ยุคนี้ สมัยนี้ หลายคนมักจะพกแก้วส่วนตัว เป็นแก้วเก็บความเย็น ไปซื้อเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ตามร้านต่างๆ นอกจากจะช่วยลดขยะได้แล้ว ยังได้ส่วนลดในหลายๆ ร้านอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หยาน จง ไห่ นักพิษวิทยา ของไต้หวัน ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า แก้วเก็บอุณหภูมิที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิร้อนจัด หรือสัมผัสกับอาหาร เครื่องดื่ม อาจส่งผลอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเบาหวาน และโรคตับแข็ง อาจเสี่ยงถึงชีวิต
หยานจงไห่ ผู้อำนวยการศูนย์พิษทางคลินิกอนุสรณ์หลินโข่ว ชางกุง กล่าวว่า เมื่อผู้คนใช้แก้วที่พกมาเอง พวกเขาจะต้องใส่ใจดูแลรักษาแก้วให้เหมาะสม ไม่อย่างนั้น โรคกระเพาะลำไส้อักเสบร้ายแรง อาจจะถามหา อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แม้ว่าแก้วบางรุ่นจะทนความร้อนได้ แต่ไม่หมายความว่าจะปลอด สาร Bisphenol A (BPA) ซึ่งจะรั่วซึมออกมาจากแก้วเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูง ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์และพัฒนาการ และอาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคอื่นๆได้ ดังนั้นตอนที่เลือกซื้อแก้ว ต้องมั่นใจว่า จะต้องปลอดจากสาร bisphenol A (BPA)
อีกเรื่องคือ แม้แก้วสแตนเลสจะทนความร้อน แต่ต้องระมัดระวังเครื่องดื่มในแก้วอยู่ดี ในทางการแพทย์มีสิ่งที่เรียกว่า โซนอุณหภูมิอันตราย จุลินทรีย์และเชื้อโรคสามารถอยู่รอดได้ที่อุณหภูมิ 7 ถึง 60 องศาเซลเซียส หากเก็บเครื่องดื่มในแก้วเก็บความร้อนไว้ที่โซนอุณหภูมินี้เป็นเวลานาน เชื้อโรค แบคทีเรีย ก็จะแพร่พันธุ์ได้ง่าย และทำให้อาหารเป็นพิษได้
หลายคนที่ป่วยอาหารเป็นพิษ มักจะโทษอาหารมื้อสุดท้าย แต่มักจะลืมว่าเครื่องดื่มในแก้ว อาจจะเป็นต้นเหตุของโรคภัยได้ไม่ต่างกัน อาหารเป็นพิษที่เกิดจากการใช้แก้วไม่เหมาะสมมักจะถูกลืมๆ กันไป
กาแฟ ชา และเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีนมและน้ำตาล ควรเทลงในแก้วธรรมดาและดื่มให้หมดในครั้งเดียว ทางที่ดีควรดื่มให้หมดภายในหนึ่งชั่วโมง ไม่อย่างนั้นก็ต้องแช่ตู้เย็นไว้