แม็ก ขอโทษ หมิ่นประมาท เอ็มมี่ แม็กซิม นาทีนั้นเหมือนผีเข้า
วันที่ 23 พค. ที่ ศาลพระโขนง นักแสดงสาวเซ็กซี่ เอ็มมี่ แม็กซิม หรือ อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ และ แม็ก จิรายุทธ คันธยศ หรือ แม็ก เดอะสตาร์ เดินทางมาไกล่เกลี่ยคดีที่เอ็มมี่ฟ้องแม็กหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
โดยนักแสดงหนุ่มได้เปิดใจก่อนที่จะขึ้นไปไกล่เกลี่ยว่า “ตั้งแต่เกิดเรื่องจนมาถึงวันนี้เราเจออะไรมาเยอะ ตั้งแต่เรื่องน้อง(ทอยทอย ธนภัทร ซีรีส์วาย) และก็เรื่องข่าวที่ทำให้เราเสียหาย ส่งผลกระทบกับพ่อแม่ ยาย คนต่างจังหวัดบ้านๆ เขาก็รู้สึก แล้ววันนั้นทุกอย่างถาโถมมาทีเดียว ที่ผ่านมาผมไม่เคยพลาด ไม่เคยโมโหขนาดนี้
ทุกอย่างผมเคยยอมมาตลอด 10 กว่าปี นิ่งเงียบ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ทำอะไรก็ไม่ได้ งานก็ไม่มี พอมาเจอข่าวนี้เจอผลกระทบ ผู้ใหญ่รอเราทำงาน แต่ใจเราไม่พร้อม เพราะเรารู้สึกไม่สบายใจที่เราได้ล่วงเกินและก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ในวงการ พี่เอ็มมี่เขาก็เป็นผู้ใหญ่ในวงการคนนึง เราเป็นครู แล้วเราพลาดเอง เราอายเด็กนะ เหตุผลบางทีมันค้ำอารมณ์ไม่อยู่หรอกครับ ตอนนั้นด้วยระยะเวลา และโดนไมค์สัมภาษณ์ ถามมาเราก็ตอบ
เรารู้อยู่แล้วว่าพูดชื่อไม่ได้ ผมอาจจะพลั้งพูดชื่อพี่เขาไป ความในใจที่มี อาจจะเป็นความจริง ไม่จริงไม่รู้ ต้นสายปลายเหตุไม่รู้ แต่ด้วยคำพูดของพี่พิธีกรท่านนั้นบอกว่าผู้จัดเป็นคนส่งมา มันทำให้เราเกิดความโกรธ แต่ ณ วันนี้ ผมไม่โกรธอะไรเลย แต่พี่เอ็มมี่จะโกรธอะไรผมก็ได้ แต่วันนี้ผมอยากทำงานแล้ว วันนี้มาด้วยความสบายใจ มาพร้อมคำขอโทษ และอยากให้น้องๆ คนในวงการ เราเป็นเด็ก บางครั้งเหตุผลก็ไม่จำเป็น เราเป็นเด็ก เราทะเลาะกับผู้ใหญ่ เราก็แค่ไปขอโทษเขา”
สำนึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำไป? “สำนึกผิดอยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ดี เวลาที่เราขอโทษกับผู้ใหญ่ เราไม่ต้องหาเหตุผล เด็กก็คือเด็ก ผู้ใหญ่คือผู้ใหญ่ เราพาดพิงชื่อเขาให้เกิดความเสียหาย เราอายุแค่นี้ พี่เอ็มมี่เขาลูก 2 แล้ว คิดถึงแม่เราบ้าง ถ้าเราไปก้าวร้าวล่ะ อย่าได้ทำ เอาเคสแม็กเป็นเยี่ยงอย่าง ทุกคนผิดพลาดได้หมด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม็กไม่เคยพลาดเรื่องตอบคำถาม”
