แฟลช คอฟฟี่ (Flash Coffee) เชนร้านกาแฟที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ลงทุนโดย ร็อคเก็ต อินเตอร์เน็ต (Rocket Internet) ได้แถลงว่า บริษัท ฯ ประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบซีรีส์ เอ เป็นจำนวนเงินถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยมี ไวท์สตาร์ แคปิตอล (White Star Capital) ร่วมกับกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บริษัทลูกของเดลิเวอรี่ ฮีโร่ (Delivery Hero) อย่าง ดีเอ็กซ์ เวนเจอร์ส (DX Ventures) โกลบอล ฟาวน์เดอร์ แคปิตอล (Global Founders Capital) และ คอนนี แอนด์ โค (Conny & Co.) ร่วมลงทุน สำหรับการระดมทุนรอบซีรีส์ เอ ครั้งนี้ ทำให้การระดมทุนรวมของ แฟลช คอฟฟี่ อยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินลงทุนก้อนนี้จะถูกนำไปขยายสาขาใน 10 ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
แฟลช คอฟฟี่ ก่อตั้งขึ้นโดย มร.เดวิด บรูเนียร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ มร.เซบาสเตียน ฮานเน็คเกอร์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการและ ประธานฝ่ายการเงิน เพื่อเสิร์ฟกาแฟระดับพรีเมียมให้เข้าถึงกลุ่มคนชั้นกลางที่กำลังเติบโตในเอเชีย ทั้งนี้ จากประสบการณ์ของเดวิดในฐานะซีเอ็มโอของฟู้ดแพนด้า (foodpanda) และเซบาสเตียน ที่เคยทำงานกับ เบน คอนซัลติ้ง (Bain Consulting) ได้ช่วยสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ที่คล่องตัวแบบ “แกรบ แอนด์ โก” ของแฟลช คอฟฟี่ ซึ่งทำให้ประหยัดต้นทุนได้อย่างมาก และลูกค้าก็สามารถจ่ายได้ในราคาที่เอื้อมถึง
“เราฝันที่จะเห็นแฟลช คอฟฟี่ ในทุกระยะ 500 เมตรของเมืองหลัก ๆ ในเอเชีย การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากนักลงทุนในการระดมทุนรอบซีรีส์ เอ นั้น ทำให้เราสามารถจับศักยภาพใหม่ๆ ของตลาดในภูมิภาค รวมทั้งต่อยอดความสำเร็จเพิ่มในอีก 7 ตลาดใหม่สำหรับปีนี้ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม นอกจากนี้ เรายังมีแผนเปิดสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์ และขยายฐานเทคโนโลยีในจาการ์ตาโดยเพิ่มทีมงานเป็น 50 อัตรา รองรับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้านั้นดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในเชิงรุก พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงานอย่างมีนัยยะสำคัญ” เดวิดกล่าว
สำหรับประเทศไทยซึ่งถือเป็นตลาดที่ตอบรับเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ธุรกิจของแฟลช คอฟฟี่ ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เห็นได้จากการเปิดสาขาไปแล้วถึง 31 สาขาในอาคารต่าง ๆ ตามย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ ทั้งนี้ ด้วยบรรยากาศการลงทุนเชิงบวก พร้อมกับการระดมทุนรอบซีรีส์ เอ ที่จะช่วยเสริมให้ธุรกิจในภูมิภาคเติบโตยิ่งขึ้นในครั้งนี้ จะส่งผลให้ แฟลช คอฟฟี่ ในเมืองไทยขยายตัวได้มากขึ้นอีกในปีนี้
