แคนาดา – วันที่ 21 ม.ค. บีบีซี รายงานว่า ตำรวจในแคนาดาพบศพ 4 คน ในทุ่งหิมะ ใกล้ชุมชนเอเมอร์สัน รัฐแมนิโทบา ใกล้พรมแดนสหรัฐอเมริกา เมื่อวันพุธที่ 19 ม.ค. ซึ่งเสียชีวิตจากการสัมผัสอากาศเนื่องจากความเย็นยะเยือก ซึ่งอุณหภูมิลดลงเหลือ -35 องศาเซลเซียส พร้อมลมหนาวพัด
ตำรวจแคนาดารับแจ้งเมื่อราว 09.30 น. วันนั้น ว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรและตระเวนชายแดนสหรัฐ จับกุมคนกลุ่มหนึ่งที่ข้ามมาจากชุมชนเอเมอร์สัน ซึ่งรู้จักกันในฐานะจุดข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่สหรัฐบอกตำรวจแคนาดาว่า พบชายคนหนึ่งมีของใช้สำหรับทารก แต่ไม่พบทารกด้วย
เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝั่งพรมแดนสหรัฐ-แคนาดา จึงออกค้นหาทารกโดยใช้รถสโนว์โมบายล์ และเอทีวี (รถสี่ล้อวิบาก) ก่อนพบ 4 ศพ ราว 13.30 น. ห่างจากพรมแดนสหรัฐราว 9-12 เมตร และเจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นหิมะลึกจนถึงเย็นวันเดียวกัน
ศพทั้งสี่เป็นผู้ชาย ผู้หญิง วัยรุ่นชาย และทารก ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐระบุเชื่อว่าเป็นครอบครัวจากอินเดียและพยายามข้ามพรมแดนเข้าไปในสหรัฐ
เจน แม็กแล็ตชี ตำรวจหญิง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจม้าแคนาดา รัฐแมนิโทบา แถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ม.ค. ถึงการพบ 4 ศพดังกล่าวว่า “สิ่งที่ฉันจะแบ่งปันคงยากที่หลายคนจะรับฟัง” และเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น “โศกนาฏกรรมใจสลายอย่างยิ่ง”
“คนกลุ่มนี้อยู่ตามลำพังท่ามกลางพายุหิมะ ต้องเผชิญไม่เพียงอากาศหนาวเย็น แต่ยังรวมถึงท้องทุ่งไร้จุดหมาย กองหิมะขนาดใหญ่ และความมืดมิด” เจน แม็กแล็ตชี กล่าว
ต่อมา วันพฤหัสบดีที่ 20 ม.ค. เจ้าหน้าที่สหรัฐในรัฐมินนิโซตาประกาศตั้งข้อหาลักลอบขนคนกับนายสตีฟ แชนด์ อายุ 47 ปี จากรัฐฟลอริดา ซึ่งถูกจับได้ว่าขับรถตู้ที่มีความจุผู้โดยสาร 15 คน ในพื้นที่ชนบทตามแนวชายแดนพร้อมกล่องอาหารและน้ำในรองเท้าบูตของนายแชนด์ และพบผู้โดยสารที่อยู่กับนายแชนด์ 2 คน เป็นผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารจากอินเดีย
ขณะที่ทั้งสองถูกพาไปสถานีตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่สหรัฐยังพบกลุ่มพลเมืองอินเดียอีก 5 คน ซึ่งกล่าวว่าเดินเท้ามา 11 ชั่วโมงแล้ว และคาดว่าจะมีคนมารับ หนึ่งใน 5 คนนั้นแบกเป้าสะพายหลังที่มีเสื้อผ้า ของเล่น และยา ของเด็กๆ ซึ่งเอามาให้ครอบครัว 4 คน แต่พวกเขาแยกจากกันตอนกลางคืน
ศพ 4 คนดังกล่าว ที่พบในแคนาดา สหรัฐออกแถลงการณ์คร่าวๆ ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันมากกว่าอินเดีย ส่วนผู้อพยพชาวอินเดียข้างต้นได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล