โยนให้เป็นกำๆสายเปย์มาก เบน ชลาทิศ รับทิปเป็นกำๆปึ๊งๆ ย้อนเล่าความเจ้าชู้ตัวแม่ เผยปมร่ำไห้ข้างเวที มุมมองความรักเปลี่ยน
นักร้องเสียงดี เบน ชลาทิศ ที่วันนี้จะมาเผยทุกซอกทุกมุมเรื่องความรัก รับอดีตเคยเป็นคนร่าเริง และมีปัญหาเรื่องหึงหวง จนทำให้ต้องเลิกราไปหลายคน แต่ปัจจุบันขอเปิดกว้าง ปลื้มนักท่องเที่ยวจีนสายเปย์ให้เงินเป็นแสน พร้อมเล่าอดีตถึงวันที่แม่รู้ว่าเป็นเพศทางเลือก ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา , ชมพู่ ก่อนบ่าย และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
นักท่องเที่ยวจีนให้ทิปหนัก?
เบน : เขาโยนมาทีเป็นกำๆ เขาจะเป็นสายเปย์มาก เวลาเราพูดอะไรแซวเขายังงี้ เป็นเงินไทย อันนี้ยังไม่เยอะที่สุด อันนี้เขาโปรยน่ารักๆ แต่อีกอันนึงเขาจะเป็นปึ๊งๆ ปึ๊งละแสน นางยื่นให้เลย เขาขอเพลงจีน ถ้าเราร้องได้เขาจะแฮปปี้มากกลับโต๊ะไปหยิบเงินมา เราร้องไม่เป็นนะ จะขอยืมโทรศัพท์น้องมาดูเนื้อก่อน จัดไปเลยเปาบุ้นจิ้น
ก่อนหน้านี้ต้องปิดกับที่บ้าน?
เบน : ไม่ได้ปิดครับ แต่เราไม่ได้แต่งหญิง ผมก็เเป็นแบบนี้ สมัยก่อนผมก็มีเพื่อนเตะบอลเล่นบาสโรงเรียนชายล้วนเราก็มีแต่เพื่อนผู้ชาย
ชัดเจนตั้งแต่แรก?
เบน : เพื่อนทุกคนรู้หมดว่าผมเป็นเกย์ คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้เลย แต่วัยรุ่นเราจะแอบไปเดินตามคิวรถที่ขายหนังสือ เราจะไปซื้อหนังสือยังงั้นอ่ะ หนังสือผู้ชาย เราจะแอบเอาไปไว้ใต้เตียงห้องส่วนตัวเราแบบกระจัดกระจายวันดีคืนดีมันก็จะถูกจัดเป็นตั้งๆเรียบร้อย คุณแม่มาจัดห้องให้ ก็เอาเป็นว่าไม่ต้องคุยกันรู้เรื่องแล้ว
พอคุณแม่รู้ก็พาผู้ชายเข้าบ้าน?
เบน : ก็ไม่ได้ปิดอะไร ตอนนั้นกำลังจะเข้ามหาลัย นั่งรถเมล์มากรุงเทพ เจอผู้ชายคนนึงสุดท้ายก็เป็นแฟนกัน เรารู้สึกว่าเราไม่ได้ปิดบังอะไร เราเป็นคนไม่มีความลับกับที่บ้าน ก็พาแฟนไปที่บ้าน นอนที่บ้านได้
แนะนำยังไง?
เบน : แม่ครับนี่เพื่อน แต่เพื่อนตัวเตี้ย หัวล้าน อายุ 38 ตอนนั้นเราอายุ 18 เป็นคนชอบคนแก่กว่า แม่ก็แบบเพื่อนหรอก็ให้ลูกอยู่กับเพื่อนทั้งคืนได้ แต่วันรุ่งขึ้นก็มีคุยนิดหน่อย เขาจะนัดคุยกันแฟนผมด้วย บอกว่าน้องยังเด็กอยู่เลยกำลังจะเข้ามหาลัยขอให้น้องได้ใช้ชีวิตก่อน เขาจะให้เลิกกัน
แล้วเลิกกันมั้ย?