นายแพน ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟลช คอฟฟี่ ประเทศไทย กล่าวว่า “แฟลช คอฟฟี่ มีความตื่นเต้นกับการขยายตัวของธุรกิจในประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยการระดมทุนซีรีส์ เอ จะช่วยให้แฟลช คอฟฟี่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานครได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากแผนการเพิ่มจำนวนช็อปของเราในประเทศไทยอย่างรวดเร็วแล้ว แฟลช คอฟฟี่ก็กำลังจะเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ในเดือนเมษายนนี้ด้วย รวมทั้งเตรียมเฟ้นหาบุคลากรที่มีความสามารถระดับทริปเปิ้ลเอเข้ามาร่วมงานกับเราเพื่อมุ่งสร้างให้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมายในปี 2564 นี้”
ด้าน อีริค มาร์ติโน-ฟอร์แตง ผู้ก่อตั้ง และผู้ร่วมทุนบริหาร บริษัท ไวท์สตาร์ แคปิตอล กล่าวว่า “เรายินดีที่จะผลักดันให้แฟลช คอฟฟี่ ได้นำประสบการณ์ใหม่ๆ ไปสู่ลูกค้าอีกนับล้านคนในเอเชีย เราเชื่อว่าจุดยืนของแบรนด์ในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะสามารถขับเคลื่อนการให้บริการเครื่องดื่มกาแฟคุณภาพสูง พร้อมประสบการณ์การบริการอันยอดเยี่ยมได้ ซึ่งจะนำไปสู่การตอบสนองความต้องการกาแฟระดับพรีเมียมในราคากันเองของตลาดเอเชียที่เติบโตอย่างรวดเร็วแห่งนี้”
ส่วน เบรนดอน แบล็คเคอร์ ผู้ร่วมทุน บริษัทดีเอ็กซ์ เวนเจอร์ กล่าวว่า “ดีเอ็กซ์ เวนเจอร์ รู้สึกตื่นเต้นกับการเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนแฟลช คอฟฟี่ ในการระดมทุนซีรีส์ เอ และยังได้เพิ่มการลงทุนในบริษัทนี้มากขึ้นอีกด้วย ดีเอ็กซ์ เวนเจอร์เห็นว่าธุรกิจนี้มีศักยภาพสูงที่จะจูงใจลูกค้าประจำที่ชื่นชอบเมนูกาแฟแบบพรีเมียมที่มาพร้อมกับสร้างสรรค์ในนวัตกรรมใหม่ โดยเราพร้อมที่จะสนับสนุนแฟลช คอฟฟี่ ให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วตามแผนต่อไป”
แฟลช คอฟฟี่ เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2563 มีสาขารวมทั้งสิ้น 50 แห่งในประเทศสิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซีย และสามารถทำรายได้ได้ดีในทุกตลาดแม้จะอยู่ในสภาวะของการแพร่ระบาดใหญ่ก็ตาม โดยการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาของสาขาส่วนใหญ่สามารถที่จะทำกำไรได้ และสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของโมเดลธุรกิจของบริษัทฯ ปัจจุบัน แฟลช คอฟฟี่ เปิดสาขาใหม่เฉลี่ย 3 สาขาต่อสัปดาห์ ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แฟลช คอฟฟี่ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกสามเท่า หรือเปิดสาขาใหม่เป็น 10 สาขาต่อสัปดาห์ เพื่อให้มีสาขารวม 300 สาขาทั่วภูมิภาคภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ แฟลช คอฟฟี่ ตั้งเป้าหมายที่จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมกาแฟซึ่งเป็นธุรกิจในลักษณะออฟไลน์ให้มาอยู่บนออนไลน์ให้สำเร็จด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับการใช้งานของลูกค้าที่สามารถมีบริการการรับสินค้า ระบบสมาชิกที่น่าสนใจ โปรโมชั่นแบบเข้าถึงตัวบุคคล รวมทั้งกิจกรรมที่สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในหลากหลายช่องทาง ในส่วนของแอปพลิเคชั่นสำหรับบาริสต้านั้น ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละสาขา รวมถึงการสร้างอินเซนทีฟจากผลงานของบาริสต้าเองด้วย ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างความมั่นใจในการให้บริการอันเหนือชั้นแก่ลูกค้าของแฟลช คอฟฟี่
ข่าวประชาสัมพันธ์