แพรรี่-จตุรงค์ VS ทนายธรรมราช ซัดเดือดกลางโหนกระแส ลั่นฟ้องมาฟ้องกลับ ปมร้อนพระชาตรีฟาด ก่อนเจอฟาดกลับ-แฉแหลก
กรณี “พระชาตรี เหมพันธุ์” เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร วัดไทยในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ไลฟ์ผ่านเฟสบุ๊ก พาดพิง “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังอย่างเผ็ดร้อน ทำนองเนรคุณพระพุทธศาสนา จิกเรียกว่าอี ขณะที่ไพรวัลย์ สวนกลับเรียกว่าไอ้หัวโล้น ไม่ใช่สายเลีย ทำมาทวงบุญคุณ ต่อมา “ทนายธรรมราช” ได้โพสต์ภาพขึ้นโรงพักเมืองฉะเชิงเทรา แจ้งความเอาผิดไพรวัลย์ ในข้อหาดูหมิ่นพระชาตรีให้ได้รับความเสียหาย
รายการโหนกระแสวันที่ 23 ก.ย. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ไพรวัลย์ หรือ แพรรี่ และ อ.จตุรงค์ จงอาษา ผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาสนา
สวยมาก?
แพรรี่ : ขอบพระคุณค่ะ เพื่อรายการนี้เลยนะคะ
เราเจอกันครั้งสุดท้าย ตอนนั้นเรื่องอะไร?
แพรรี่ : เรื่องสันเขื่อนมั้งคะ แล้วก็ไม่ได้เจออีกเลย เอาจริงๆ รายการนี้ดิฉันค่อนข้างกลัว ถ้าไม่จำเป็นอย่ามาเลยค่ะ (หัวเราะ)
มันเกิดอะไรขึ้น จากวันนั้นที่เราเจอกันเรื่องกาโตะ วันนี้คุณเปลี่ยนแปลงแล้ว?
แพรรี่ : ดิฉันก็เปิดเผย ตรงไปตรงมา ดิฉันชัดเจนตั้งแต่ตอนต้นๆ สึกออกมาแล้วนะคะ แต่ว่าเพิ่งมาเปลี่ยนลุคจัดเต็มเมื่อไม่นานมานี้ เริ่มใส่วิก ใส่ชุดผู้หญิงบ้าง เพราะเราอยากเปลี่ยนแนวเปลี่ยนสไตล์
ทวิตเตอร์บอกว่าขอเอฟวิกแพรรี่?
แพรรี่ : ไม่ได้ค่ะนี่วิกคู่ใจ มาตีจินตหราค่ะ
จริงๆ ไม่ได้ผิดอะไรเลย เราเป็นสิ่งไหนเราก็สามารถเปิดเผยตัวตนเราได้ เพราะโลกเปลี่ยนไปหมดแล้ว?
แพรรี่ : ดิฉันสนับสนุนให้ทุกคนซื่อสัตย์กับตัวเองค่ะ
ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ขึ้น ไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านออกมาพูด รู้จักท่านมั้ย?
แพรรี่ : ไม่รู้จักชื่อท่านมาก่อนเลยค่ะ เอาตรงๆ แต่พอมีประเด็น มีคนส่งคลิปอันนี้ เขาน่าจะเป็นคนฟังเทศน์พระรูปนี้เป็นประจำ บังเอิญเขาไปฟังไลฟ์สดอันนั้นพอดี เขาก็เลยเห็นว่าพระรูปนั้นพาดพิงดิฉัน ก็เลยส่งคลิปนั้นมา ดิฉันฟังแล้วพูดตรงๆ เราเป็นฆราวาสแล้ว เราได้ยินคนมาเรียกแบบนี้ เรารู้สึกว่ามันไม่ให้เกียรติเรา มีการเรียกเราว่าอี มีการกล่าวหาเราในคลิปนี้เยอะนะคะ เช่นเนรคุณ เหยียบย่ำบ้าง กำพร้าบ้าง ยิ่งเป็นพระยิ่งสมควรโดน นะคะ นะคะ อย่าคิดว่าพระเทศน์ได้คนเดียว ดิฉันก็เทศน์ให้พระฟังได้ค่ะ ดิฉันก็เลยตอบโต้
ในสิ่งที่ท่านพูดมา ท่านบอกว่าตอนมันบวชเหมือนนักวิชาการทางพระพุทธศาสนา คิดว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พุทธศาสนา ในที่สุดก็สึก คำนี้ในมุมแพรรี่ มองยังไง?
แพรรี่ : ดิฉันว่าคนจะเป็นกำลังสำคัญทางพุทธศาสนา ไม่จำเป็นต้องห่มเหลืองนะคะ อย่าคิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะที่มีบทบาทสำคัญ ทุกวันนี้สังคมเขาเปิดกว้างและฉลาดที่จะเลือกฟังใครก็ได้ที่มีความรู้ หรือความสามารถที่จะให้ความรู้ด้านศาสนา เช่นอ.จตุรงค์หรือใครนี่แหละค่ะ ฉะนั้นไม่จำเป็นว่าเป็นกำลังทางศาสนาต้องห่มเหลือง ดิฉันฟังแล้วก็ว่าไม่แฟร์ ไม่ใช่นะคะ
แล้วก็บอกว่าเป็นลูกชาวนา?
แพรรี่ : ท่านก็เป็นลูกชาวนาค่ะ เป็นลูกมหาเศรษฐีเหรอคะ มาบวชก็ลูกชาวบ้านทั้งนั้นแหละค่ะ มาพูดทำไม ดิฉันไม่ได้ข้าวน้ำจากวัดค่ะ ดิฉันได้ข้าวน้ำจากชาวบ้าน พระไปรอใส่บาตรกันเองเหรอคะ ตื่นเช้ามาไปบิณฑบาตเนี่ย ดิฉันถาม กินข้าวชาวบ้านทั้งนั้นแหละค่ะ สำเหนียกเถอะค่ะ ที่วัดไม่มีอะไรเหรอคะ ว่างๆ ก็ให้ตักน้ำใส่บาตรส่องกันดูบ้างค่ะ
ท่านเป็นพระปฏิบัติมั้ย อยู่ที่รัสเซีย?
แพรรี่ : ดิฉันอยากบอกว่าดิฉันมีข้อมูลเกี่ยวกับพระรูปนี้เยอะมากนะคะ ถึงขณะนี้ก็มีส่งข้อมูลมาเยอะมาก หลากหลายเรื่อง ซึ่งดิฉันพร้อมเปิดเผย ถ้าท่านไม่หยุด มีหลักฐาน มีสลิปเรื่องการโอนเงิน มีภาพถ่าย ดิฉันเตือนท่านนะคะ
เรื่องการโอนเงินคืออะไร?
แพรรี่ : ก็กู้ยืมเงินฆราวาสแล้วไม่ใช้คืนไงคะ เรื่องทุนการศึกษาเด็กที่ไปเรียนต่างประเทศ แล้วไปบอกว่าจะให้ทุนการศึกษาเขา หนูไม่อยากพูดเพราะไม่ใช่เรื่องของหนู
ท่านอาจถ่ายแล้วไม่ได้โชว์ใครหรือเปล่า?
