แนท โล่งอก เจรจาเจ้าหนี้จนสำเร็จ ได้บ้านคืนไม่ถูกยึด
แนท โล่งอก / เรียกว่าเป็นนางงามสู้ชีวิตอีกหนึ่งคนก็ว่าได้ สำหรับ “แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์” ที่ก่อนหน้านี้มีปัญหา บ้านที่ซื้อให้ตากับยายอยู่ ถูกอายัด และกำลังจะถูกยึด แนท ได้เข้าไปเจรจาเพื่อประนีประนอมกับเจ้าหนี้ จนสำเร็จ
ล่าสุดที่งาน “CineAsia 2022” ที่ นภาลัย เทอเรส ชั้น 7 ไอคอนสยาม แนท ได้เปิดใจอีกครั้งถึงเรื่องดังกล่าว โดย แนท เผยว่า “เพิ่งเคลียร์ไปประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ”
คือได้บ้านหลังนี้มาเป็นของเราแล้วใช่ไหม? “คือก่อนหน้านี้ต้องทำความเข้าใจว่าบ้านของแนทติดจำนองไว้อยู่แล้ว เพราะแนทผ่อนบ้าน ถูกไหมคะ แต่พอมีคดีความ บ้านเราก็จะต้องถูกอายัดไว้ และจะถูกยึดไว้ในส่วนของการที่ต้องชดใช้หนี้สิน และแนทก็ปรึกษาทนายค่ะ ตอนนี้ก็ถูกถอนชื่อออกจากการถูกฟ้องร้องแล้ว และไม่ถูกยึดแล้วค่ะ (ยิ้ม)”
เจรจากันยังไง? “แนทก็คุยกับทางเจ้าหนี้ค่ะ คุยในส่วนของข้อเท็จจริง เหมือนเราเอาข้อเท็จจริงมาตีกันเลยว่าความจริงเราไม่ได้เป็นคนยืมเงินเขา ก็คือเราไม่ได้เป็นหนี้ แต่ในส่วนที่เราช่วยได้ เราก็ช่วยได้ประมาณนี้ ซึ่งก็คือหมดบัญชีของเราแล้ว และเอาเรื่องหลายๆ อย่างมาคุยกัน เป็นเรื่องเซ้นซิทีฟเยอะมาก เราไกล่เกลี่ยกันตั้งแต่บ่ายโมงกว่าจะเสร็จก็เกือบ 4 โมงแล้วค่ะ คือแนทก็มีจุดหมายของตัวเองว่าฉันจะจ่ายเงินเท่านี้ ถ้าสมมติว่าไม่รับก็ยึดบ้านไปได้เลย เพราะแนทไม่สามารถผ่อนบ้านไปได้และใช้หนี้ในส่วนนี้ไปได้ค่ะ”
หนี้ทั้งหมดจำนวนเท่าไหร่? “ก็หลายล้านค่ะ เกือบ 2 ล้าน แต่ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสที่เราเสียไปแล้วค่ะ อาจจะเป็นส่วนอื่น ขอไม่ลงรายละเอียดแล้วกัน มันละเอียดอ่อนมาก”
จ่ายไปเท่าไหร่? “ส่วนที่แนทจ่ายไป 5 เกือบ 6 แสนรวมค่าอื่นๆ เราก็พูดในความเป็นจริงว่ามันก็สุดแล้ว คือคนภายนอกจะเข้าใจว่าการเป็นนักแสดงต้องได้เงินเยอะ แต่แนทก็อธิบายให้ทางฝั่งเจ้าหนี้ และเขาก็เปิดใจมากๆ ที่จะรับฟัง แนทก็ชี้แจงเลยว่าบางทีเดินแฟชั่นโชว์ได้ 7,000 โดนหัก 30 เปอร์เซ็นต์ บางงาน 5,000 หัก เปอร์เซ็นต์ และงานโน้นงานนี้ กว่าหนูจะรวมเงินก้อนให้ได้ คือได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใหญ่ ที่เวลาเราทำงานเราก็เก็บเงิน ซึ่งคิดดูว่าเราเก็บเงินจากหลักพันเป็นหลักแสนภายในระยะเวลารวดเร็วมาก และเราทำงานทุกอย่าง ก็ชี้แจงให้เขาฟังว่ามันคือที่สุดของเราแล้ว เพื่อที่ให้เขาไม่ได้รู้สึกว่าเราเอาเปรียบเขา เพราะมันก็สุดๆ ของเราแล้วจริงๆ”
