สืบเนื่องจากมีโฆษณารับ หมอแขวนป้าย จำนวนมาก เพื่อเอาหมออื่นเข้าไปทำงานแทน โดยมีค่าตอบแทนเดือนละ 20,000 – 30,000 บาท. นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะได้หมอเถื่อน จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อคนไข้ได้ ไม่ว่าเป็นการศัลยกรรมจนเสี่ยงโฉม หรือแม้แต่การทำหัตถการบนใบหน้าจนผิดรูป
ล่าสุดได้มีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแพทยสภา ว่าด้วยเรื่อง เกณฑ์การกำหนดโทษทางจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเกี่ยวกับความผิดในการเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล และความผิดต่อผลิตภัณฑ์สุขภาพและการโฆษณา โดยกล่าวว่า
- ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่กระทำผิดจริยธรรมเกี่ยวกับการเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล โดยไม่ได้ควบคุมกิจการของสถานพยาบาลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กำหนดโทษให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 1 ปี กรณีกระทำผิดซ้ำสอง ให้พักใช้ใบอนุญาตฯ 2 ปี และกรณีกระทำผิดตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ
- ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่กระทำผิดจริยธรรมเกี่ยวกับการเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล โดยให้หรือยินยอมให้มีการประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยผู้ที่มิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่อยู่ระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาต กำหนดโทษให้พักใช้ใบอนุญาตฯ 1 ปี กรณีกระทำผิดครั้งที่ 2 ให้พักใช้ใบอนุญาตฯ 2 ปี และกรณีกระทำผิดซ้ำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ
- ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งกระทำผิดข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ กำหนดให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ 6 เดือน กรณีกระทำผิดครั้งที่ 2 ให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ 2 ปี และกรณีกระทำผิดซ้ำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ให้เพิกถอนใบประกอบวิชาชีพฯ
- ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งกระทำผิดข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม โดยโฆษณา ใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ในลักษณะที่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ โอ้อวดเกินความเป็นจริง หรือลักษณะอื่นใดเพื่อเจตนาให้ประโยชน์แก่ตน สถานพยาบาลซึ่งตนเป็นผู้ดำเนินการ หรือหน่วยงานใดๆ รวมถึงการโฆษณาโดยผิดกฎหมาย หรือลามกอนาจาร กำหนดโทษให้พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ 6 เดือน กรณีกระทำผิดครั้งที่ 2 ให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ 2 ปี และกรณีกระทำผิดตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ให้เพิกถอนใบอนุญาตฯ
- ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งกระทำผิดข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชาชีพเวชกรรม โดยฝ่าฝืนกฎหมายอันเกี่ยวเนื่องกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้ที่มีความรู้ ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ
รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวแก่ตน โดยไม่ได้เป็นผู้ได้รับวุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติเป็นผู้ที่มีความรู้ ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขานั้นๆ จากแพทยสภา หรือที่แพทยสภารับรอง กำหนดโทษให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ 6 เดือน กรณีกระทำผิดครั้งที่ 2 ให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ 2 ปี และกรณีกระทำผิดตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป ให้เพิกถอนใบอนุญาตฯ
ทางคณะกรรมการแพทยสภา มีการพูดคุยเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องและมติในที่ประชุมเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เสียงข้างมากเห็นควรว่า ต้องมีการลงดาบอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องแพทย์ที่ไม่ได้กระทำความผิด และปกป้องประชาชนที่อาจไม่รู้เท่าทันของการกระทำผิด จึงเป็นที่มาของการออกประกาศฉบับนี้
ซึ่งโทษที่กำหนดเป็นของเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นการบัญญัติขึ้นใหม่ แต่การประกาศในครั้งนี้ จะเป็นการประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ว่าจะไม่การมีลดหย่อนอีกต่อไป เพราะการพักใช้ และการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ เป็นสิ่งที่แพทย์หลายคนกลัว
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาแม้จะมีการลงโทษ ทั้งการตักเตือน และการทำภาคทัณฑ์ แต่ก็ยังพบว่าคดีความผิดจริยธรรมใน 4 กลุ่ม ได้แก่ แพทย์แขวนป้าย ผู้ที่ดำเนินงานโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ แพทย์ที่โฆษณาอวดอ้างผลิตภัณฑ์เกินจริง และลามกอนาจาร รวมถึงแพทย์ที่อวดอ้างคุณวุฒิ ความเชี่ยวชาญที่แพทยสภาไม่ได้รับรอง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นความผิดที่มีผลกระทบต่อผู้ป่วยอย่างรุนแรงทั้งเกิดความพิการ เสียโฉม และเสียชีวิต
รศ.นพ.เมธี กล่าวว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวตั้งแต่เข้ามาทำงานแพทยสภาเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา การกระทำผิดส่วนมากจะเป็นเรื่องมาตรฐานของวิชาชีพ แต่ระยะหลังกลับพบว่าเป็นความผิดเกี่ยวในด้านโฆษณาเกินจริง หรือหลอกลวงผู้ป่วยมากขึ้น และส่วนมากจะมีการอ้างว่าไม่รู้หรือไม่ได้มีเจตนากระทำผิด แต่เมื่อมีการตรวจสอบก็พบผู้กระทำความผิดเองได้ผลประโยชน์ด้วยเช่นกัน ฉะนั้นหลังจากมีประกาศฉบับนี้ออกมา การลงโทษจะเริ่มต้นตั้งแต่การพักใบอนุญาต ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง จนถึงการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ
รศ.นพ.เมธี กล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมาเราตักเตือนกับภาคทัณฑ์เป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงที่ผ่านมาก็เคยมีการเสนอให้ลงโทษเพิ่มแต่ บางท่านก็มองว่า ในอดีตมีการว่ากล่าวตักเตือนก็ต้องว่ากล่าวตักเตือนไปเรื่อยๆ เลยเกิดประเด็นว่าตักเตือนเมื่อไหร่ถึงจะจบ เพราะหมอจบใหม่ปีนึงกี่คน และการทำผิดก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ”
- อัปเดต! อาการ ดญ. อายุ 14 เหยื่อ ‘ไฟไหม้รถบัส’ ดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ
- จากไปอย่างสงบ! อเล็กซ์ ซาลมอนด์ อดีตนายกฯ สกอตแลนด์ ด้วยวัย 69 ปี
- รู้หรือไม่!? 38 บ. จดลิขสิทธิ์ สินค้า Official ‘หมูเด้ง’ ช่วยเหลือน้ำท่วม