‘แจ็คกี้’เผยธาตุแท้สาวฮา – แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ สำหรับนักแสดงสาว ‘คุณแม่น้องบอง’ หรือ ‘แจ็คกี้’ ชาเคอลีน มึ้นช์ ที่ล่าสุดฟาดบท ‘นางฟ้า’ หรือ ‘ดาริกา’ ในละคร “นางฟ้าอสูร” ทางช่อง 3 ของผู้จัด ‘เปี๊ยก’ พิศาล อัครเศรณี จนเรตติ้งนำโด่ง

และยังมีผลงานละคร “เกมล่าทรชน” ในบท ‘จอมขวัญ’ ให้ท้าฝีมือ นอกจากนี้ยังควบบทบาทใหม่กับการเป็นพิธีกรรายการ “ข่าวสามสี”

ปีนี้เฮงมาก งานรุมเร้า?

แจ็คกี้ – “ปีนี้เป็นปีเฮงก็ว่าได้ ในบทบาทการเป็นพิธีกรรายการข่าวสามสีเป็นโอกาสใหม่ๆ ผู้ใหญ่ไว้ใจให้ลองทำ ก็ยังต้องมีปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงเรียนรู้อีกเยอะ มากค่ะ ส่วนละคร นางฟ้าอสูร กระแสดีมาก เรตติ้งดีมาก เราดูเองยังสนุกยังขำเลย นอกจากนี้ก็ยังมี เกมล่าทรชน เพิ่งออกอากาศไปค่ะ”

ตอนที่รู้ว่าจะได้มาเล่นละครของ อาเปี๊ยก แอบกลัวเรื่องตบจูบบ้างไหม?

แจ็คกี้ – “อ๋อ…ตอนนั้นไม่ได้คิดกลัวเรื่องนั้นเลย กลัวอาเปี๊ยกก่อนเลยอย่างแรก แล้วตอนที่แจ็คกี้เข้าไปคุยยังไม่รู้ว่าตัวเองเล่นเป็นนางเอก แต่รู้ว่าอาเปี๊ยกอยากเจอ ก็เลยไปกับคุณแม่ไปนั่งคุยกัน พอคุยเสร็จอาเปี๊ยกบอกว่าน่าจะได้ เท่าที่คุยไม่น่าจะเรียบร้อย เพราะตอนแรกที่อาเปี๊ยกเห็นคิดว่าเราเป็นคนเรียบร้อยมาก แต่พออาเริ่มคุยไปเรื่อยๆ ถึงจับทางได้ว่าเราไม่ได้เรียบร้อย พูดคุยสักพักอาถึงบอกว่าอยากให้เล่นเป็นนางเอกเรื่องนี้”

“เรื่องนี้เป็นละครรีเมก แล้วด้วยความที่ตอนนั้นคือ 6 ปีที่แล้ว ก็ต้องมีการปรับให้เข้ายุคมากขึ้น การกักขังฉันเถิดกักขังไปมีได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องสู้ให้สุดใจระดับหนึ่งตามสไตล์อาเปี๊ยกด้วย”

พอไปเล่นจริงๆ บทที่ต้องถูกโดนกระทำมีเยอะไหม?

แจ็คกี้ – “เยอะ เพราะเราก็ไปทำพระเอกไว้เยอะ ตอนนั้นเนื้อตัวเขียวช้ำกลับบ้านเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่ไม่ชอบมากๆ คือกุญแจมือ คมมาก ช่วง 3-4 ตอนแรกต้องใส่กุญแจมือตลอด บอกเลยเกลียดกุญแจมือมาก เจ็บตัวแต่คือมันส์ค่ะ”

ร่วมงานกับ แม็ค ปวิช เป็นยังไงบ้าง?

แจ็คกี้ – “เรื่องแรกที่เล่นคู่กัน ตั้งแต่วันที่ไปนั่งอ่านบทด้วยกันจะรู้เลยว่าพี่เขาไม่ห่วงหล่อ เล่นอะไรเต็มที่ตั้งแต่วันซ้อม เลยรู้สึกว่าคนนี้เราสามารถเต็มที่ได้ ไม่ต้องมานั่งคิดว่าถ้า เราแลบลิ้นใส่แล้วเขาจะไม่กล้าแลบลิ้นกลับ เพราะเขาก็จะแลบลิ้นใส่กลับมาหาเราเต็มที่เหมือนกัน บิลด์แล้วขึ้น เลยรู้สึกสนุกเวลาต้องเล่น ด้วยกัน”

ละครถ่ายเสร็จตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว ยังไม่ได้ออกอากาศ สักที รู้สึกใจแป้วบ้างไหม?

