แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา หลบจากจีน ไปอาศัยอยู่ญี่ปุ่น นาน 6 เดือนแล้ว หลังถูกรัฐบาลจีนเล่นงานนำไปปรับทัศนคติ และหายตัวไปเป็นเวลาหลายเดือน
สำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานว่า แจ็ค หม่า มหาเศรษฐีพันล้านผู้ก่อตั้ง อาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ วัย 58 ปี ซึ่งผงาดขึ้นมาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของจีน ได้หลบหนีออกจากประเทศจีนไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นพร้อมครอบครัวมาเป็นเวลานานเกือบ 6 เดือนแล้ว หลังเก็บตัวเงียบทบไม่ปรากฏในที่สาธารณะตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เหตุรัฐบาลจีนใช้นโยบายปราบปรามพวกเศรษฐีนายทุนบริษัทเทคโนโลยีของปักกิง
เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มจากแจ็ค หม่าวิพากษ์วิจารณ์ทัศนคติของหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐอย่างเปิดเผยว่า ขัดขวางนวัตกรรม เป็นเหตุให้อาลีบาบากลายเป็นสายล่อฟ้าในการปราบปรามเทคโนโลยีขนาดใหญ่ถูกรัฐบาลจีนเล่นงานตอบโต้ด้วยการให้ผู้ตรวจสอบจีนขัดขวางบริษัท Ant Group
ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Alipay ด้านการชำระเงินออนไลน์ของอาลีบาบา โดยให้ระงับการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งแรกแก่ประชาชนทั่วไปมูลค่า 37,000 ล้านดอลลาร์ และยังสั่งปรับเงินอาลีบาบาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โทษฐานมีพฤติกรรมผูกขาด
ทำให้ราคาหุ้นของอาลีบาบาร่วงลงและหม่าสูญเสียสถานะของเขาในฐานะมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของจีน นับตั้งแต่นั้นมา หม่าผู้ปกติก็เงียบ ยกเลิกการปรากฏตัวทางทีวีและหลีกเลี่ยงสื่อสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า แจ็คหม่าได้มอบอำนาจการควบคุมบริษัทส่วนใหญ่ให้กับผู้บริหารอายุน้อย กล่าวกันว่ากำลังลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน
นอกจากนี้ ตามรายงาน แจ็ค หม่ายังคงรักษาความเป็นส่วนตัว เช่น วาดภาพสีน้ำ สะสมงานศิลปะญี่ปุ่นร่วมสมัย แช่น้ำพุร้อน และเล่นสกีในชนบทนอกกรุงโตเกียว แถมเจ้าพ่อเทคโนโลยีรายนี้ยังได้เป็นสมาชิกขาประจำของคลับสุดพิเศษในย่านกินซ่าและมารุโนะอุจิ
ซึ่งเขามองหาลู่ทางที่จะขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยกระทบไหล่กับนักธุรกิจชาวจีนผู้มั่งคั่งที่ออกจากแผ่นดินใหญ่และย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงของญี่ปุ่นเช่นกัน ทั้งนี้ หม่า ยังเดินทางไปเยือนสหรัฐฯและอิสราเอลเป็นประจำ
ขอบคุณที่มาจาก Financial Times, The Guardian, AFP