แพรรี่ : มันมีวิดีโอสิ้นสุดลงแล้วข้างบนแชต เห็นมั้ยคะ พี่หนุ่มมีไลน์มั้ยคะ นี่แหละค่ะ ส่งไลน์ คุยไลน์ ฟ้องมาเลยค่ะ ดิฉันมีภาพแบบไม่เบลอด้วย บอกเลย ดิฉันฝากบอกทนายที่จะฟ้องดิฉันค่ะ กูมีข้อมูลลูกพี่มึงเต็มเลยค่ะ ช่วยฟ้องกูเลยค่ะ จะได้เอาข้อมูลยืนยันนะคะ มึงถือหางอลัชชีนะคะ แล้วทำเป็นคนพุทธ พระถึงทำตัวเป็นอันธพาลเป็นมาเฟียไม่เกรงกลัว ก็เพราะมีพวกทนายนี่แหละค่ะ คอยจ้องว่าใครออกมาพูดจะฟ้องๆ กูไม่กลัวมึงค่ะ
อ.จตุรงค์ : ผมกลับดีกว่า ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เขาพูดไปหมดแล้ว (หัวเราะ)
กรณีแบบนี้ มุมความเป็นพระ แล้วคำพูดที่พระชาตรีท่านได้พูดออกมา เหมือนตักเตือนหรือให้โอวาทอะไรมั้ย?
อ.จตุรงค์ : ตามพระวินัย จะแสดงธรรม ให้โอวาทใครเขาต้องให้อาราธนาขอก่อน ถ้าไม่อาราธนาแล้วไปทะลึ่งแสดงธรรมโดยชาวบ้านชาวช่องเขาไม่ได้ขอ ก็โดนอาบัติไปแล้วหนึ่งข้อ ถ้าจำไม่ผิด แสดงธรรมโดยไม่มีใครอัญเชิญ แล้วการจิกหัวด่า ไอ้ลูกกำพร้า ไอ้เนรคุณ อีนั่นอีนี่ ผมว่าโดนไปอีก คำพูดแบบนี้ภิกษุไม่ควรใช้ จะเป็นพระรัสเซียหรือพระไทย แต่ต้นสังกัดท่านอยู่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ไปถามท่านเจ้าคุณสมภารวัดชลประทานฯ ว่าพระรูปนี้เอาไง จริงๆ ช่อง 3 หรือนักข่าวทุกช่อง ควรส่งนักข่าวหรือสติงเกอร์ไปถามท่านเจ้าคุณสมภารวัดชลประทานฯ ว่าการที่พระลูกวัดคุณไปอยู่รัสเซียแล้วสำรอกข้อความแบบนี้
เรื่องนี้สร้างความคับอกคับใจให้เรามาก ท่านชาตรีพูดมาถึงคุณแพรรี่ ใช้คำพูดแบบนี้ ถือว่าเป็นการเหยียดมั้ย?
แพรรี่ : มันเป็นการหมิ่นประมาทชัดเจนเลยนะคะ ว่าดิฉันเนรคุณ คำว่าอีไม่เท่าไหร่ แต่พูดถึงดิฉัน กล่าวหาว่าดิฉันเนรคุณศาสนา ดิฉันรู้สึกว่าไม่แฟร์ ดิฉันก็อยากทำให้เห็นว่าคนที่เนรคุณศาสนาคือใคร และมีพฤติกรรมและการกระทำอย่างไร ดิฉันก็จัดให้เลยค่ะ
ความหมายของท่านชาตรี คืออะไร?
แพรรี่ : เขาชอบกล่าวหาว่าดิฉันออกมาโจมตีพระนี่แหละค่ะ ประเด็นคือทุกครั้งที่ดิฉันออกมาพูดเรื่ององค์กรทางศาสนา ดิฉันหวังดี อยากให้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มันก็จะมีพระประเภทอลัชชีบ้าง พวกวัวสันหลังหวะบ้างกลัวตัวเองถูกแฉ กลัวตัวเองเสียสถานะ เสียอภิสิทธิ์อะไรบางอย่างที่ตัวเองมี ก็จะออกมากล่าวโจมตีดิฉันว่ามึงอย่าแฉพวกกู คำว่าอย่าเนรคุณคืออย่าแฉพวกกู เท่านั้นแหละค่ะ พูดให้ชัดไปเถอะ เป็นพระต้องชัดเจนนะคะ
ล่าสุดคุณถูกฟ้องจากทนายธรรมราช?
แพรรี่ : ทราบค่ะ โฟนอินเดี๋ยวนี้เลยค่ะ รออยู่
อยู่ในสายกับ “ทนายธรรมราช” วันนี้ขอให้จบตรงนี้ คดีความพระชาตรีก็ว่ากันไป แต่ตรงนี้ไม่มีการฟ้องร้องกันโอเคมั้ย?
ทนายธรรมราช : คือประเด็นที่คุยกันเบื้องต้น ไม่เกี่ยวข้องในคดีครับ
ทนายไปแจ้งความทำไม ไปเกี่ยวข้องอะไรกับเขา มันใช่เรื่องทนายหรือเปล่า?
ทนายธรรมราช : เบื้องต้นที่ผมไปกล่าวโทษ เนื่องด้วยมีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์ อันก่อให้เกิดความเสียหายหรือแตกแยก มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งข้อหาความผิดนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน การกระทำดังกล่าวของแพรรี่ ผมมองเห็นแล้วว่าผิดกฎหมาย จึงนำหลักฐานไลฟ์แพรรี่ในวันนั้นไปมอบให้พนักงานสอบสวน ด้วยวันเวลาดังกล่าว ผมอยู่ตรงนั้นพอดี ผมได้รับข่าวมาว่ามีการพูดพาดพิงถึงพระสงฆ์ ซึ่งพระสงฆ์รูปนั้นผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวมาก่อน ถึงวันที่ไปกล่าวโทษ ด้วยเหตุนี้ จึงนำพยานหลักฐานดังกล่าวไปมอบให้พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนตรวจสอบแล้วเห็นว่าเข้าข่ายความผิด จึงรับคำกล่าวโทษไว้ และมอบพยานหลักฐานจำนวน 10 แผ่นไว้เบื้องต้นก่อน หลังจากนั้นจะนำหลักฐานไปให้เพิ่มเติมในอาทิตย์หน้าต่อไป
ทนายธรรมราชจะบอกว่าเราเองอยู่ใต้ร่มพระพุทธศาสนา พอเห็นว่าแพรรี่พูดแบบนี้ ทำให้พระชาตรี ซึ่งมองว่าไปต่อว่าพระ ไปต่อว่าสงฆ์ จึงไปแจ้งความเอาผิด ถูกมั้ย?
ทนายธรรมราช : ถูกต้องครับ
แล้วที่พระใส่ความประชาชน มันไม่ผิดเหรอ?
ทนายธรรมราช : ประเด็นที่พระชาตรีกล่าวถึงแพรรี่ในลักษณะที่ปรากฏตามคลิป เป็นความผิดส่วนตัว แพรรี่สามารถไปร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับพระรูปดังกล่าวได้เลย เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย
แต่แพรรี่ไม่มีสิทธิ์ไปว่าสงฆ์?
