้นกล้ามเนื้อในการรักษา

น.ส.พลอย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้น มีคนกลางคอยประสานการพูดคุยกับคลินิกให้ โดยระบุว่าให้นำบิลค่ารักษาไปเบิก ซึ่งตนอยู่ต่างจังหวัด ต้องมีค่ารักษาพยาบาล ค่าที่พักและค่าเดินทาง ตอนพิมรี่พายติดต่อมา ก็พูดกับเขาว่าก่อนจะตัดสินใจใช้บริการ ตนเดินเข้าออกคลินิกเขา 2-3 รอบแล้วจะร้องไห้ แต่เพราะคิดว่าเขาเก่ง เอาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ ทำกับเขาคงไม่มีปัญหาแน่ๆ จากเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ตอนนี้ไม่อยากออกจากบ้าน และตนก็ไลฟ์สดขายของไม่ได้ และยังต้องเลี้ยงดูลูกสาวกับแม่อยู่คนเดียว ลูกสาวก็ถามว่าตนจะตาบอดไหม ทั้งนี้ก็อยากถามพิมรี่พายว่า ถ้าเป็นแบบตนจะทำอย่างไร

ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า ผู้เสียหายไปฉีดโบท็อกซ์วันที่ 12 ธ.ค.แล้วผ่านไป 2-3 วันก็เริ่มมีอาการหนังตาตก ก่อนพิมรี่พายจะติดต่อเข้ามา พร้อมออกค่าที่พักหลักพันบาทมาให้ แต่เงินค่าเยียวยาที่ชัดเจนยังไม่มี ทั้งที่บอกว่าลูกค้าคือพระเจ้า แต่ไม่เห็นลงมาดูแลเลย วันนี้จึงมาแจ้งความเอาผิดตัวหมอที่ฉีดโบท็อกซ์ และคลินิก ฐานกระทำโดยประมาทเป็นอาจให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและใจ พร้อมนำหลักฐานการตรวจร่างกายจากแพทย์มาประกอบการแจ้งความ

ด้านผู้ที่เคยใช้บริการกับคลินิกดังกล่าวอีกราย กล่าวว่า ตนมาแจ้งความเอาผิดหมอกับคลินิกเดียวกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว หลังไปฉีดฟิลเลอร์ที่ปากแล้วบวม ก่อนจะทราบว่ายาที่นำมาใช้ทำศัลยกรรมกับตนนั้นไม่น่าจะผ่านมาตรฐาน อย.โดยยาตัวนี้คือ ฟิลเลอร์นิวรามิส กล่องสีดำที่มียาชา และไม่ทราบว่าตัวเองได้ฉีดยาตัวนี้เข้าไปด้วยหรือไม่ ซึ่งมีคนติดต่อไปยังคลินิกก็ทราบว่ายาตัวนี้ยังไม่ถูกวางขาย ก็จะเรียกกันว่ายาหิ้ว จึงกังวลว่าอนาคตจะเจออะไรบ้าง โดยทางคลินิกก็นำฟิลเลอร์คนละประเภทออกมาชี้แจงจึงยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ตอนไปใช้บริการ ตนก็ไม่เห็นตัวยาที่ใช้ พอไปถึงก็นอนให้เขาฉีดเลย ก่อนจะมีเรื่องตนก็มั่นใจในตัวพิมรี่พาย และตอนนั้นก็ได้ฉีดกับหมอจริงด้วย