เบน : เลิกกันต่อหน้าแม่ ก็คุยๆแหละ ก็วัย 18 แหละกำลังพลุ่งพล่าน
ไปซาวน่า?
เบน : ซาวน่าของเกย์ มันคือสถานที่ผ่อนคลายอย่างนึง ใช้ศูนย์ออกกำลังกายเป็นการบังหน้า เราก็เป็นวัยเข้ามหาลัยพอดี ระหว่างทางจะไปมหาลัยผมก็มีสถานที่ของผมที่จะไปได้
เมื่อก่อนเจ้าชู้มั้ย?
เบน : ผมไม่เจ้าชู้ เวลาคบแฟนคบทีละคน แต่ผมไม่ได้ยึดติดเรื่องภายนอก ก่อนจะเป็นปัจจุบัน ประสบการณ์มันทำให้ผมเรียนรู้อะไรในมุมมองของผม
เคยโดนแฟนจับได้?
เบน : สมัยก่อนเป็นยังงั้น ต้องจับผิดกันคอยระแวงกัน ซึ่งผมไม่ชอบความรู้สึกนี้มาก ผมเป็นคนแฟร์ๆ สมัยเด็กๆเป็นแล้วผมต้องเลิกกัน 2-3 คนแรกในชีวิต ต้องเลิกกับเขา พอเรามาถามความรู้สึกตัวเองจริงๆเราเลิกกับเขาเพราะอะไรสรุปมันมาจากเรื่องหึงหวงกัน บางทีเรารู้สึกว่าเรื่องหึงหวงมันเป็นปัญหากับชีวิตเราตลอดเลย
เคยคบคนนึงแล้วหึงหวงมากๆจนมานั่งร้องไห้ข้างเวที?
เบน : ใช่ๆ มันต้องขออนุญาตให้เขาเก็บกระเป๋าออกจากบ้านไป เพราะเรารู้สึกมันเริ่มกระทบการทำงานเรา เพราะเขาไม่มีความไว้ใจให้กับเราแล้ว ยอมรับว่าตัวเองก็เป็นคนร่าเริง ไม่เคยทำให้แฟนไว้ใจได้เราก็เข้าใจ แต่มันเริ่มลามไปถึงเรื่องการทำงาน เรื่องงานเราจะชัดเจนมากทำงานคือทำงาน เราไปทำงานก็ยังมาหึงมาหวง เราไปทำงานที่นึงนักข่าวเต็มไปหมดเลยแล้วมายืนโวยวายร้องไห้ เรารู้สึกว่าอันนี้มันเริ่มกระทบกับการทำงานแล้ว คุยกันจริงจังว่าถ้ายอมรับตรงนี้ไม่ได้เราคงอยู่กันไม่ได้
เหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกต้องเลิก?
เบน : ช่วงที่ผมเรียนรู้ชีวิต 20 มีคบเป็นตัวตนอยู่หลายคน ถ้าเราไม่หึงเขา เขาก็หึงเรา แล้วต้องเลิกกัน จนมาถึงจุดนึงที่เราได้คุยกับตัวเอง เราไม่อยากเลิกกับใครเราอยากจะคบ ถ้าเราตัดเรื่องหึงหวงไปได้เราจะประคองความรักอยู่ได้มั้ยอันนี้เป็นที่มาที่ไปของเราที่เริ่มจะเปิดกว้างเรื่องพวกนี้
หึงยังไง?
เบน : เราเป็นแฟนมันมีความหึง แต่ว่ามันถึงจุดนึงว่าต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้กันและกัน
จะเลิกเจ้าชู้ แต่ดันไปเจออีกคนที่เจ้าชู้เหมือนกัน คิดว่าเป็นกรรม?