แจ็คกี้ – “ตอนถ่ายจบมีแววจะได้ออกอากาศตลอดเลยนะคะ ตอนนั้นจะต้องได้ออกทางช่อง 28 แต่ช่อง 28 หายไป เริ่ม ไม่มั่นใจ เพราะละครเรื่องนี้ทำมาเพื่อช่อง 28 โอเคถ้าจะ ไม่ได้ออกอากาศเราก็เข้าใจในกระบวนการ ก็ไม่คิดว่าจะได้มาออกอากาศช่อง 33 ดีใจมากค่ะ อย่างเดียวที่รู้สึกเสียดายเสียใจคืออาเปี๊ยกอยู่ไม่ทันได้ดูละครเรื่องนี้ แต่ก็รู้สึกว่าอาน่าจะสัมผัสได้ค่ะ”

นางฟ้าอสูรเป็นละครที่ตัวเองเล่นเป็นนางเอกเรื่องที่เท่าไหร่?

แจ็คกี้ – “เรื่องที่ 2 ค่ะ เรื่องแรก ตะวันยอดรัก มีแค่สองเรื่องเท่านั้น แถมเรื่องที่ 2 ยังถูกดองนาน 6 ปี”

จริงๆ เหมือนตัวเราจะถูกปูทางมาให้เป็นนางเอก แต่สุดท้ายเส้นทางก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น?

แจ็คกี้ – “ส่วนตัวไม่ซีเรียสเลย อาจเพราะเราสนุกกับการเล่นละคร สามารถรับได้หมด แต่อาจจะมีบางบทบาทที่เรารู้สึกท้อตรงที่ไปต่อยาก ด้วยเราชอบแสดง ก็อยากแสดงไปเรื่อยๆ แล้วการแสดงจะสนุกถ้ามันได้เล่นทั้งเรื่อง เพราะเราจะได้ทำการบ้านตั้งแต่แรกจนจบ ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นพระเอกนางเอกนะคะ แค่อยากมีคาแร็กเตอร์ที่เป็นบทบาทสำคัญในเรื่องให้ได้ทำการบ้านได้ทำการแสดงอย่างเต็มที่ เราอาจจะไม่ได้เป็นคนเก่งมากพอที่จะแบบมา 2 ตอนแล้วแสดงได้ดีมาก ไม่เก่งขนาดนั้น บางทีก็อยู่ที่เรื่องของฝีมือด้วย”

ความที่ภาพลักษณ์เฮฮาขำขันของเรา มันจะทำให้กลับไปเป็นนางเอกได้ยากแล้วไหม?

แจ็คกี้ – “เรารักการแสดง ทำมา 13 ปี แล้วเรากำลังจะแก่ เลยรู้สึกว่าเราต้องเข้าใจโลกที่เปลี่ยนไป เมื่อก่อนมันคือโทรทัศน์อย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้มีเรื่องออนไลน์ ก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถยึดอาชีพนี้ในการเลี้ยงดูเราไปตลอดจนแก่เฒ่าได้หรือไม่ ใจอยากทำแต่แค่มันเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง เลยรู้สึกว่าถ้าเราอยากมีอาชีพที่มั่นคงเราก็อาจจะต้องแสวงหาอาชีพอื่นที่มาทำให้เราสามารถดูแลพ่อแม่ได้อย่างสบายใจ และรับงานละครได้อย่างสบายใจ อีกอย่างคือ 13 ปีไม่ได้เป็นตัวเองเลย ในเมื่อโลกออนไลน์มันคือการเป็นตัวเอง เราก็ไม่เห็นจำเป็นว่าจะต้องเป็นคนอื่น เป็นเราในเวอร์ชั่นแบบนี้ไปดีกว่า”

ไม่ใช่แค่เป็นสาวฮา ความแซ่บก็มี?

