แพทย์ผิวหนัง ตอบแล้ว ผมร่วงหลังฉีดวัคซีนโควิด เกิดขึ้นได้หรือไม่ ระบุ วัคซีนชนิดอื่นก็เกิดขึ้นได้ แต่ยังต้อรอผลการศึกษา พร้อมแนะวิธีรักษา
วันที่ 23 พ.ย.2564 นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีหนุ่มนักศึกษา จ.ภูเก็ต ผมร่วมภายหลังรับวัคซีนโควิด 19 ว่า โรคผมร่วงเป็นหย่อมพบได้บ่อยในทุกช่วงอายุ ผู้ป่วยจะมีอาการผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ที่ศีรษะ โดยอาจจะมีขนร่วงที่บริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น คิ้ว หนวด จอนหรือขนตามร่างกาย ในรายที่เป็นมากอาจมีอาการผมร่วงทั่วศีรษะหรือขนตามร่างกายร่วงจนหมด โรคนี้ไม่มีสาเหตุแน่ชัด
นพ.มานัส กล่าวต่อว่า จากข้อมูลทางวิชาการเชื่อว่าอาจเกิดจากการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายร่วมกับการเสียการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจมีปัจจัยทางกรรมพันธุ์เกี่ยวข้อง หรือร่างกายถูกกระตุ้นได้จากปัจจัยบางอย่าง เช่น ความเครียดจากภาวะการเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจ ทำให้มีการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวและสารสื่อประสาทที่บริเวณต่อมผม ส่งผลต่อการสร้างผมผิดปกติและวงจรชีวิตของผมเปลี่ยนจากระยะเจริญเติบโตเป็นระยะหลุดร่วงได้เร็วขึ้น
“ส่วนภาวะผมร่วงเป็นหย่อมภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด 19 อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากวัคซีนมีกระบวนการเลียนแบบการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันต้านตนเอง ทำให้เกิดปฏิกิริยาอักเสบที่บริเวณต่อมผมและมีผลทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมได้” นพ.มานัส กล่าว
ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ภาวะผมร่วงเป็นหย่อมภายหลังฉีดวัคซีนโควิด 19 อาจเกิดขึ้นได้ แต่ยังจำเป็นที่จะต้องรอผลการศึกษามากกว่านี้ในเรื่องอุบัติการณ์หลังจากการฉีดวัคซีน ในปัจจุบันมีการศึกษาผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อมที่กลับมาเป็นซ้ำหลังฉีดวัคซีนโควิด 19 และมีความเป็นไปได้ถึงการเกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อมสามารถเกิดขึ้นใหม่หรือผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อมที่เป็นอยู่แล้วและจะมีอาการมากขึ้นหลังฉีดวัคซีน อ่านข่าว : ผมร่วงหมดหัว! นศ.เศร้าหลังฉีดเข็ม 2 แพ้วัคซีน-เป็นโรคพุ่มพวง วอนรับผิดชอบ
พญ.มิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า โดยจะคล้ายคลึงกับผู้ป่วยที่มีภาวะผมร่วงหลังจากมีการติดเชื้อโควิด 19 แต่ยังไม่มีรายงานการศึกษาผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าวมากพอที่จะสรุปผลได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อมอาจเกิดภายหลังจากการฉีดวัคซีนอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น วัคซีนงูสวัด, วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี และวัคซีนโรคไข้สมองอักเสบเจอี รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อมร่วมด้วย เช่น ปัจจัยทางกรรมพันธุ์ ความเครียด การเจ็บป่วย โรคภูมิแพ้ โรคไทรอยด์ โรคลูปัส ภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก และภาวะการขาดวิตามินดี
“ผู้ที่มีภาวะผมร่วงเป็นหย่อมเพียงเล็กน้อย อาการผมร่วงอาจหายได้เองหรือสามารถรับการรักษากับแพทย์เฉพาะทางด้วยการทายาสเตียรอยด์หรือฉีดยาสเตียรอยด์ที่ศีรษะร่วมกับการทายาไมน็อกซิดิล 2-5% วันละ 2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นผมให้ขึ้นใหม่ ส่วนการรับประทานเหล็กและวิตามิน เช่น สังกะสี, ไบโอติน, วิตามินดี ยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการชัดเจนว่าจะมีส่วนช่วยรักษา แต่อย่างไรก็ตามหากอาการผมร่วงไม่ดีขึ้น มีผมร่วงทั่วศีรษะหรือมีขนตามร่างกายร่วงด้วย ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง” พญ.มิ่งขวัญ กล่าว