‘วาน้อย’ แฟนเก่า ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคลื่อนไหวแล้ว หลังนักร้องสาวประกาศเลิก-ขอดำเนินคดี เผยเจอของจริง ทำได้แค่นี้น่าเวทนาจริงๆ วงการบันเทิงอะเนอะ
เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อ เบียร์ เดอะวอยซ์ ออกมาเปิดเผยว่าได้เลิกกับเกมเมอร์หนุ่ม ว.น. แล้ว และพูดถึงเรื่องที่ถูกอีกฝ่ายคุกคาม ทั้งบุกรุกบ้าน พูดข่มขู่ และถูกทำร้ายร่างกาย จนส่งผลต่อสภาพจิตใจ
โดยระบุว่า ช่วงนี้ที่เบียร์กับ ว.น. ไม่มีคลิปหรือรูป และเอ่ยถึงกันเหมือนเดิมแล้ว เพราะตอนนี้เราทั้งคู่ได้จบความสัมพันธ์ในฐานะแฟนแล้วนะคะหลังจากนี้
ช่วงนี้ที่เบียร์ไม่ได้อัพเพจเลย เพราะเบียร์เพิ่งเจอเรื่องที่กระทบต่อจิตใจมากๆ คือการบุกรุกบ้าน พูดจาข่มขู่ และมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น เบียร์เสียสุขภาพจิตค่อนข้างนาน ก่อนที่จะเริ่มดีขึ้น และพร้อมออกมาบอกแฟนๆให้รับรู้ถึงสุขภาพจิตของเบียร์ตอนนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบียร์ถือว่าเป็นการคุกคาม และเบียร์ขอยืนยันจะดำเนินคดีตามความเหมาะสม เพื่อตักเตือนการกระทำที่ไม่ถูกต้องนี้ ความปลอดภัย และความเป็นธรรมกับเบียร์
การโพสต์ครั้งนี้ เบียร์หวังว่าจะไม่มีการกระทำข่มขู่ใดๆ เกิดขึ้นอีก และไม่ว่ากับเบียร์หรือกับใครด้วย วานผู้ปกครองช่วยดูแลด้วยนะคะ เพราะบอกตรงๆ ว่าเบียร์มีการขอความช่วยเหลือและปรึกษาทางผู้ใหญ่แล้ว ได้รับว่าจะมีการจัดการที่เหมาะสม แต่เบียร์ก็โดนคุกคามเช่นนี้จนได้
เบียร์พยายามเจรจาอย่างประนีประนอม อย่างเต็มที่แล้วจริงๆ แต่สุดท้ายมันต้องลงเอยแบบนี้จริงๆ ค่ะ มันซอฟสุดเท่าที่เบียร์จะทำได้แล้ว หวังว่าน้องจะสำนึกผิดและปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นได้ในเร็ววัน เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับแฟนคลับเด็กๆ ที่ตามและเพื่อสังคมที่ดีขึ้น
เบียร์ขอความกรุณาให้จบในโพสต์นี้ ไม่สัมภาษณ์เพิ่มเติม ไม่ตัดต่อ หรือตัดทอนตัวหนังสือ อยากจบเรื่องทั้งหมดนี้และต่างคนต่างเริ่มชีวิตใหม่ของตัวเองนะคะ ขอ comment กันอย่างมีเหตุผลนะคะ หลีกเลี่ยงความเห็นที่หยาบคายหรือรุนแรงด้วยนะคะ และมาเป็นกำลังใจให้สังคมน่าอยู่ขึ้นกันเถอะค่ะ
หลังจากเรื่องราวนี้เป็นไวรัลไปได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ล่าสุด “วาน้อย Wanoiz” เกมเมอร์หนุ่ม ซึ่งเป็นแฟนเก่าของเบียร์ เดอะวอยซ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความสั้นๆ ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า… “เดะเจอของจริง ทำได้แค่นี้น่าเวทนาจริงๆ 555555555” นอกจากนี้ยังได้โพสต์อีกหนึ่งข้อความลงบนเพจของเขาว่า… “วงการบันเทิงอะเนอะ 555555”
สำหรับเรื่องราวในความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร คงต้องรอฟังความจริงจากทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้ง