แจ็คกี้ – “ชุดว่ายน้ำ บ้านดาวของแจ็คกี้แต่ละคนเซ็กซี่หมดเลย ดังนั้นเราก็จะได้รับอิทธิพลพวกนี้มาจากรุ่นพี่นี่แหละ เรียนรู้จากเขา เพราะเราไม่ได้เป็นสายนั้น อินเนอร์ก็ไม่ได้เซ็กซี่มาก เป็นคนตลกมากกว่า อย่างไปทะเลเราเป็นคนชอบใส่ชุดว่ายน้ำอยู่แล้ว เป็นคนฟรีมากกับเรื่องนี้ถ้าร่างกายพร้อมนะ แต่เอาจริงๆ ถ้าเทียบกับคนอื่นในบ้านดาว แจ็คกี้คือเบา”

ตอนนี้กลายเป็นสาวฮอตไปแล้ว มีหนุ่มๆ มาจีบบ้างไหม?

แจ็คกี้ – “มีบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครที่ได้ไปต่อ ดวงสมพงศ์กับสามีชาวบ้านค่ะ (หัวเราะ) ส่วนใหญ่ที่มาจีบเป็นคนนอก แล้วเราชอบจับได้ว่าเขาไม่ได้มีหรือจีบเราคนเดียว 3 คนล่าสุดที่มาจีบ จับได้ว่าเขามีภรรยาอยู่แล้วหมดเลย”

“เราก็สแกนระดับหนึ่ง เราอายุ 28 แล้ว พอจะเริ่มคุยกับใครต้องคิดเยอะ เลยมีแผนกเอฟบีไอส่งไปสืบ พอสืบมาส่วนใหญ่จะได้ครอบครัวกลับมาด้วย บางคนหนักถึงขั้นเป็นแฟนเพื่อน แต่ใช้ไอจีหลุมมาจีบ”

พอเจอแต่คนแบบนี้เข้ามาทำให้กลัวความรักบ้างไหม?

แจ็คกี้ – “ไม่ได้กลัวความรัก แต่กลัว จุดเริ่มต้น กลัวการเริ่มคุยกับคน มันจะยากช่วงแรก แจ็คกี้ไม่ได้ติดกับเรื่องพ่อม่ายหรืออะไร แต่แค่ว่าคุณต้องแสดงความสบายใจให้เราเห็นตั้งแต่แรก ถ้ามางุบงิบมุบมิบก็ขอตัดไม่คุยเลยดีกว่า”

เคยไปดูดวงหรือเปล่า?

แจ็คกี้ – “เคยค่ะ หมอดูก็ทักว่าอาจจะได้คนมีตำหนิ ซึ่งคนมีตำหนิมีหลายอย่าง อย่างแจ็คกี้เองก็ถือว่าเป็นคนมีตำหนิ เพราะไม่ได้ใช้ชีวิตและเติบโตในประเทศที่ตัวเองเกิด จริงๆ คือเกิดที่ไหนตายที่นั่น แจ็คกี้เกิดที่ประเทศเยอรมนีแต่มาเติบโตที่เมืองไทย ถือว่าเป็นคนมีตำหนิ ผู้ชายก็อาจจะแบบ เคยมีครอบครัว เคยแต่งงาน มีลูกติด หรืออาจจะเป็นคนเกิดที่ไหนแล้วไม่ได้เติบโตที่นั่น อย่างพี่เกรท (วรินทร) เกิดเพชรบูรณ์ มาเติบโตที่กรุงเทพฯ อันนี้ถือว่าเป็นคนมีตำหนิ ครบอยู่ ได้อยู่ (หัวเราะ)”

หัวใจมีแต่พี่เกรท ผู้ชายมีตำหนิยังวกไปหาเขาได้อ่ะเนอะ?

แจ็คกี้ – “เป็นการเล่นมุข มันได้จังหวะพอดี ตอนนี้ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่าพี่เกรทเป็นผู้ชายในอุดมคติของแจ็คกี้ แล้วเรายกเขาไว้อยู่บนหิ้ง ให้เขาอยู่หล่อๆ บนนั้นไป”

ฝากถึงคนที่จะเข้ามาจีบ?

แจ็คกี้ – “อยากให้จริงใจต่อกัน ถ้าตัดสินใจ จะคุยกันแล้ว ถ้าอยากจะเริ่มต้นกัน มีอะไร ก็บอกกันตรงๆ ตั้งแต่แรก ไม่เอามุบมิบเพราะถ้ามุบมิบแสดงว่าไม่บริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก อันนั้นคือไม่คุย”

นิยามความรัก?

แจ็คกี้ – “ความรักก็ต้องเป็นกำลังใจดีๆ ให้กัน เป็นพลังงานบวกให้กัน คอยสนับสนุนกัน เขาท้อเราดึง เขาถึงเวลาเราท้อ”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล