อยู่ในช่วงการรักษาอาการโควิด-19 สำหรับ แจ๊ส ชวนชื่น ที่ตรวจพบว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมาและเข้ารับหารรักษาโดยด่วย

ล่าสุดกลางดึกของคืนวันที่ 12 เม.ย. แจ๊สได้ไลฟ์เล่าอาการที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ว่า ตนอยากมาอัปเดตอาการอยู่โรงพยาบาลมาเป็นวันที่ 2 มีอาการปวดตัว แสบคอ ไอ มีไข้ อาการที่มีขนาดนอนปิดแอร์ ใส่เสื้อกันหนาวหนามาก ห่มผ้าด้วยยังหนาวสั่น

ส่วนเรื่องที่มีคนดราม่ากันว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้น อย่างนี้ ตนอยากบอกว่าไม่มีใครเขาอยากติด ขนาดตนเองและภรรยาระวังตัวกันมาก ไปซื้อของมาตุน บวกกับความคิดว่าใส่แมสก์ก็น่าจะเอาอยู่ แต่ที่สุดแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้

อยากแนะนำว่าเป็นไปได้ออกไปแค่ซื้อของมาตุนไว้อย่างเดียว อย่าออกไปไหนเด็ดขาด มันน่ากลัวมากๆ และห้องพยาบาลตอนนี้หายากมาก กว่าตนจะได้ห้องต้องรอคนออก อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพ ระวังตัวกันให้มากกว่าเดิม โรคนี้มันประสาทเสียกับคนรอบข้าง ภรรยาของตนร้องไห้ตลอด ส่วนลูกยังเล็กอาจจะยังไม่ได้รู้สึกอะไร

อยากจะเล่าบรรยากาศวันที่ไปตรวจให้ฟังว่าวันนั้นตนเป็นไข้ ภรรยาบอกให้ไปตรวจ โชคดีที่วีคนั้นเป็นวีคทำงานและตกลงกันไว้ว่าจะนอนคอนโด เพราะหากติดเชื้อลูกจะได้ไม่รับเชื้อ ตนไปตรวจกลับมานอนอยู่ที่คอนโด ตื่นขึ้นมาตอนเช้า เห็นอินสตาแกรม บอล เชิญยิ้ม เป็นโควิด ตนเห็นภรรยานั่งอยู่ที่ระเบียง ภรรยารู้ก่อนที่ตนจะรู้ บรรยากาศตอนนั้นบอกไม่ถูก คนรักกันต้องมาระแวงกันมันโคตรทุกข์เลย ภรรยาแยกกลับไปทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะไปนอนไหนด้วยซ้ำเพราะนอนบ้านก็ไม่ได้ 

ก็เลยใช้รถบ้านที่มีมาจอดหน้าบ้านและภรรยาก็นอนอยู่ในรถบ้านนั้น ตนคุยกับภรรยาตลอดว่าทุกข์มาก เห็นลูกเดินอยู่แต่ลูกเข้ามาหาไม่ได้ ความรู้สึกตอนทราบว่าเป็นโควิดความคิดมันฟุ้งไปหมด เรื่องแบบนี้ไม่เป็นไม่รู้เลย อยู่คนเดียวในห้องทั้งๆ ที่เราเหลือใคร แต่เรารู้สึกไม่เหลือใครเพราะอยู่ได้แต่ในห้อง ทุกคนอยู่กับเราได้แค่ห่างๆ ภรรยาก็ร้องไห้เพราะเป็นห่วง

จนกระทั่งเข้ามาโรงพยาบาลก็โทรหาภรรยาตลอด เพราะคนไม่เคยห่างกัน ภรรยาบอกว่าถ้าหายจากโรคนี้จะบอกรักกันทุกวัน ซึ่งตนเองก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน งาน เงิน ก็สำคัญ แต่ถึงจะมีเงินก็ไม่สามารถซื้อสิ่งนี้ได้เลย ทำให้ตนมาคิดว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน

ตอนนี้ใครไม่มีเงินก็หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันไปก่อน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การบอกรักกับคนใกล้ตัว แสดงความรักกันให้มากที่สุด อย่าทำงานจนลืมอะไรบางอย่าง ซึ่งตนเป็นมาแล้ว ยามที่เจ็บไข้ได้ป่วยเราไม่มีใครหรอก นอกจากเพื่อนที่รักเราจริง ภรรยาและครอบครัว พ่อแม่ ไม่ว่าคุณจะมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ ยามคุณป่วยไข้ สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ช่วยคุณได้เลย

และ แจ๊ส ปิดท้ายด้วยการขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือและเป็นห่วง ขอให้ทุกคนสู้ๆ รวมทั้งขอโทษกับสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นแล้วมันไปกระทบคนอื่น

ท่ามกลางเพื่อนๆ แฟนๆ ที่เข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้แจ๊สกันอย่างล้นหลาม