เคยนัดไกล่เกลี่ยแล้วครั้งนึงแล้วแต่ไม่เป็นผล? “ผมนัดทนายท่านหนึ่งไว้แล้ว แต่เขาบอกว่าเขาไม่ว่าง เราไม่รู้เรื่องกฎหมายจริงๆ เรียนมหาวิทยาลัยกว่าจะจบก็ 8 ปี ผมเป็นคนเรียนไม่เก่งนะ เต้นได้ ร้องเพลงได้ เล่นละครพอได้ กฎหมายไม่รู้เลย เพราะฉะนั้นเวลาตอบอะไรไปก็ไม่ทันตั้งตัว เป็นคนตรงๆ ผู้ใหญ่หลายคนบอกว่าแม็กเป็นคนตรงเกินไป เวลาตรง จริงใจมันดี
แต่อย่าลืมเวลาอยู่หน้ากล้องมันต้องเก็บไว้ อย่างตรงไปหมด แต่ผมรู้สึกการตรงเป็นสิ่งที่ดี ตั้งแต่วันที่ให้สัมภาษณ์งานนั้น ผมได้เป็นตัวของผมเองมากขึ้น ผมอยากจะโยกย้ายส่ายเอวอย่างที่ผมเป็น ผมจะเป็น LGBTQ ได้อย่างเต็มตัว แล้วก็ขอโทษพี่เอ็มมี่ แม็กซิมมากๆครับ สิ่งที่ผมทำไปมันเป็นสิ่งก้าวร้าว ไม่มีใครอยากพลาด(ร้องไห้) อายนักเรียนตัวเองมาก”
ตั้งใจจะมาเคลียร์ให้เรื่องจบวันนี้? “ใช่ เรื่องคดีแล้วแต่พี่เอ็มมี่จะเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ว่าอยากจะบอกว่าตั้งแต่โควิดมา 2 ปี ดาราหลายคนไม่มีงานเลย ดาราหลายคนเป็นซึมเศร้า มีดาราหลายคนที่เสียชีวิตจากตรงนี้ ผมสอนเต้นก็แล้ว
แต่ก็ไม่พอกินที่บ้าน ณ วันที่เราเซ็นสัญญากับค่าย ทุกอย่างดูดีไปหมด แต่เพราะเหตุการณ์ข่าวที่เราไม่ได้ทำ น้องทอยทอยก็ไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีใครอยากให้เรื่องมันเกิดขึ้น แต่พอเรื่องมันเกิดขึ้น แล้วก็มีผลเสียต่อเนื่อง แล้วเรายังโดนเอาไปพูดให้เสียหายอีก มันต่อเนื่องจนมากเกินไป มันหนักเกินไปจนมันระเบิดออกมา มันเป็นจังหวะที่เราโดนถามเรื่องพี่เอ็มมี่ด้วย มันเลยถาโถมเลยทีเดียว”
อย่างคดีตอนนี้ได้ยินว่าศาลประทับคำฟ้องของเอ็มมี่แล้ว? “ผมไม่รู้เรื่องกฎหมายเลย มีอย่างเดียวก็คือมาขอโทษเขา”
ได้คุยกับเอ็มมี่นอกรอบหรือยัง? “ไม่ได้คุยเลยครับ ผมโทรหาเขาไปรอบนึง คุณแม่เขารับ คุณแม่เขาบอกว่าพี่เอ็มมี่เขาใจดีอยู่แล้ว เดี๋ยวคุณแม่บอกให้ แต่ผมก็ยังไม่ได้คุยกับพี่เอ็มมี่ แต่ผมคิดว่าพี่เอ็มมี่เขาเป็นคนสู้เหมือนเรา ขอโทษที่เข้าใจผิดพี่ไป จะไม่สนแล้วว่าเรื่องข่าวมันเกิดขึ้นจนไปถึงพี่พิธีกรคนนั้นได้อย่างไร ไม่สนอะไรแล้ว อยากทำเพลงที่ตัวเองอยากจะทำแล้ว เราต้องเปลี่ยนเพลงจากเพลงที่มีความหมายอ่อนแอ ไม่เอาแล้ว เพลงแต่ไปจะเป็นแบบพี่มาช่า ที่เป็นสไตล์ของแม็กครับ”
คาดหวังว่าเอ็มมี่จะยกโทษให้ไหม? “แม็กไม่คาดหวัง เวลาที่เราไปพูดล้อเรียนใคร ต้องบอกก่อนวันนั้นแม็กไม่ได้หัวเราะเลย สิ่งที่แม็กทำมันเกิดจากความซีเรียส โกรธ ไม่ได้ตลก เก็บกดมาก อย่างที่บอกความจริงเป็นอย่างไรไม่สนแล้ว ตอนนั้นมันโกรธมากจริงๆ จึงทำไป คำพูดมันแรงนะ สกปรกหรือสะอาด
