แม่กอดลูกชายออทิสติก รมควันดับคาเก๋ง 2 ศพ สามีเผยทะเลาะบ่อยเรื่องเลี้ยงลูก แล้วเงียบใส่กัน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสลด

(13 ส.ค.64) เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย ร.ต.อ.พงศ์พิพัฒน์ นันทวิสุทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่ง ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม หลังได้รับแจ้งมีหญิงสาวพร้อมกับลูกชายรมควันตัวเองภายในรถเก๋งที่จอดอยู่ภายในบ้าน ถึงที่เกิดเหตุพบว่าหน่วยกู้ภัยได้นำตัวทั้งสองส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ไปก่อนหน้านี้และเสียชีวิตลงแล้ว โดยมีนายชัยสิทธิ์ อายุ 58 ปี สามีของผู้เสียชีวิตยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่  

จากการตรวจสอบพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา ทะเบียน 4568 เชียงใหม่ จอดอยู่ในโรงรถในสภาพปกติ บริเวณสนามหญ้าริมรั้วห่างจากรถประมาณ 2 เมตร พบเตาอั้งโล่วางอยู่ มีเศษเถ้าถ่านตกอยู่ข้าง ๆ เตา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาเก็บหลักฐานจากตัวรถและเตาที่พบ  

จากการสอบสวน นายชัยสิทธิ์ให้การว่าตนเองมีอาชีพเป็นทนายความ ส่วนนางปาริฉัตร อายุ 36 ปี ภรรยา มีอาชีพเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ สาขาใกล้โรงพยาบาลนครพิงค์ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.00 น. ตนเองทะเลาะกับภรรยาเรื่องปัญหาในการเลี้ยงดูลูกชายวัย 10 ขวบ ที่เป็นออทิสติก ก่อนได้ออกบ้านไปทำงานที่สำนักงานทนายความของตัวเองที่เปิดอยู่ฝั่งตรงข้ามกองพันพัฒนาที่ 3 ใกล้กับโรงพยาบาลนครพิงค์ โดยมีลูกชายอยู่กับภรรยาที่บ้าน  

กระทั่งประมาณ 14.00 น. ได้โทรศัพท์มาหาภรรยา แต่ไม่รับสาย 2 ครั้ง ก่อนที่จะขับรถกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านพบว่ารถเก๋งที่จอดไว้ผิดสังเกต เนื่องจากปกติจะจอดหันหน้าออกประตูบ้าน แต่วันนี้จอดเอาหัวหัวรถเข้าบ้านทั้งที่รถคันนี้ตนเองและภรรยาไม่ได้ใช้มานาน โดยภรรยาจะใช้รถจักรยานยนต์ขี่ไปทำงานเพราะหาที่จอดง่าย ปรากฏว่าขณะกำลังจะเปิดประตูเข้าบ้าน เหลือบไปเห็นภรรยานั่งที่เบาะคนขับกอดลูกชายไว้ในอกในท่าลูกชายนั่งหันหลังให้ในสภาพแน่นิ่ง ปิดกระจกและประตูรถทุกบ้าน จึงรีบเปิดประตูออกมาก็พบว่ามีควันคละคลุ้งเต็มรถ ที่วางเท้าด้านหลังคนขับมีเตาอั้งโล่วางอยู่ ในเตายังมีถ่านที่ยังติดไฟอยู่ จึงรีบคว้าเตาออกไปโยนทิ้งข้างรถ และอุ้มลูกชายออกมาปั๊มหัวใจพร้อมกับโทรศัพท์แจ้งตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วย เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงได้ช่วยปั๊มหัวใจสองแม่ลูกนานกว่า 10 นาที  แต่ไม่พบชีพจร จึงรีบนำตัวส่งดรงพยาบาลนครพิงค์  

นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีปัญหากับภรรยาจากความเครียดในการเลี้ยงดูลูกที่ป่วยเป็นออทิสติก เนื่องจากภรรยาไม่ค่อยมีเวลาเพราะต้องทำงานทั้งกะดึกกะบ่ายสลับกันไป ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้โรงเรียนที่ลูกชายเรียนอยู่ต้องปิดการเรียนการสอนตามคำสั่งจังหวัด ทำให้ที่ผ่านมาตนเองได้พาลูกชายไปทำงานด้วย จะมีบางครั้งที่ให้อยู่กับภรรยาที่บ้านในช่วงที่ไม่ได้ไปทำงาน แต่ด้วยเวลาและความเครียดจากการเลี้ยงดูลูกชายทำให้ช่วงหลังทะเลาะกันบ่อยครั้ง เมื่อทะเลาะกันก็จะเงียบใส่กัน ไม่พูดคุยกัน จึงไม่ทราบว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ภรรยาตัดสินใจจบชีวิตพร้อมกับลูกหรือไม่  

ขณะที่เพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่าครอบครัวนี้พักอาศัยที่บ้านหลังนี้มานานหลายปี ที่ผ่านมามักจะเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร จะพบเห็นก็เพียงตอนเข้าออกบ้าน และที่ผ่านมาไม่เคยเห็นว่ามีการทะเลาะกันรุนแรงหรือเสียงดังแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ชุดสืบสวน จะต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพและผลการตรวจหลักฐานในที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่าพบสิ่งผิดปกติอะไรหรือไม่ โดยในตอนนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้สรุปสาเหตุการเสียชีวิต