ทนายธรรมราช : แพรรี่นำคลิปดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อ แล้วต้นรายการที่สองท่านได้กล่าวถึงพระชาตรี แต่พระชาตรีไม่ได้อยู่ในที่ตรงนี้ เมื่อกล่าวถึงในลักษณะทำให้เกิดความเสื่อมเสีย เสียหาย เป็นธรรมกับพระชาตรีผู้ที่ไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้หรือไม่ อันนี้ให้ผู้รับชมได้พิจารณา
แพรรี่ : เขาก็เชิญแล้วให้โฟนอินออกรายการไงคะ ถ้ากล้าจริงก็ให้โฟนอินเข้ารายการ เขาไม่โฟนล่ะคะ แล้วมาบอกว่าไม่เป็นธรรมอะไรคะ รายการเชิญนี่คะ ทำไมไม่เข้ามา
ทนายธรรมราช : เขาไม่ได้เข้ามา คุณก็ไม่ควรไปพูดถึงเขา
แพรรี่ : ดิฉันจะพูดค่ะ ธรรมราช ดิฉันมีข้อมูลเยอะแยะเลยค่ะ
ทนายธรรมราช : คุณพูดได้ เป็นสิทธิ์ของคุณ แล้วถ้าทำให้เกิดความเสื่อมเสีย เสียหาย ก็อาจถูกดำเนินคดีต่อไปนะครับ บอกไว้ตรงนี้ แล้วคดีที่ร้องทุกข์กล่าวโทษที่ฉะเชิงเทราคดีนี้ไม่มีหยุด เดินต่อนะ
แพรรี่ : เดินไปเลยค่ะ รีบๆ เดิน อย่าเดินช้าด้วยนะคะ
อ.จตุรงค์ : พนักงานสอบสวนเขาว่ายังไง อัยการเขาว่ายังไง คุณอย่าพูดเองเออเอง พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ยืนยันเลยว่าจะรับฟ้อง อัยการจะฟ้องหรือเปล่า แล้วมาตรา 44 ผมก็มีทนายส่วนตัวเหนือกัน เขาเป็นทนายที่แยกไม่ออกระหว่างคณะบุคคลกับบุคคล การต่อสู้กันระหว่างบุคคลกับบุคคล เขาถกเถียงกันแล้วคุณไปเหมารวมเป็นคณะบุคคล เป็นคณะสงฆ์ ตายอย่างนี้ คุณไปเพิ่มอภิสิทธิ์ให้พระรูปใดรูปนึง แล้วที่สำคัญ คุณไม่มีอำนาจเลย ไม่งั้นเขาจะมีสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติไว้ทำไม จะมีพระสังฆาธิการทำไม ถ้าสงฆ์เดือดร้อน เดี๋ยวสงฆ์ให้สำนักพุทธออกมาฟ้องเอง
ทนายธรรมราช : ข้อหานี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดินนะ ไม่เจาะจงว่าเป็นบุคคลใดไปกล่าวโทษ เมื่อประชาชนคนใดก็แล้วแต่เห็นพระสงฆ์ถูกกระทำ ละเมิดต่อกฎหมาย เห็นแล้ว มีพยานหลักฐาน ใครก็ได้ที่เป็นลูกศิษย์ลูกหา เป็นพุทธศาสนิกชน นำพยานหลักฐานในส่วนนี้ไปมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอหน่วยงานรัฐ งั้นแบบนี้บ้านเมืองต้องให้ศาสนาเสียหาย ต้องรอสำนักพุทธอย่างเดียวเหรอครับ ผมถามอาจารย์หน่อย ในฐานะที่ท่านให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่าประชาชนอย่างผม ทำไมไม่มีสิทธิ์ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ทั้งที่พระสงฆ์ ทำไมมีมาตรานี้ขึ้นมา เมื่อเห็นความเดือดร้อนของพระสงฆ์ ถ้าท่านไปดำเนินการเองก็ถูกตำหนิติเตียนอีก
คุณจะบอกว่าประชาชนมีสิทธิ์ไปร้องได้ แพรรี่ เชิญ?
แพรรี่ : ดิฉันมีข้อมูลเยอะมากนะคะ เกี่ยวกับชาวบ้านตาดำๆ ที่เขาไม่มีปากมีเสียง เขาถูกคนที่เรียกตัวเองว่าภิกษุ คณะสงฆ์ แบบที่ทนายบางคนกำลังยกหางอยู่ หลอกลวง มีหลักฐานการเงิน เช่นกู้เงินแล้วใช้ไม่หมด กลุ่มนักศึกษาที่ถูกส่งภาพอนาจารเยอะแยะ ดิฉันอยากเห็นทนายบางคนที่อ้างพระพุทธศาสนา ออกมาปกป้องและกำจัดอลัชชีพวกนี้ค่ะ ไม่ใช่ไปโหนเห็บไรพระพุทธศาสนาค่ะ
ทนายธรรมราช : ตรงนี้เป็นเรื่องที่ดี ถ้าเป็นจริงอย่างว่า ช่องทางกฎหมายเอาไปร้องเลย
แพรรี่ : ไม่ต้องช่องทางค่ะ เดี๋ยวจะส่งข้อมูลให้ แล้วให้คนที่เชื่อว่าทนายธรรมราชที่บอกว่าต้องการปกป้องศาสนา ทำค่ะ ดิฉันอยากรู้ว่าคุณเลือกเคสบายเคสหรือเปล่า หรือพร้อมทำเพื่อศาสนามั้ยคะ
ทนายธรรมราช : ต้องไม่ใช่ด่าพระ เอาเรื่องแบบนี้มาเผยแพร่ให้แพร่หลาย
แพรรี่ : ทำไมเผยแพร่ไม่ได้คะ เป็นคนพุทธจริงหรือเปล่าคะ พระพุทธเจ้าสอนสาวกว่าเมื่อมีคนติเตือน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เธอไม่ควรแสดงอาการเดือดดาลใจนะคะ ถ้าเธอเดือดดาลใจ เธอจะรู้ถ้อยคำของคนเหล่านั้นได้ยังไง
ทนายธรรมราช : ผมอยากถามเรื่องเปรียญ 9 ที่เรียนมาหน่อย บวชเรียนมาแล้วกี่ปี เอามาปฏิบัติได้หรือไม่ รู้หมดทุกอย่างเลย
แพรรี่ : ศีลห้าค่ะ ทำไมจะปฏิบัติไม่ได้คะ นี่ฆราวาสนะคะ ทำไมคุณ คุณธรรมราชถือศีล 8 เหรอคะ เสนอหน้ามาเตือนอะไรดิฉันคะ ศีลห้าไม่ต้องเสนอหน้ามาบอกค่ะ
ทนายธรรมราช : คุณไปด่าพระสงฆ์ ศีลห้าคุณครบแล้วหรือยัง
แพรรี่ : ดิฉันด่าอลัชชี ด่าเหลือบไรค่ะ ห่มเหลืองไม่ได้เป็นพระทุกรูปนะคะ การเป็นพระไม่ได้วัดกันที่ห่มเหลืองค่ะ
ทนายธรรมราช : คุณด่าเขาฝ่ายเดียวนะ
แพรรี่ : พระไม่มีปากเหรอคะ พระยังเรียกดิฉันว่าอีได้เลยค่ะ เมากาวหรือว่าอะไรคะ
ทนายธรรมราช : การที่คุณจะไปพูดถึงพระสงฆ์ คุณมีหลักฐานอะไรก็ตามแต่ คุณสามารถดำเนินการได้เลยตามขั้นตอนของกฎหมาย แล้วประเด็นเรื่องเมากาว ศีลแปด ผมก็ไม่เคยบอกว่าผมศีลห้า หรือศีลแปด แต่ผมอยากถามมหาไพรวัลย์เปรียญเก้า คุณแยกแยะไม่ออกเลยเหรอว่าการที่คุณไปด่าพระมันผิดศีลหรือไม่ คุณบอกศีลห้า คุณด่าพระผิดศีลมั้ย
แพรรี่ : ในสมัยพุทธกาล อย่าว่าแต่ด่าเลยนะคะ ถ้าพระทำผิด เขาถีบเลยค่ะ เขาเตะตูดให้มึงสึกเลยค่ะ ถ้ามึงต้องปราชิก แล้วมึงปกปิด มึงเป็นตาลยอดด้วนแล้วยังห่มห้ากาสาวพัสตร์ กูพูดชัดเจนนะคะ กูด่าอลัชชี ด่าคนทำตัวไม่ดีค่ะ และทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะด่า กูก็เสียภาษีเหมือนมึงค่ะ ไอ้ทนายธรรมราช จะพูดตรงนี้เลย แล้วเงินที่เสียภาษี เอาไปอุดหนุนพุทธศาสนา ฉะนั้นคนพุทธทุกคนมีสิทธิ์ติติง มีสิทธิ์วิจารณ์คณะสงฆ์ได้ พอๆ กับที่คณะสงฆ์เทศน์ฆราวาสค่ะ
