กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะกินสมุนไพรที่มีสรรพคุณเผ็ดร้อน ผัก ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ สามารถช่วยบรรเทาอาการหวัด เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงหน้าฝนหรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง กลุ่มที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ กลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมักได้รับผลกระทบต่อสุขภาพได้ง่าย รวมทั้งประชาชนควรหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองให้มากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดและไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดี อาจส่งผลให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมในที่สุด
สมุนไพรฤทธิ์เผ็ดร้อน-ผักผลไม้วิตามินซีสูง เสริมภูมิต้านหวัด
สมุนไพรไทยที่ควรกินเพื่อเสริมภูมิต้านทานในช่วงหน้าฝน ได้แก่
- กระเทียม
- หอมแดง
- กระชาย
- ขิง
- ข่า
- ตะไคร้
ผักต่างๆ หลากสี ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี ได้แก่
- พริกหวาน
- ผักโขม
- บร็อกโคลี่
- กะหล่ำดอก
- ปวยเล้ง
- มะระขี้นก
- ผักหวาน
- ขี้เหล็ก
- ใบกะเพรา
- มะนาว
ผักและสมุนไพรเหล่านี้สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเผ็ดร้อนสามารถช่วยบรรเทาอาการหวัดและเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงในช่วงหน้าฝนที่อากาศเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ ควรกินผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงเป็นประจำ เช่น
- ฝรั่ง
- มะละกอ
- ส้มโอ
- มะเฟือง
- ส้มเขียวหวาน
- กล้วยน้ำว้า
เป็นต้น
ผลไม้เหล่านี้ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย และต้านโรคหวัดได้ รวมทั้งควรกินอาหารที่ปรุงสุกร้อน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายและป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลชีพก่อเกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร
กินสมุนไพรไทย ผักผลไม้ แล้วต้องออกกำลังกายด้วย
ทั้งนี้ ควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน อาทิ
- เดิน
- วิ่งเหยาะๆ
- ขี่จักรยาน
เล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
หรือทำงานบ้าน เช่น
- กวาดบ้าน
- ถูบ้าน
เคล็ดลับการออกกำลังกาย สำหรับผู้เริ่มต้น
- การเริ่มต้นออกกำลังกาย ควรเริ่มจากเบาๆ ระยะเวลาน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับตัว
- จากนั้นจึงเพิ่มความแรงหรือความหนักและการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง โดยทำให้รู้สึกหายใจเร็วขึ้น ไม่จำเป็นต้องหนักหรือเหนื่อยมาก ไม่ถึงกับหอบหรือหายใจไม่ทัน
- ทำเป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูระบบต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำอุ่น อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานและมีสุขภาพแข็งแรงในระยะยาว