‘แคนาดา-ยุโรป’อลหม่าน ม็อบต้านวัคซีนโควิดป่วนไม่เลิก ลั่น เดินหน้าชุมนุมต่อจนกว่ารัฐบาลจะยุติมาตรการบังคับรับวัคซีนป้องกัน
เมื่อ 13 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า ความพยายามสลายการชุมนุมตามคำสั่งศาลต่อผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการต่อต้านการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ที่ปิดสะพานข้ามแดนเมืองวินด์เซอร์ รัฐออนแทริโอ ประเทศแคนาดา ประสบความล้มเหลว โดยผู้ชุมนุมที่เหลือระบุว่า “ไม่มีอะไรจะเสีย” และจะชุมนุมยืดเยื้อต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะยุติมาตรการบังคับรับวัคซีนป้องกัน
การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นยืดเยื้อมานานกว่าสัปดาห์แล้ว หลังกลุ่มฟรีด้อมคอนวอยประท้วงต่อต้านข้อบังคับของทางการแคนาดาให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกที่ผ่านสะพานแอมบาสซาเดอร์ เส้นทางเชื่อมสำคัญทางเศรษฐกิจระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ ต้องรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วจึงจะผ่านได้ ส่งผลให้ทางกลุ่มนำรถไปจอดทางขึ้นสะพานเป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร
ต่อมาศาลแคนาดามีคำสั่งให้ผู้ประท้วงยุติการปิดกั้นสะพานดังกล่าวทำให้ 12 ชั่วโมงถัดมาเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลนำกำลังเข้าปราบปราม โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่ยินยอมนำรถออกแต่ผู้คนกว่า 100 คน ยังไม่ยอมเดินทางกลับออกจากสะพาน ส่วนใหญ่เป็นผู้คลั่งศาสนา กลุ่มต่อต้านการสวมใส่หน้ากากอนามัยและวัคซีน รวมทั้งชาวบ้านที่เบื่อหน่ายกับการมาตรการของรัฐ
วันเดียวกัน ยังเกิดการปะทะระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมต่อต้านมาตรการต่อต้านการระบาดที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทำให้ตำรวจใช้กระสุนแก๊สน้ำตายิงเข้าสลายการชุมนุม มีผู้ถูกจับกุม 54 คน และเปรียบเทียบปรับอีก 300 คน ขณะที่ในนครเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้ประท้วงที่ได้แรงบันดาลใจจากการปิดถนนของกลุ่มฟรีด้อมคอนวอย เดินทางมาชุมนุมที่อาคารรัฐสภาแล้ว