ทนายธรรมราช : คำว่าสิทธิ์ที่คุณกล่าวอ้าง สิทธิ์ที่ว่าสิทธิ์ตามบทบัญญัติกฎหมายข้อไหน ผมถามแพรรี่หน่อย แพรรี่เรียนจบกฎหมายมั้ย
แพรรี่ : อยู่ในประเทศประชาธิปไตยนะคะ มีสิทธิและเสรีภาพในการพูดค่ะ แล้วถ้าพูดอะไรไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็รับผิดชอบคำพูดของกูไงคะ ผิดตรงไหนคะ
ทนายธรรมราช : ถูกต้องครับ แพรรี่มีสิทธิ์พูด แต่ถ้าการพูดของแพรรี่ขัดต่อกฎหมาย แพรรี่ก็จะถูกดำเนินคดี ถูกต้องมั้ย
แพรรี่ : ก็ดำเนินคดีไปสิคะ ดิฉันก็มีสิทธิ์ฟ้องกลับ ฟ้องไปสิ แต่จะบอกว่าไม่มีสิทธิ์ด่าไม่ได้ค่ะ คุณอย่าหลงประเด็นค่ะ คุณบอกว่าดิฉันไม่มีสิทธิ์ด่า ซึ่งดิฉันมีสิทธิ์ด่า แค่นั้นเอง นี่คุณจบกฎหมายนะคะ ดิฉันไม่ได้จบนะคะ
ทนายธรรมราช : สิทธิข้อไหนที่คุณอ้าง เอามาจากไหน
แพรรี่ : เอามาจากที่กฎหมายรับรองไงคะ ดิฉันมีสิทธิ์ที่จะพูด มีสิทธิ์วิจารณ์ ถ้าพระรูปไหนคิดว่าสิ่งที่ดิฉันพูดเข้าข่ายหมิ่นประมาท ก็ไปฟ้องสิคะ
ทนายธรรมราช : สิทธิที่คุณว่า เดี๋ยวจะอ่านคำพูดที่คุณพูดวันไลฟ์สด ในต้นคลิปคุณบอกจะมาด่าพระ ไอ้หัวโล้น กูจะมาด่ามึง พระห่าเหวอะไร มึงเป็นคนขอข้าวคนอื่นเลี้ยงชีพ มึงมีปมด้อย กูจะด่ามึง มึงใส่จีวรเครื่องเข้มๆ เพื่อให้ตัวเองดูดี มีธรรมะ คำพูดเหล่านี้อ้างสิทธิ์ตามกฎหมายข้อไหน
แพรรี่ : ใช้สิทธิในการถูกพาดพิงค่ะ เป็นผู้เสียหายที่ถูกมันพาดพิง ทำไมไม่ได้คะ ก็มันพาดพิงดิฉัน ทำไมมึงไม่ไปถามพระว่ามีสิทธิอะไร ใช้กฎหมายข้อไหนเรียกกูว่าอี หรือหมิ่นประมาทกูว่าเนรคุณคะ มึงควรโยนคำถามนี้กลับไปที่พระมั้ยคะ มึงเป็นทนายเหรอคะเนี่ย
ทนายธรรมราช : พระท่านก็ขอโทษ
แพรรี่ : มันไม่เกี่ยวกับขอโทษหรือไม่ขอโทษ คำถามกูคืออยากให้มึงกลับไปถามพระว่าเอาสิทธิ์ข้อไหนมาด่ากูก่อน
ทนายธรรมราช : มันไม่ใช่หน้าที่ของผม
แพรรี่ : ไม่ใช่หน้าที่ของมึงที่ไปถามพระ แต่เป็นหน้าที่ของมึงที่จะมาฟ้องกู
อ.จตุรงค์ : ทนมานานแล้ว มันไม่มีสิทธิไง ไอ้ทนายเอาสิทธิอะไรไปฟ้องหมิ่นประมาท มันไปรับใบอนุญาตมาเหรอ เขาแต่งเป็นทนายเหรอ มันก็ไม่ใช่ มันรู้ตัวไปฟ้องหมิ่นประมาทไม่ได้ เพราะไม่ได้รับแต่งตั้ง ไม่ได้รับมอบอำนาจ มึงไม่มีสิทธิ์ไง ตามเอกสาร มึงไม่ใช่ทนายที่แต่งตั้งจะไปฟ้องอะไร แล้ว 44 ปี เอาเทียบเคียงกับหลวงปู่แสง ถ้าเซ็ตอัปฉากเพื่อหลอกลวงแบบกลียุคปู่แสง เออ มันเข้าข่าย 44 ปี แต่คนสองคนเถียงกันในโลกอินเตอร์เน็ต จะเอา 44 ปีไปลงอาญาเขา ปัญญาอ่อน เป็นนักกฎหมาย ตีความกฎหมาย ที่สำคัญประชาชนต้องรู้นะ ภิกษุคือเอกพจน์ คณะสงฆ์ พหูพจน์ ผมก็ไม่รู้เขาจบนิติศาสตร์ที่ไหนมา แต่ประเด็นคือเรื่องพื้นฐาน แล้วเที่ยวไปด่าคนอื่น คำว่าหมิ่นประมาท ผมคิดว่าปล่อยไก่เข้าเล้า คิดว่าคนอย่างกูไม่มีทนายเหรอ ทนายกูก็มี กูก็ต้องถามว่าอย่างนี้มันทำได้มั้ย ตัวมึงทำไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ทำ แต่มึงก็ดื้อด้านที่จะทำ
ล่าสุดพระชาตรีขอโทษแล้ว คุณรับคำขอโทษมั้ย?
แพรรี่ : ดิฉันอยากยกโทษให้ท่านมากเลย อย่างน้อยท่านก็แสดงว่าสิ่งที่ท่านทำไปไม่ถูกต้อง แต่พอดิฉันได้มาฟังทนายบางคนที่ยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่รู้บาปบุญคุณโทษ ดิฉันบอกตรงๆ ดิฉันไม่อยากอโหสิ และไม่อยากให้อภัยเลย ขึ้นต้นด้วยอี แต่ปิดท้ายด้วยน้องนะคะ พอมีทนายเข้ามาก็คิดว่ายิ่งปล่อยไว้ไม่ได้ ไม่งั้นจะมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นอีก เวลาพระทำผิดอะไร มีทนายไปถือหาง เพื่อทำให้ดูว่าเวลาว่าพระก็จะถูกฟ้อง ชาวพุทธเลยไม่กล้ามีปากมีเสียง ก็จะมีเคสที่คนไม่กล้าร้องเรียน
ทนายว่าไง?
ทนายธรรมราช : ประเด็นอาจารย์ก่อน ที่บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ ประเด็นที่แพรรี่บอกว่าทำไมผมไม่ไปฟ้องหรือดำเนินคดีกับพระอาจารย์ชาตรี เพราะประเด็นนั้นคือประเด็นส่วนตัว คำว่าไม่มีหน้าที่ หมายความว่าแพรรี่ไม่ได้มอบหมายให้ผมไปดำเนินการ แต่การที่ผมไปดำเนินคดีกล่าวโทษแพรรี่ มีกฎหมายบัญญัติไว้ให้ผมดำเนินการได้ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ เป็นการกล่าวโทษเนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน อีกประเด็นที่แพรรี่บอกว่ากลัวว่าประชาชนจะไม่กล้าร้องเรียนพระสงฆ์ตรงนี้ไม่ใช่เลย ช่องทางที่กฎหมายบัญญัติไว้ร้องทุกข์กล่าวโทษที่สถานีตำรวจ หรือไปสำนักพุทธ หรือไปร้องเรียนตามขั้นตอนของมหาเถรสมาคมกำหนด ซึ่งแพรรี่ เปรียญ 9 รู้ดีว่าการร้องเรียนคณะสงฆ์ ช่องทางหนึ่ง สอง สาม เป็นยังไง จะบอกว่าประชาชนไม่กล้าร้องเรียนไม่ใช่หรอก แต่วิธีการที่แพรรี่ทำเป็นการนำเรื่องราวที่มีประเด็นกันมาเผยแพร่ แล้วกองเชียร์เห็นก็ไปคอมเมนต์
พี่มองประชาชนสามารถแจ้งความถ้าใครว่าสงฆ์ได้ต่างๆ นานา ตอนนี้มีทนายอีกท่านอยู่ในรายการ พี่สงกาญ์ ยังไง?