เบน : 2 คนแรก ผมยังอยู่ในวัยร่าเริง ก็ต้องเลิก พอวันนึงเรารู้สึกอยากจะหยุดลงหลักปักฐาน เราก็ได้เจอกับอีกคน ซึ่งเขาเป็นเหมือนเราสมัยก่อนเลย ก็ต้องเลิกกันอีก เพราะเราอยากให้เขาอยู่กับเรา หลังจบจากคนนี้มาคิดได้ว่าปัญหามันคือหึงหวงกันเท่านั้นเอง
ใช้เวลาตัดใจนานมั้ย?
เบน : ตัดได้เร็ว ก็ยังรู้สึก ถ้ามีการเสนอแล้วไม่มีการสนองผมตัดได้เลย ไม่ใช่ไม่รู้สึกแต่ตัดได้
ตอนนี้มุมมองความรักเปลี่ยนไป?
เบน : เราก็ต้องเรียนรู้ชีวิตไหนลองเปิดกว้างดูสิ มาห้ามให้เราหยุดร่าเริงก็ไม่ได้ ถ้าจะมาบังคับให้เขาหยุดร่าเริงเพื่อเราคนเดียวก็ไม่แฟร์ งั้นไหนลองฉันเป็นบ้านของเธอ เธอเป็นบ้านของฉัน สุดท้ายแล้วเรากลับมาอยู่บ้านกันนะ แต่ว่าระหว่างเราไม่ยุ่งซึ่งกันและกัน
แยกเรื่องความรักกับความใคร่ออกจากกัน?
เบน : ครับ แต่ไม่ใช่ไม่มีอะไรกัน มีได้ แต่ไม่ใช่จุดประสงค์หลัก แค่เราไม่ชอบคนโกหก เราเป็นคนเปิดกว้างขนาดนี้เราไม่ต้องการให้รู้สึกว่าเราโดนหลอก เพราะนี่ก็กว้างมากแล้วมีอะไรบอกได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าไม่โรแมนซ์กัน 2 คนแบบนี้ไม่โอเค มันไม่ใช่บ้านแล้ว
2 ปีที่เลิกไปมีปัญหาอะไร?
เบน : ย้อนกลับไปหลายปีไปเคานต์ดาวน์ที่เชียงใหม่ วันรุ่งขึ้นจะไปกินข้าวกับแฟนตื่นเต้นตื่นเร็ว แฟนผมจะนอนกันอยู่บนเตียงไม่ยอมตื่นกัน เราก็ไปกระโดดบนเตียงเหมือนในหนัง คงดูหนังเยอะ แล้วไปโดนต่อมอะไรเค้าไม่รู้นางคงจะแบบโมโห เวลาใครโมโหเราก็จะโมโห เราก็เอายาสีฟันป้ายหน้าให้รีบตื่นไปล้างหน้าเพราะหน้าเลอะ ยิ่งโกรธไปใหญ่ ผมก็เดินออกไปรอที่สระว่ายน้ำ สักพักนึงไม่ตามเก็บกระเป๋าไปแล้ว บินกลับบ้าน นางโกรธ
พยายามง้อ?
เบน : ใช่ เราไม่รู้ว่านางกลับบ้าน เรายังไม่คิดว่าไปไหนย้ายโรงแรมนอน โทรไปไม่รับ สักพักนึงบล็อกหมด แล้วก็หายจากชีวิตกันไป
กลับมาเจอกันได้ยังไง?
เบน : คงเป็นเพราะไฟร่าเริง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ สีลมสมัยก่อนคนเบียดกันมาก แก๊งกะเทยพร้อมปากว่ามือถึงเพื่อนนางได้เพื่อนกันหมดเลย เหลือนางนางก็เหงาไม่ได้ใคร พวกเกย์จะมีแอพพลิเคชั่นใครอยู่ระยะไหนบ้าง สักพักก็เด้งขึ้นมาเราก็กดเข้าไปเลยแกล้งแซว สรุปก็มาเจอกันกินข้าวกัน วินาทีที่เจอกันก็คลิกเลยเป็นปกติเลยเหมือนจนถึงทุกวันนี้
ใครขอโทษใครก่อน?
เบน : ไม่มีการขอโทษเลยครับ ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม เราไม่ได้คาใจ เขาก็คงไม่ได้คาใจ