แต่นั้นไม่ใช่เหตุผลแล้ว วันนี้มาขอโทษพี่เอ็มมี่ เขายกโทษหรือไม่ยกโทษให้ไม่เป็นไร เดี๋ยวคนก็จะมีพูดว่ามีคนมาคอมเมนต์ว่าดาราทะเลาะกัน เดี๋ยวกระเช้า มีดอกไม้มาให้ ผมไม่มีอะไรมาครับ ผมไม่ได้ขับรถชนคนตาย เราไม่ได้ขโมยของของใคร
คือเราไม่รู้จะระบายกับใครด้วย ถ้าเรามีผู้จัดการส่วนตัว หรือคุณแม่อยู่ใกล้ เราคงระบายให้เขาฟัง แต่เรารู้สึกว่าอยากให้แม่ให้ยายที่อยู่เชียงใหม่ได้พักดีกว่า ให้ความเครียดออกสื่อก็มากพอแล้ว ผมว่าวันที่ผมให้สัมภาษณ์ครั้งนั้น ผมคิดว่าผมรับมือไหว แบกรับไว้คนเดียว ไม่ได้ปรึกษาใคร”
เราป่วยด้วยหรือเปล่า? “เราก็ได้โพสต์ไปในทวิตเตอร์ แม็กไม่มั่นใจว่าเราเป็นหรือเปล่า แต่ว่าตอนนั้นได้คุยพี่แตงโม ภัทรธิดา เขาก็แนะนำให้แม็กไปหาหมอ บอกว่าแม็กเป็นซึมเศร้า แต่แม็กไม่ยอมรับ ฉันสามารถฟังเพลงแล้วเต้นได้ ฉันเอาอยู่ ฉันอยู่มา 12 ปี ไม่ค่อยมีงาน มีละคร 3 เรื่อง ฉันยังอยู่ได้เลย ฉันทำได้แค่นี้”
ตอนแรกเราออกตัวแรง แต่พอมาครั้งนี้เรามากลับลำ กลัวกระแสสังคมไหม? “ถ้าคำว่ากลับลำ ก็เหมือนกับเด็กนักเรียน หรือนักศึกษาที่ทำอะไรผิด แล้วไม่มีสิทธิ์จะแก้ตัวเหรอครับ แม็กไม่เชื่อว่าชีวิตนึงไม่มีใครพลาด และครั้งนี้แม็กเหยียบพลาดเอง ซึ่งตั้งแต่ 2-3 ปีแรก แม็กไม่เคยพลาด แต่เพิ่งมาพลาดตอนนี้เพราะว่ามันไม่ไหวแล้ว มันแบกรับไม่ไหวแล้ว อยากให้มองว่าก่อนหน้านั้นแม็กเจออะไรมาบ้าง แล้วยอมมาตลอด”
สภาพจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? “ขอบคุณติ๊กต็อกมาก เราแสร้งมีความสุข แต่พอเรามาดูจริงๆ โคตรหนัก(ร้องไห้) ไม่อยากร้องไห้ เดี๋ยวคนหาว่าแสดง มันไม่จำเป็นต้องแสดง เพราะ 12 ปีที่เจอมามันหนักมากพอแล้ว ถ้าผมเป็นดาราดังแล้วโดนแบบนี้ ผมคงพราว แต่นี่งานก็ไม่ค่อยมี แล้วโดนข่าวไม่ดีมาตลอด โดนดักทุกทางเลย แล้วจะให้ยืนอยู่ได้ไง
อย่าลืมว่านักแสดงถ้าย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ถ้าเป็น LGBTQ หรือเป็นเกย์ ไม่ได้รับการยอมรับ พอมีข่าวปุ๊บ ผู้จัดเขาไม่เอาเราแน่นอน ละครที่กำลังจะได้ เราก็ต้องเสียมันไป แต่ ณ วันนี้ผมเป็นตัวเองมากขึ้น วันที่ให้สัมภาษณ์ครั้งนั้นรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เหมือนผีเข้า ปีศาจเข้า ไม่คิดว่าตัวเองเป็นได้ขนาดนั้น เลยทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง อย่างพี่เอ็มมี่เขาเสียชื่อเสียง ขอโทษจริงๆครับ”
ขอบคุณรูปจากไอจี : maximzz