สงกาญ์ : อันดับแรกการแสดงความเห็นโดยสุจริต พี่น้องประชาชนในฐานะชาวพุทธสามารถกระทำได้ ในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย สำคัญนะ แล้วก็การร้องทุกข์กล่าวโทษถ้าไประบุตัวว่าเราประสงค์จะดำเนินคดีอาญากับใคร ถ้าเขาไม่ผิด เขาก็มีสิทธิ์ดำเนินคดีอาญาเราได้ ฐานแจ้งความเท็จ การร้องทุกข์กล่าวโทษต้องบอกกับน้องนิดนึงว่าต้องเป็นการให้พนักงานสอบสวน สืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดว่าเป็นการกระทำความผิดทางอาญาหรือไม่ ถ้าอยู่ๆ เราไปกล่าวโทษปั๊บ นายก. นายข.เขาไม่ผิดขึ้นมา งานงอก แทนที่เราจะเป็นผู้กล่าวโทษ เราจะกลายเป็นผู้ต้องหา ก็ฝากน้องพิจารณาด้วย อย่าเพิ่งไประบุตัว คุณแพรรี่ อ.จตุรงค์ ในฐานะชาวพุทธ เขาสามารถแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตได้ แม้ว่าคำบางคำอาจเป็นภาษาชาวบ้าน สมัยพ่อขุนรามคำแหง แต่เป็นวิญญูชน ที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างสุจริต
อ.จตุรงค์บอกว่าทนายไปฟ้องแพรรี่ไม่ได้?
อ.จตุรงค์ : ไม่ได้ คุณไม่ใช่ผู้เสียหาย กฎหมายพูดถึงคณะสงฆ์ คณะสงฆ์ก็ต้องมีมติส่งใครมา ส่งนิติกรสำนักพุทธมา หรือส่งคณะนั้น กลุ่มนั้น มีมติลงมาแต่งทนายมา แต่นี่คุณไม่ได้รับการแต่งมา ไม่ว่าจะในนามบุคคลธรรมดา บุคคลเดี่ยว หรือทั้งวัดที่รัสเซีย คุณจะเอาผิดอะไร จะเอามาตรา 44 ตีเหรอ หมิ่นประมาทยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย ถ้าคุณมีหนังสือมอบอำนาจ ได้รับใบแต่งทนายมา ผมยอมรับ แต่ถ้าไม่ใช่ ให้ตายก็ไม่ได้ครับ
แพรรี่มองยังไง?
แพรรี่ : อย่างที่พี่ทนายสงกาญ์พูด ชัดเจน มากล่าวหาดิฉันว่าหมิ่นคณะสงฆ์โน่นนี่นั่น ถ้าฟ้องมาแล้วดิฉันบอกเลยมีข้อมูลเยอะมากที่ชาวบ้านร้องเรียนดิฉันเรื่องพฤติกรรม แล้วบอกว่าไม่มีสิทธิ์ไปด่าสงฆ์ งั้นมึงไล่ฟ้องสื่อเลยค่ะ แล้วมากล่าวหาว่าดิฉันพูดแบบนี้ทำให้คนไปโจมตีคณะสงฆ์ คณะสงฆ์เสื่อมเสีย เวลาคณะสงฆ์ทำตัวเองเสื่อมเสียแล้วสื่อเขาเอามาวิจารณ์ ไม่ต้องไล่ตามฟ้องสื่อหมดทั้งประเทศเหรอคะ งงกับตรรกะวิธีการคิดนะคะ มามีปัญหาว่าดิฉันด่าพระ แต่มาบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ที่จะไปตามพระว่าไม่ควรด่าฆราวาสแบบนี้ ดิฉันก็เห็นชัดเจนแล้ว ทางพุทธศาสนาเรียกว่าความอคติ 4 ค่ะ ลำเอียงเพราะความเกลียดชัง โทสาคติค่ะ
ทนายธรรมราช : ประเด็นที่บอกว่า ข้อหาความผิดนี้ ผมในฐานะประชาชนหรือทนายความ ที่ผมไปแจ้งคือในฐานะประชาชน ที่เห็นการกระทำความผิด ต้องถามก่อนว่าข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ เป็นความผิดต่อส่วนตัว หรือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ถามอาจารย์จตุรงค์ก่อน ให้ตอบประเด็นนี้ว่าความผิดตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์เป็นความผิดส่วนตัวหรือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ถามพี่สงกาญ์ด้วย
อ.จตุรงค์ : ผมจะตอบทำไม ผมไม่ใช่นักกฎหมาย ผมเป็นนักวิชาการศาสนา พูดเรื่องศาสนา ถามเรื่องอาญาแผ่นดิน ผมไม่รู้ ผมไม่ได้จบนิติศาสตร์ ถ้าใครจะเครื่องร้อนเพิ่งจบนิติศาสตร์มาหมาดๆ แล้วอยากจะมาลองภูมิคนอื่น อย่ามาลองกับผม เพราะผมไม่ได้เรียนนิติศาสตร์ ผมตอบคำถามนี้ไม่ได้
สงกาญ์ : ให้เข้าใจโดยทั่วกัน ดังที่น้องถามผม หนึ่งต้องดูว่าคุณไประบุตัวไปกล่าวหาว่าเขากระทำความผิดหรือไม่ ถ้าพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง งานงอกเลย คุณเข้าเรื่องแจ้งความเท็จเพื่อแกล้งให้ได้รับโทษทางอาญา เวลาคุณจะร้องทุกข์กล่าวโทษใคร ต้องเป็นไปในลักษณะว่าให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดทางอาญาหรือไม่ แล้วพนักงานสอบสวนต้องไปสอบผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีความรู้ สอบคณาจารย์ สอบคณะสงฆ์ก่อน ไม่ใช่ไปกล่าวหาระบุตัวใครว่าคนนั้นทำผิด แล้วเขาแจ้งความมายุ่งนะ นักกฎหมายเวลาแจ้งความ เก๋าๆ พี่จะบอกให้เขาไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้มีการตรวจสอบก่อนว่าการกระทำความผิด ผิดอย่างไร เห็นพี่ศรีมั้ย เวลาเขาไปร้องทุกข์กล่าวโทษ เขาก็ให้ไปตรวจสอบก่อนเขาไม่ได้ระบุตัว ถึงเป็นมวย ฝากน้องไปพิจารณา ไปเปิดตำราดูหลายๆ อย่าง อย่าไปดำเนินคดีกับนายก.นายข.โดยยังไม่รู้ว่าเขาทำความผิดหรือไม่ สำคัญนะ
ทนายธรรมราช : เมื่อสักครูผมถามไปว่าข้อหาความผิดมาตรา 5 ทวิประกอบ 44 ปี ผมถามว่าเป็นความผิดต่อส่วนตัวหรือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ท่านทนายสงกาญ์ยังไม่ตอบผมเลย
สงกาญ์ : เรื่องนี้ไม่ต้องมาถามกัน ชาวบ้านชาวช่อง เด็กเล็กๆ เขารู้อยู่แล้ว
ทนายธรรมราช : ถ้าทนายสงกาญ์ตอบไม่ได้ ผมเมตตาถามใหม่ ผมใช้คำนี้ ความผิดอาญาแผ่นดิน ถ้าเราไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง เราเห็นการกระทำความผิด เช่น เห็นบุคคลใดก็ตามแต่ปล่อยดอกเบี้ยเงินกู้เกินอัตรา เราไม่ใช่ผู้กู้ เห็นคนค้ายาบ้า เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน เราในฐานะประชาชน สามารถนำพยานหลักฐานไปกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนได้หรือไม่ ตอบผมครับ
