แจ๋วใจร้าย! สตม. รวบแม่บ้านต่างชาติ – สาวไทย ขโมยเงินนายจ้าง 7 แสน

Home » แจ๋วใจร้าย! สตม. รวบแม่บ้านต่างชาติ – สาวไทย ขโมยเงินนายจ้าง 7 แสน
แม่บ้านขโมยเงิน-min

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) รวบ แม่บ้านต่างชาติแสบ ร่วมกับ หญิงไทย แอบขโมยเงินนายจ้าง เสียหายกว่า 7 แสนบาท

ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รวมทั้ง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะ ที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม.ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

  • สรุป! CIB แถลงการณ์ ‘คดีกำนันนก’ ล่าสุด เตรียมส่งกล้องไปกู้ที่ ตปท.
  • จริงหรือไม่? สาวพร ร้อง ขอเห็นรอยสักที่หลังศพ ก่อนพบว่าเป็นสามี
  • หดหู่! ทหารข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 14 ท้อง – แม่ไม่เอาเรื่อง อ้าง เขาคือเสาหลัก

สตม.รวบแม่บ้านต่างชาติแสบร่วมกับหญิงไทยแอบลักเงินนายจ้างกว่า 7 แสนบาท

บก.สส.สตม. ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.สิงห์บุรี, ตม.จว.สิงห์บุรี และ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา จับกุมนางมะคิ่น (นามสมมติ) อายุ 53 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 394/2566 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ริมถนนสาธารณะ หน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองสิงห์บุรี จว.สิงห์บุรี พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้รับนางมะคิ่น ผู้ต้องหาที่ 1 เข้าเป็นพนักงานในร้านซักผ้าหยอดเหรียญซึ่งตั้งอยู่ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.บางขวัญ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จว.ฉะเชิงเทรา ในตำแหน่งแม่บ้าน

โดยมี น.ส.ขนิษฐา (นามสมมติ) สัญชาติไทย ผู้ต้องหาที่ 2 ทำหน้าที่เป็นพนักงานประจำออฟฟิศ มีหน้าที่ดูแลเปิดตู้เก็บเงินเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ และนำเงินไปฝากเข้าบัญชีของผู้เสียหาย แต่ในบางครั้ง ผู้ต้องหาที่ 2 ก็จะใช้ให้ นางมะคิ่น ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้เปิดตู้และเก็บเงินมาส่งให้ผู้ต้องหาที่ 2

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ผู้เสียหายได้ตรวจสอบพบว่ามียอดเงินที่ทางร้านต้องได้รับกับจำนวนที่ปรากฏในรายการบัญชีรายรับของทางร้าน ไม่ตรงกัน ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าระหว่างเดือน มกราคม 2566 ถึงเดือน พฤศจิกายน 2566 มีเงินสูญหายไปเป็นจำนวน 761,978 บาท

ซึ่งหลังจากผู้เสียหายทราบเรื่อง ในช่วงคืนของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 นางมะคิ่น ได้เก็บข้าวของแล้วหลบหนี จากการตรวจสอบภายหลังพบว่า ช่วงเดือน กันยายน 2565 ถึงเดือน พฤศจิกายน 2566 นางมะคิ่น ได้มีการวานให้ ผู้ต้องหาที่ 2 โอนเงินเป็นจำนวนหลายครั้งซึ่งยอดเงินที่โอนเกินกว่าจำนวนเงินเดือนที่ตนได้รับทุกเดือน รวมถึงรายการเดินบัญชีของผู้ต้องหาที่ 2 ก็มีเงินเข้าในลักษณะต้องสงสัย

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2566 พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอหมายจับ ผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 ต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับที่ จ.394/2566 และ ที่ จ.395/2566 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2566 ในความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง

จับแม่บ้าน-min

แม่บ้านแสบหางานใหม่

โดยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้จับกุมผู้ต้องหาที่ 2 นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายก่อนแล้ว​จากการสืบสวนของชุดจับกุมทราบว่า หลังจากที่นางมะคิ่น ได้หลบหนีออกจากร้านซักผ้าหยอดเหรียญ ได้ไปสมัครเข้าทำงานกับนายจ้างรายใหม่ในพื้นที่ ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองสิงห์บุรี จว.สิงห์บุรี จึงได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์ เพื่อสืบสวนติดตามจับกุม

จนกระทั่งพบนางมะคิ่น ในบริเวณริมถนนสาธารณะ หน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน ต.ต้นโพธิ์ อ.เมืองสิงห์บุรี จว.สิงห์บุรี จึงได้แสดงหมายจับและจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะชิงเทรา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในชั้นจับกุมจากการสอบถามนางมะคิ่น ให้การว่าสาเหตุที่หนีออกจากงานที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญเนื่องจากต้องการไปหางานที่มีค่าจ้างสูงกว่า และปฏิเสธว่าไม่ได้ลักเงินของผู้เสียหายไป

จับแม่บ้าน2-min

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