สบายใจไหมพอเคลียร์จบแล้ว? “ส่วนตัวแนทไม่ได้ยึดติดอะไรกับบ้านเลย เพราะเมื่อก่อนเราก็ไม่มีบ้าน วันนี้ถ้าจะไม่มีบ้านสำหรับแนทมันไม่เป็นไรเลย แต่ที่แนทเป็นห่วงมากที่สุดคือความรู้สึกของตายาย เพราะในวันที่เราบอกว่าเราไกล่เกลี่ย ตายายในใจแกก็คิดว่าคงไม่ได้แล้วแหละ แกก็ขอมานั่งรอที่โซฟาที่บ้าน แล้วพอเราบอกแกก็โล่งและดีใจ ก็ดีใจมากๆ ที่ได้บ้านกลับมา เพราะสเต็ปต่อไปแนทก็ต้องทำเรื่องกับธนาคารที่ต้องทำในส่วนต่างๆ ต่อไป แต่ 90 เปอร์เซ็นต์ก็โล่งแล้ว”
เรียกว่าเป็นการไกล่เกลี่ยจบ ไม่ใช่เป็นการใช้กฎหมายในการจบใช่ไหม? “ใช้กฎหมายเลยค่ะ เพราะเราเป็นจำเลยที่ 2 การที่เราใช้หนี้จำนวนนี้คือเราต้องถอนชื่อเราออกเลย เราจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนี้ก้อนหนี้อีกแล้ว ก็มีลายลักษณ์อักษรทุกอย่าง เพราะมีทนายไปด้วย เราก็ต้องกันไว้ก่อน”
ศาลสั่งเลยใช่ไหมว่าต้องจบ? “คือพอศาลตัดสิน การยึดทรัพย์ก็จะต้องมาอยู่ที่กรมบังคับคดี เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยเขาถึงจะเป็นคนตัดสินว่า ถ้าสมมติว่าเจ้าหนี้เขาไม่ยอม ก็ยึดทรัพย์ แต่ถ้าเขายอมก็คลี่คลายได้ บ้านก็ถูกคืนเรามาค่ะ”
ทำข้อตกลงกับแม่มั้ยหลังจากที่ทุกอย่างเคลียร์แล้ว? “ในส่วนตรงนี้ในอนาคตมีแน่นอนค่ะ แนทกำลังจัดการอะไรหลายๆ อย่าง แต่ในส่วนของบ้านแนทอยากเคลียร์ให้จบร้อยเปอร์เซ็นต์”
ตอนนั้นเราเผื่อใจไว้ไหมว่าอาจจะไม่ได้? “หนูก็คิดในใจว่ามี 2 ช้อยส์ ช้อยส์แรกก็เงินหมดบัญชีแล้ว ถ้าเขาไม่เอาแล้วถูกยึดบ้านก็ไม่เป็นไร หนูไม่ยึดติดอยู่แล้ว ก็น่าจะกลับไปคุยกับตายายให้เขาเข้าใจมากขึ้นค่ะ แนทจะไม่ปล่อยให้ตากับยายช็อก คือบางทีพอมีข่าวอะไรออกไปแล้วเราอยู่ในวงการก็จะรู้เท่าทัน แล้วก็จะบอกว่าเดี๋ยวจะเป็นอย่างนี้อย่างนั้น แต่จะมีเทคนิคในการคุยกับคนในครอบครัวอีกแบบนึง แต่สุดท้ายแล้วปัญหาทุกอย่างเดี๋ยวเราจะจัดการเอง”
สุดท้ายจบแล้วก็สบายใจ แต่บ้านก็ยังต้องผ่อนต่อ? “สบายใจค่ะ แต่ก็ยังต้องผ่อนต่อ จ้างงานได้นะคะ (หัวเราะ)”
ยังเหลืออีกเยอะไหม? “ยังไม่ครึ่งทางเลย เพราะเพิ่งซื้อค่ะ จ่ายดอกอยู่ ก็จ้างงานได้นะคะ หนูเป็นเด็กดีและขยันมากๆ ค่ะ (ยิ้ม) 7 วันก็สู้ตายค่ะ”
ขอบคุณรูปจากไอจี potter_natt