สงกาญ์ : น้องรู้ได้ไงว่าคุณแพรรี่ผิด น้องอย่าเพิ่งไปตัดสินเขา น้องไม่ใช่ศาล มันต้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ ให้พนักงานสอบสวนสอบข้อเท็จจริงก่อน ไม่ต้องมาถามพี่หรอก มาตราเด็กๆ ที่เขาถามกัน
ทนายธรรมราช : ผมไม่ได้บอกใครผิดใครถูก ผมมองว่าการกระทำของคุณแพรรี่เข้าข่ายความผิดคณะสงฆ์ ผมจึงนำพยานหลักฐานไปมอบให้พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนรับคำกล่าวโทษไว้แล้ว แล้วรวบรวมพยานหลักฐานจะดำเนินการต่อไป ท่านทนายสงกาญ์ด้วยความเคารพ ท่านเป็นทนายรุ่นพี่ บอกผมหน่อย ความผิดอาญาแผ่นดิน เรารู้ตัวผู้กระทำความผิดเรานำรูปถ่ายพยานหลักฐานไปกล่าวโทษได้มั้ย
สงกาญ์ : ก็ต้องให้เขาตรวจสอบก่อน ผิดไม่ผิดเป็นดุลยพินิจพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ เราเป็นนักกฎหมายจะไประบุตัวคนผิดไม่ได้หรอก นี่ความเห็นของพี่ อย่าไประบุตัวว่าเขาผิด เพราะเราไม่ใช่ศาล
อ.จตุรงค์ : ไอ้ที่เขาพูด 44 ปี ผมแค่สงสัย เรียนถามทนายสงกาญ์เลย เขาเข้าใจเรื่องเอกพจน์กับพหูพจน์มั้ย กฎหมายพูดถึงคณะสงฆ์ คนมีสิทธิ์คือสงฆ์หมู่มาก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปะฉะดะระหว่างไพรวัลย์กับท่านชาตรี เป็นเรื่องของเอกพจน์ พระรูปเดียว ภิกษุ คุณยังแยกแยะไม่ออก กฎหมายไม่ได้บอกว่าหมิ่นภิกษุหรือใส่ความภิกษุเขาบอกคณะสงฆ์ ซึ่งเป็นพหูพจน์ คือคุณเข้าใจแค่ไหน คุณมีความแตกฉานในภาษาไทยแค่ไหน แค่เรื่องพื้นฐานแบบนี้คุณยังแยกไม่ออกเลยว่ากฎหมายเขาเขียนไว้ยังไง แล้วเอกพจน์ พหูพจน์ ชาตรีคือภิกษุหนึ่งรูป กฎหมาย 44 ปี เขาพูดถึงคณะสงฆ์ คือสงฆ์หมู่ใหญ่ ต้องลงมติผ่านหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง คำถามคือคุณเป็นใคร คุณเป็นคนจากสำนักพุทธ หรือนิติกรจากสำนักพุทธเหรอ ก็ไม่ใช่ คุณได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ก็ไม่ใช่ ถึงบอกว่าชื่อกฎหมายระบุชัด เอกพจน์ พหูพจน์ กลับไปทวนตรงนี้เลยครับ
ตอนนี้คนต้นเรื่อง หัวเราะเป็นภาษารัสเซียแล้ว พี่ธรรมราชมองยังไง ถอนได้มั้ยให้จบๆ?
ทนายธรรมราช : ต้องเข้าใจคำว่าคณะสงฆ์ใหม่ ตามมาตรา 5 ทวิ เวลาผมถามท่านอาจารย์ตอบว่าไม่รู้ ไม่ใช่นักกฎหมาย แต่เมื่อกี้เป็นการตอบความเห็นตามกฎหมาย ถูกมั้ย
อ.จตุรงค์ : ผมให้ความเห็นตามประสานะคุณ
หนังสือยืนยันการกู้ยืมเงิน 1 ล้าน 4 แสนบาท โดยพระชาตรี จะคืนเงินให้ 25 พ.ย. ปี 61 ?
ทนายธรรมราช : เป็นเรื่องส่วนตัวครับ เป็นเรื่องระหว่างบุคคลครับ
พระก็มีประเด็นเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย หลายๆ อัน ในมุมนึงเหมือนอยู่ดีๆ พระรูปนี้เลือกคนๆ นึงมาแขวนแล้วด่าๆ แล้วเขาออกมาปกป้องตัวเองว่ามึงเป็นใคร ไอ้หัวโล้น มาทำแบบนี้กับกู แต่ทนายกลับไปแจ้งความคนที่เขาออกมาปกป้องตัวเอง เขาไม่มีสิทธิ์เหรอ?
ทนายธรรมราช : ประเด็นว่าพระทำผิดเยอะแยะมากมาย คำกล่าวอ้างยังไม่ยืนยัน ทำไมผมยืนยันที่จะปกป้อง ท่านต้องแยกก่อน คณะสงฆ์หรือพระสงฆ์ พระสงฆ์คือสาวกพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ก็คือพระสงฆ์ พระชาตรีในนามส่วนตัวก็ส่วนตัว แต่พระชาตรีมาบวชในนามพระพุทธศาสนา ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
แพรรี่ : ถ้าพูดแบบนี้คือตายแล้วค่ะมึง พระเป็นอลัชชี พระทำไม่ดี มึงเป็นชาวบ้านหุบปากไปเลย มึงไม่มีสิทธิ์ด่า ด่าก็ยังไม่ได้เลย กฎหมายคุ้มครองพระทำผิด อยากชั่วมึงไปบวชเลย เพราะไปบวชแล้วมีกฎหมายคุ้มครอง ดิฉันตีความแบบนี้ได้มั้ย
ทนายธรรมราช : ไม่ใช่เลย ตั้งแต่ประเด็นอ.จตุรงค์แล้ว ที่ผมถามเป็นอาญาแผ่นดินแล้วบอกว่าตอบไม่ได้ แต่ให้ความเห็นในลักษณะที่เข้าใจไปเอง
อ.จตุรงค์ : กูให้ความเห็นตามประสา
ทนายธรรมราช : ทนายสงกาญ์ก็ยังไม่ตอบผมเลย
สงกาญ์ : เด็กๆ เขาพูดกันเรื่องมาตรา
อ.จตุรงค์ : เรื่องมาตราเขาก็เปิดกูเกิ้ลกันได้มั้ย กูก็เปิดได้กูเกิ้ล มาตรา 44 ปีเนี่ย
สงกาญ์ : เห็นนั่งอ่านเปิดตัวบทอยู่เลย แล้วมานั่งถาม
อ.จตุรงค์ : ธรรมราช ฉันจะบอกเธอให้นะ พระติดคุกฟรี 1 ปี 3 เดือน 2 วัน มึงไปอยู่ไหน พระโดนคดีเงินทอนวัด 10 ๆ รูป มึงไปอยู่ไหน แต่เรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้มึงเสือกออกมา แต่เรื่องแบบนี้พระติดคุกฟรี ทุกวันนี้ไม่ได้รับเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม มึงอยู่ไหน ทำไมไม่มาทำ มีตั้งเยอะแยะ ไพรวัลย์พูดตามสิทธิรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญพูดไว้ ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นอย่างสุจริตได้อย่างเต็มที่ กูก็เหมือนกัน ทุกคนก็มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าใจมึงต้องให้กฎหมายรับรองมึงทุกฉบับเหรอ ประชาชนนะเว้ย ไม่ใช่ทาส
ทนายธรรมราช : สิทธิตามรัฐธรรมนูญต้องไม่ไปละเมิดสิทธิผู้อื่น
อ.จตุรงค์ : แล้วนี่ผมละเมิดสิทธิใคร เขาจ้างผมมานั่งพูดในรายการ ละเมิดสิทธิ์ใครครับ ผมละเมิดสิทธิ์มันเหรอ
สงกาญ์ : พี่หนุ่มไม่ได้จ้าง พี่หนุ่มให้ค่ารถ (หัวเราะ)
เอาง่ายๆ ประชาชนส่วนใหญ่บอกว่าถอนได้มั้ยที่ไปแจ้งความแพรรี่จะได้จบๆ กันไป?
ทนายธรรมราช : ผมทำในนามกองทุนทนายความเพื่อปกป้องสิทธิพระพุทธศาสนา ในฐานะทนายความ ผมทำคดีเกี่ยวกับพระหลายคดี ที่ทำอยู่ตอนนี้ หลายคดีแล้ว ลักษณะดังกล่าวหากปล่อยไป เยาวชนรุ่นหลังก็คิดว่าด่าพระ มีคนไลฟ์เยอะ มีกองเชียร์เยอะ เดี๋ยวเยาวชนคนรุ่นหลังจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ด่าพระสงฆ์ได้ไม่ผิดกฎหมาย
สมมติพระทำไม่ดี พระทำชั่ว พระไปมั่วสีกา ประชาชนมีสิทธิ์ด่าพระมั้ย?
ทนายธรรมราช : ก็ไปดำเนินการตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้
ไม่สิ ต้องตอบให้ตรงคำถาม ผมถามว่าประชาชนมีสิทธิ์ด่าพระมั้ย?
ทนายธรรมราช : ด่าในลักษณะเอามาประจานเผยแพร่ ไปดูสิทธิขนาดผู้ต้องหา
แพรรี่ : เดี๋ยวนะคะ เป็นทนายควรชัดเจน แกพูดเลอะเทอะ ตัวต้นเหตุปัญหา ยอมรับและออกมาขอโทษดิฉัน อโหสิกรรมและเห็นด้วยกับคำพูดที่ดิฉันพูด
ทนายธรรมราช : เอางี้ถ้ายังอยู่ในสมณเพศ คุณไปด่า มีความผิดตาม 44 ปี
อ.จตุรงค์ : พระอรรถกิจโสภณถูกด่าฟรี ถูกจำคุก 1 ปี 3 เดือน 2 วัน อย่างนี้ทำไมมึงไม่ทำ มึงไปแจ้งความจับกูหน่อยสิ แต่เขายกฟ้อง หมดมลทินไม่มีมัวหมอง ตอนนั้นมึงอยู่ไหน มึงบอกทำเรื่องมาเยอะ เรื่องคณะสงฆ์ ทุจริตที่ดินวัดหมื่นกว่าล้าน มึงไปอยู่ไหน ก็ไม่ทำ มึงทำอะไรบ้าง เขาวิ่งไปร้องกระทรวงยุติธรรมกัน กูก็ไม่เคยเห็นหน้ามึง ในวงการเขาออกไปทำงานเรื่องพวกนี้กัน กูไม่เคยเห็นหน้ามึงเลย มึงเพิ่งมาโผล่หน้าตอนเรื่องแพรรี่เนี่ยแหละ ก่อนหน้านี้กูไม่เคยเห็นเลย เขาไปร้องคดีเงินทอนวัด เขาไปร้องพระติดคุกฟรี ไปร้องกันเยอะแยะ ขนาดธรรมกายกูยังเจอหน้า เขายังมาช่วยงานเลย แต่มึงเป็นใคร มึงอยู่ไหน เวลาพระติดคุกฟรี เขาไปร้องกันเย้วๆ มึงอยู่ไหน เขาไปร้องกระทรวงยุติธรรมมึงอยู่ไหน เขาไปร้องสิทธิพระ ไปหาสส. มึงเป็นใคร อยู่ไหน อยู่ๆ มึงมาสอนกูเรื่องกฎหมายพระ
ทนายธรรมราช : ท่านอ.จตุรงค์ฟังผมนะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระในประเทศไทย หรือใครก็แล้วแต่ ถ้าเขาส่งข้อมูลมา หรือเห็น ผมทำ พิจารณาแล้วเห็นสมควร ผมก็ทำ แต่เรื่องที่ท่านพูดเขาไม่ได้ส่งมาให้ผม
อ.จตุรงค์ : เขาไม่ต้องส่งหรอก ข่าวมันดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง จับพระติดคุกฟรี 8 ปีแต่มาทำเรื่องปัญญาอ่อน จะเอาแพรรี่ติดคุก 44 ปี ตลก ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ว่าที่ผ่านมาไอ้นี่มันทำอะไรอยู่ แล้วอยู่ๆ วันนี้มันหยิบพ.ร.บ.คณะสงฆ์จัดการแพรรี่ ประชาชนช่วยกันเถอะครับ ว่าคนแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน คิดกันเอาเองแล้วกัน
ทนายธรรมราช : ให้ผมพูดหน่อยนะ ถ้าจะกล่าวหาผมว่ามีเรื่องราวเยอะแยะ มึงไปอยู่ไหน สิ่งต่างๆ เหล่านั้นที่มันเกิดขึ้น ผมก็ทำหน้าที่ตรงอื่นอยู่ ตรงที่เขาทำตรงนั้นเขามีหน้าที่คนรับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าเขาติดต่อมา ผมก็ต้องพิจารณาในส่วนผมก่อน ไม่ใช่ใครเข้ามาแล้วต้องทำหมดทุกเรื่องเลย ไม่ใช่ แต่เรื่องนี้ไปประสบพบเห็นพอดี เลยเข้าไปทำ ก่อนหน้านี้ผมไปทำคดีวัดหลายคดี ไปดูที่ศาลก็ได้
ตกลงพระไปสังวาสสีกา ผมด่าพระไม่ได้ใช่มั้ย?
ทนายธรรมราช : ถ้าพระยังครองสมณเพศอยู่ พระยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ถูกผิดตามขั้นตอนกฎหมาย ยังถือว่าเป็นพระสงฆ์อยู่ ก็ถือว่าเป็นคณะสงฆ์ตามมาตรา 5 ทวิ การที่ไปกล่าวลักษณะหมิ่นประมาท เป็นการสร้างกรรมใหม่ เมื่อสร้างกรรมใหม่ก็เป็นความผิดต่อกฎหมาย ผมก็ตอบได้เลยว่ามันทำไม่ได้ ผิดกฎหมาย ถ้าจะทำก็หมิ่นเหม่ที่คุณจะถูกดำเนินคดี
ด่าพระไม่ได้ พระเลวทรามยังไงก็ไม่ได้?
ทนายธรรมราช : มันเป็นกรรมใหม่ อันนั้นพระทำความผิดเดี๋ยวมีกระบวนการดำเนินไปตามกฎหมายบัญญัติ กฎหมายกำหนด คณะสงฆ์ก็มีระเบียบในการลงโทษอยู่ คุณก็ไปตามขั้นตอน แต่คุณไม่มีสิทธิ์ไปด่าใครว่าชั่วว่าเลว
แล้วทำไมพระมีสิทธิ์มาด่าด้อยค่าแพรรี่ล่ะ?
ทนายธรรมราช : พระก็ไม่มีสิทธิ์เหมือนกัน ผมไม่ได้บอกว่าพระมีสิทธิ์
งั้นไปแจ้งพระหน่อยสิ?
ทนายธรรมราช : มันเป็นความผิดส่วนตัวครับ แล้วไปแจ้งความจับพระไม่มีกฎหมายให้อำนาจไปแจ้งความจับได้ เพราะเป็นความผิดส่วนตัวระหว่างคุณแพรรี่ คุณแพรรี่ไปดำเนินการเองครับ มันเรื่องแพรรี่ครับ
แพรรี่ : (หัวเราะ) โอเคค่ะ ดำเนินการเองค่ะ
ทนายธรรมราช : พระไม่ได้มาด่าผม ถ้าพระมาด่าผม ผมก็จะพิจารณาอีกขั้นตอนนึง แยกแยะให้ออกครับ
ตกลงทนายถอนแจ้งความแพรรี่ได้มั้ย จะได้จบไป?
ทนายธรรมราช : ไม่ได้ครับ ก็เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
แพรรี่ : เดี๋ยวก่อนค่ะ ดิฉันฝากถึงป้าข้างๆ ที่บอกว่าเสียใจ ไม่รู้เป็นอะไรกับทนาย ถ้าฟ้องมาแล้วดิฉันไม่ผิด ลูกป้าโดนดิฉันแน่นอนค่ะ
ทนายธรรมราช : ไม่มีปัญหาเลย
แพรรี่ : ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพี่สงกาญ์ดูแลเทคแคร์คดีนี้ค่ะ เป็นเกียรติมากค่ะ เดี๋ยวไปเจอกันในศาล มีข้อมูลเยอะมากเลยค่ะกับพระรูปนี้ ดิฉันจะได้ไปเบิกความแล้วเอาข้อมูลหลักฐานให้ศาลท่านดูค่า เดี๋ยวเจอกันค่ะ
ตกลงทนายไม่รู้จักทางพระชาตรีใช่มั้ย?
ทนายธรรมราช : ก่อนไปกล่าวโทษไม่รู้จัก แต่หลังจากนั้นยอมรับว่าพระท่านก็ติดต่อมา ท่านบอกว่าท่านขอโทษแล้ว ไม่ดำเนินคดี ท่านก็โพสต์ขอโทษแล้ว ผมก็บอกว่าผมยินดีด้วย โมทนาด้วยที่ท่านมีเมตตาส่วนนั้น ส่วนความผิดบาป หรือกรรมที่กระทำ การกระทำความผิดเฉพาะบุคคลส่วนตัว แต่กรรมของแพรรี่ที่ไลฟ์ด่าคณะสงฆ์วันนั้น มันคือกรรมใหม่ เป็นความผิดครั้งใหม่ ที่ทำให้ผมไปร้องทุกข์กล่าวโทษในครั้งนี้ แยกให้ออก คนละประเด็น ต่างกรรมต่างวาระครับ
ตอนนี้พระชาตรีบอกว่าให้ปล่อยแพรรี่ไป อย่าไปยุ่งกับเขา พระเขาออกมาขอโทษแล้ว?
ทนายธรรมราช : อันนั้นเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของเขาครับ จะไปกอดคอจูบปากกันก็เชิญครับ ทำได้เลย
คุณว่าพระชาตรีไปกอดคอจูบปากกับแพรรี่เหรอ?
ทนายธรรมราช : ผมหมายถึงต่อไปจะไปจูบปากอะไรกัน เป็นสิทธิส่วนตัวของพระ ผมไม่ก้าวล่วง คนละประเด็นกันครับ
อ.จตุรงค์ : ถ้าประธานทนายความ นายกสภาทนายความดูอยู่ เจ้าตัวคู่กรณีไม่ติดใจแจ้งความ แต่ทนาย มีจรรยา มารยาททนายความแค่ไหน ทางสภาทนายความ ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงยันต๊อกต๋อย ช่วยบอกผมทีว่าทนายมีพฤติการณ์แบบนี้ สภาทนายความจะจัดการยังไง กระบวนการยุติธรรมจะจัดการยังไง กับทนายแบบนี้
ทนายธรรมราช : หมายความว่ายังไง
อ.จตุรงค์ : คิดเอาเอง ผมเชื่อว่าผู้ชมใช้ความเห็นได้สุจริต ผมฝากไปถึงสภาทนายความ
ทนายธรรมราช : ท่านไปร้องสภาทนายความเลยครับ
อ.จตุรงค์ : แม้แต่ตัวพระชาตรีได้ส่งข้อความบอกทางรายการว่าอย่ายุ่งกับไพรวัลย์ เจ้าทุกข์บอกไม่เกี่ยว ไม่ยุ่ง ไม่เอา แต่มีทนายบางคนยังใช้อภิสิทธิ์ความเป็นทนาย ในการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป โดยไม่มีใครมอบอำนาจหรือแต่งออกไปให้คุณเป็นทนาย ฝากสภาทนายความครับ จัดการให้ด้วยครับ
แพรรี่อยากพูดอะไร?
แพรรี่ : ดิฉันไม่อยากพูดอะไรกับทนายคนนี้ให้มากความ เดี๋ยวเจอกันค่ะ ฟ้องมาก็มั่นใจได้เลย กูฟ้องกลับแน่นอน แค่นั้นล่ะค่ะ ไม่อยากเถียงด้วยค่ะ เสียเวลาทำมาหากิน
อ.จตุรงค์ : มีคนแคปข้อความเขาบอกว่าจะฟ้องอาจารย์ผู้รอบรู้ ผมไม่รู้หมายถึงผมหรือเปล่า แต่ถ้าหมายถึงผม นั่นหมายถึงเขาชมว่าผมรอบรู้นะครับ จะฟ้องก็ฟ้องครับ ผมแต่งทนายไปแล้วเมื่อวานนี้ครับ
สงกาญ์ : แพรรี่ไปคัดถ่ายประจำวันที่เขาแจ้งว่าเขาแจ้งความว่าอะไร มอบอำนาจให้ใครไปทำก็ได้ จะได้รู้ว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร
แพรรี่ : ดิฉันแปลกใจอย่างนึง ขับรถมาจากฉะเชิงเทราไม่เห็นอะไรที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาบ้างเหรอคะ ไม่ไปกล่าวโทษร้องทุกข์บ้างคะ
ทนายธรรมราช บอกว่าจะฟ้องอาจารย์ผู้มีความรู้รอบด้านเป็นคนแรก แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อ?
อ.จตุรงค์ : ก็นั่นไง ถ้าเป็นผม ก็แสดงว่าเขาชมผมว่าเป็นผู้มีความรู้รอบด้าน ถ้าฟ้องมาก็พร้อมชนครับ
แพรรี่อยากบอกอะไรคนที่ดูอยู่?
แพรรี่ : ดิฉันอยากให้ทุกคนมีส่วนในการดูแลพระพุทธศาสนา อย่าไปเชื่อฟังคำพูดทนายบางคน ที่เป็นคนพุทธ แต่ธรรมะไม่ได้ซึมซาบอะไรเลย ช่วยกันดูแลค่ะ เห็นพระทำไม่ดีควรตำหนิ แม้ด่าทอถ้าเห็นพระรูปนี้เป็นอลัชชี เพราะเขากินข้าวกินน้ำเรา และเขาทรยศศรัทธาเรา เรามีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นโดยบริสุทธิ์ใจในการปกป้องศาสนา การปกป้องศาสนาที่แท้จริงไม่ใช่การปกป้องอลัชชี ไม่ใช่การปกป้ององค์กรที่ไม่สะอาดหมดจดนะคะ แต่คือการพิทักษ์พระศาสนธรรมคำสอน ฝากไว้ค่ะ
จะมีการฟ้องกลับด้วย?
แพรรี่ : ฟ้องแน่นอนค่ะ